ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇺🇸

สหรัฐอเมริกา ยอดขายปลีก รายเดือน (MoM)

ราคา

0.5 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-0.2 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-33.33 %

มูลค่าปัจจุบันของยอดขายปลีก รายเดือน (MoM) ใน สหรัฐอเมริกา คือ 0.5 % ยอดขายปลีก รายเดือน (MoM) ใน สหรัฐอเมริกา ลดลงเหลือ 0.5 % เมื่อ 1/3/2567 หลังจากมีค่าเท่ากับ 0.7 % เมื่อ 1/2/2567 จาก 1/2/2535 ถึง 1/5/2567 เฉลี่ย GDP ใน สหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 0.39 % ค่าสูงสุดตลอดเวลาอยู่ที่ 1/5/2563 ด้วย 18.8 % ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/4/2563 ด้วย -14.5 %

แหล่งที่มา: U.S. Census Bureau

ยอดขายปลีก รายเดือน (MoM)

  • แม็กซ์

ยอดขายปลีกเดือนต่อเดือnego

ยอดขายปลีก รายเดือน (MoM) ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/25670.5 %
1/2/25670.7 %
1/12/25660.4 %
1/11/25660.1 %
1/9/25660.8 %
1/8/25660.7 %
1/7/25660.5 %
1/5/25660.6 %
1/4/25660.7 %
1/1/25664.1 %
1
2
3
4
5
...
27

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ยอดขายปลีก รายเดือน (MoM)

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇺🇸
การขายสาขาของร้านค้า
2.332 ล้านล้าน USD2.317 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇺🇸
การใช้จ่ายของผู้บริโภค
16.112 ชีวภาพ. USD15.967 ชีวภาพ. USDควอร์เตอร์
🇺🇸
การออมส่วนบุคคล
3.6 %3.6 %รายเดือน
🇺🇸
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
68.2 points69.1 pointsรายเดือน
🇺🇸
ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล
0.2 %0.1 %รายเดือน
🇺🇸
คาดการณ์ผู้บริโภคของมิชิแกน
69.6 points68.8 pointsรายเดือน
🇺🇸
เครดิตของภาคเอกชน
12.485 ชีวภาพ. USD12.47 ชีวภาพ. USDรายเดือน
🇺🇸
ดัชนี Redbook
5.8 %5.3 %frequency_weekly
🇺🇸
ดัชนีแห่งความมั่นใจทางเศรษฐกิจ
44.2 points40.5 pointsรายเดือน
🇺🇸
บัญชีบัตรเครดิต
596.58 ล้าน 594.75 ล้าน ควอร์เตอร์
🇺🇸
ยอดขายปลีกโดยไม่รวมแก๊สและรถยนต์ MoM
0.7 %0.3 %รายเดือน
🇺🇸
ยอดขายปลีกประจำปี
1.7 %2.2 %รายเดือน
🇺🇸
ยอดขายปลีกไม่รวมรถยนต์
0.4 %0.1 %รายเดือน
🇺🇸
ยอดเงินคงเหลือของบัตรเครดิต
1.115 Trillion USD1.129 Trillion USDควอร์เตอร์
🇺🇸
ยอดหนี้รวม
17.7 USD Trillion17.503 USD Trillionควอร์เตอร์
🇺🇸
ราคาของรถยนต์มือสอง MoM
-0.1 %-0.5 %รายเดือน
🇺🇸
ราคาน้ำมันเบนซิน
0.83 USD/Liter0.85 USD/Literรายเดือน
🇺🇸
ราคารถยนต์มือสอง YoY
-12.1 %-14 %รายเดือน
🇺🇸
รายได้ส่วนบุคคล
0.3 %0.2 %รายเดือน
🇺🇸
รายได้ส่วนบุคคลที่ใช้ได้
21.856 ชีวภาพ. USD21.798 ชีวภาพ. USDรายเดือน
🇺🇸
สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันในมิชิแกน
65.9 points69.6 pointsรายเดือน
🇺🇸
สินเชื่อบุคคล
6.4 ล้านล้าน USD6.27 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇺🇸
หนี้จำนอง
12.52 Trillion USD12.44 Trillion USDควอร์เตอร์
🇺🇸
หนี้สินของครัวเรือนต่อ GDP
72.9 % of GDP73.4 % of GDPควอร์เตอร์
🇺🇸
หนี้สินจากกู้ยืมเพื่อการศึกษา
1.6 Trillion USD1.601 Trillion USDควอร์เตอร์
🇺🇸
หนี้สินจากสินเชื่อรถยนต์
1.616 Trillion USD1.607 Trillion USDควอร์เตอร์
🇺🇸
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร
8 %8.5 %รายเดือน

รายงานยอดขายปลีกรายเดือนในสหรัฐอเมริกามอบการวัดรวมของการขายสินค้าปลีกและบริการในช่วงระยะเวลาเดือน หน่วยค้าปลีกแบ่งออกเป็น 13 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ตัวแทนจำหน่ายยานยนต์และชิ้นส่วน (ประมาณ 20% ของยอดขายทั้งหมด), ร้านอาหารและเครื่องดื่ม (13%), ร้านสินค้าทั่วไป (12.5%), บริการด้านอาหารและสถานที่ดื่ม (11%), สถานีบริการน้ำมัน (10%), ผู้ค้าปลีกในช่องทางที่ไม่ใช่ร้านค้า (9.2%), ผู้จำหน่ายวัสดุก่อสร้างและสวน (6%), ร้านสุขภาพและการดูแลส่วนบุคคล (6%), ร้านเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์เสริม (5%), ผู้ค้าปลีกอื่น ๆ (2.3%), ร้านเฟอร์นิเจอร์ (2%), ร้านอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า (2%) และร้านสินค้าและสะสมกีฬา, งานอดิเรก, หนังสือ, และเพลง (1.7%)

คืออะไร ยอดขายปลีก รายเดือน (MoM)

ยอดขายปลีก MoM (Month-over-Month) หรือยอดขายปลีกรายเดือน คือดัชนีทางเศรษฐกิจที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการขายสินค้าปลีกในช่วงเวลารายเดือน โดยปกติดัชนีนี้จะถูกตีพิมพ์ในรูปแบบเปอร์เซ็นต์ และถือเป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญในการวัดดัชนีทางเศรษฐกิจที่ช่วยนำเสนอสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ การวิเคราะห์และตีความข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อนักเศรษฐศาสตร์ รัฐบาล นักลงทุน และบุคคลสำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดการเงินและการลงทุน ในแง่ของเศรษฐกิจ ดัชนียอดขายปลีก MoM มักถูกใช้เพื่อทำนายแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะสั้น การเปลี่ยนแปลงของยอดขายปลีกสามารถชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของ GDP (Gross Domestic Product) ผู้บริโภคมีสัดส่วนการใช้จ่ายที่ใหญ่ที่สุดในเศรษฐกิจ ทำให้การเปลี่ยนแปลงของยอดขายปลีกมีผลกระทบต่อตลาดแรงงาน จ้างงาน และนโยบายการเงินของธนาคารกลาง การวิเคราะห์ยอดขายปลีก MoM จะพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง เช่น ส่วนลด โปรโมชั่น ฤดูกาล และเหตุการณ์พิเศษ การเปลี่ยนแปลงในยอดขายที่ไม่มีการควบคุมอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ การทำความเข้าใจถึงบริบทที่เกี่ยวข้องสามารถให้ภาพชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับความหมายที่แฝงอยู่ในตัวเลข ขณะที่ยอดขายปลีก MoM อาจมีความผันผวนสูงในระยะสั้น แต่ก็ยังเป็นดัชนีที่สำคัญในการวางแผนกลยุทธ์การตลาด และการตัดสินใจทางธุรกิจ การเปรียบเทียบยอดขายปลีกระหว่างเดือนต่าง ๆ ช่วยให้บริษัทสามารถระบุแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในตลาด การศึกษาในระยะยาวของยอดขายช่วยให้เห็นถึงความเสถียรและการเจริญเติบโตขององค์กร การที่ยอดขายปลีก MoM มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงการเจริญเติบโต ปัจจัยหลายอย่างที่สนับสนุนการเพิ่มขึ้นของยอดขาย เช่น การเพิ่มขึ้นของระดับรายได้ของประชาชน อัตราการว่างงานลดลง และการบริโภคเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินมากขึ้นหากเศรษฐกิจอยู่ในสภาวะที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ยอดขายปลีกมีการเพิ่มขึ้น การใช้ข้อมูลจากยอดขายปลีก MoM ในการวางแผนกลยุทธ์การตลาดและการตัดสินใจทางธุรกิจจะพิจารณาจากหลายแง่มุม เช่น การเลือกเวลาที่เหมาะสมในการเปิดตัวสินค้าใหม่ การจัดโปรโมชั่นและส่วนลด การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งยังสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์การขายให้ได้ผลสัมฤทธิ์ที่ดีที่สุด ข้อมูลยอดขายปลีก MoM ยังคงเป็นเครื่องมือที่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่จะช่วยในการพยากรณ์และวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจในอนาคต ผู้ที่ลงทุนในตลาดการเงินสามารถพิจารณาข้อมูลนี้เพื่อเตรียมตัวและปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอการลงทุนให้เหมาะกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป การศึกษาแนวโน้มของยอดขายปลีก MoM ช่วยให้นักลงทุนสามารถลดความเสี่ยงในการลงทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ รัฐบาลและธนาคารกลางมักใช้ข้อมูลจากยอดขายปลีก MoM ในการประเมินและพัฒนานโยบายทางเศรษฐกิจ การวิเคราะห์และใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจเชิงเมตตระและเชิงนโยบาย เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ย นโยบายการเงิน และการบริหารจัดการการเงินของรัฐ เป็นการใช้ข้อมูลยอดขายปลีกเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจให้ยั่งยืน สรุปได้ว่าดัชนียอดขายปลีก MoM เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวัดสภาวะทางเศรษฐกิจและการเงิน การวิเคราะห์และการตีความข้อมูลเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่สำคัญในการทำความเข้าใจสภาพเศรษฐกิจและการสร้างกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจ รัฐบาล นักเศรษฐศาสตร์ นักลงทุน และผู้ประกอบการสามารถเตรียมตัวและปรับเปลี่ยนตามสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน