ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇬🇧

สหราชอาณาจักร อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

2.3 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-0.9 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-32.73 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน สหราชอาณาจักร คือ 2.3 % อัตราเงินเฟ้อ ใน สหราชอาณาจักร ลดลงถึง 2.3 % เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เคยเป็น 3.2 % เมื่อ 1/3/2567 จาก 1/1/2532 ถึง 1/5/2567 GDP เฉลี่ยใน สหราชอาณาจักร อยู่ที่ 2.83 % สถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่เมื่อ 1/10/2565 ที่ 11.1 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดจดบันทึกไว้เมื่อ 1/4/2558 ที่ -0.1 %

แหล่งที่มา: Office for National Statistics

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25672.3 %
1/3/25673.2 %
1/2/25673.4 %
1/1/25674 %
1/12/25664 %
1/11/25663.9 %
1/10/25664.6 %
1/9/25666.7 %
1/8/25666.7 %
1/7/25666.8 %
1
2
3
4
5
...
42

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇬🇧
CPI Transport
136 points135 pointsรายเดือน
🇬🇧
PPI อินพุต
-0.5 %-0.3 %รายเดือน
🇬🇧
การเงินเฟ้อด้านพลังงาน
-16.2 %-13.2 %รายเดือน
🇬🇧
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
0.2 %0.8 %รายเดือน
🇬🇧
ความคาดหวังเงินเฟ้อ
2.7 %2.6 %รายเดือน
🇬🇧
เงินเฟ้อค่าเช่า
7.2 %7.2 %รายเดือน
🇬🇧
เงินเฟ้อด้านอาหาร
1.9 %1.3 %รายเดือน
🇬🇧
ดัชนีราคาปลีก
3 %3.3 %รายเดือน
🇬🇧
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
134.3 points133.8 pointsรายเดือน
🇬🇧
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
136.6 points136.4 pointsรายเดือน
🇬🇧
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
131.6 points131.5 pointsรายเดือน
🇬🇧
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ป้อน YoY
-0.1 %-1.4 %รายเดือน
🇬🇧
ดัชนีราคาผู้ผลิตแกนกลาง
135.8 points135.5 pointsรายเดือน
🇬🇧
ดัชนีราคาผู้ผลิตชั้นนำ เดือนต่อเดือน
0 %0 %รายเดือน
🇬🇧
ดัชนีราคาผู้ผลิตหลัก เมื่อเทียบรายปี
1.3 %1 %รายเดือน
🇬🇧
ต้นทุนการผลิต
145.9 points147.3 pointsรายเดือน
🇬🇧
ต้นทุนการผลิต
136.2 points136.7 pointsรายเดือน
🇬🇧
ตัวคูณ GDP
110 points109.3 pointsควอร์เตอร์
🇬🇧
ภาวะเงินเฟ้อในการบริการ
5.2 %5.7 %รายเดือน
🇬🇧
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0 %0.3 %รายเดือน
🇬🇧
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
-0.3 %0 %รายเดือน
🇬🇧
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
3.6 %3.3 %รายเดือน
🇬🇧
อัตราเงินเฟ้อหลัก MoM
0.1 %0.2 %รายเดือน

ในสหราชอาณาจักร หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคได้แก่: การขนส่ง (14%) ที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค (14%) และการพักผ่อนและวัฒนธรรม (13%) อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์คิดเป็น 12% ร้านอาหารและโรงแรม 11% สินค้าและบริการอื่นๆ 9% เครื่องเรือน อุปกรณ์ในครัวเรือน และการซ่อมบำรุงตามปกติของบ้าน 8% และเสื้อผ้าและรองเท้า 6% หมวดอื่นๆ ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบและยาสูบ (5%) การศึกษา (3%) การสื่อสาร (3%) และสุขภาพ (2%)

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ