ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ปาปัวนิวกินี ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ใน ปาปัวนิวกินี อยู่ที่ 171.6 คะแนน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ใน ปาปัวนิวกินี เพิ่มขึ้นเป็น 171.6 คะแนน เมื่อ 1/9/2566 หลังจากที่มันอยู่ที่ 168.5 คะแนน เมื่อ 1/6/2566 จาก 1/3/2553 ถึง 1/12/2566 GDP เฉลี่ยใน ปาปัวนิวกินี อยู่ที่ 129.3 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกบันทึกเมื่อ 1/12/2566 โดยมีค่าสูงสุดที่ 173.6 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/3/2553 โดยมีค่าต่ำสุดที่ 90.8 คะแนน
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ·
แม็กซ์
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | |
---|---|
1/3/2553 | 90.8 points |
1/6/2553 | 91.8 points |
1/9/2553 | 92.8 points |
1/12/2553 | 93.9 points |
1/3/2554 | 94.9 points |
1/6/2554 | 95.9 points |
1/9/2554 | 96.9 points |
1/12/2554 | 98 points |
1/3/2555 | 99 points |
1/6/2555 | 100 points |
1/9/2555 | 100.5 points |
1/12/2555 | 103.7 points |
1/3/2556 | 104.9 points |
1/6/2556 | 105 points |
1/9/2556 | 106.6 points |
1/12/2556 | 106.7 points |
1/3/2557 | 108.8 points |
1/6/2557 | 110.4 points |
1/9/2557 | 112.3 points |
1/12/2557 | 113.7 points |
1/3/2558 | 115.5 points |
1/6/2558 | 116.8 points |
1/9/2558 | 118.7 points |
1/12/2558 | 121 points |
1/3/2559 | 123 points |
1/6/2559 | 124.7 points |
1/9/2559 | 126.8 points |
1/12/2559 | 129 points |
1/3/2560 | 130.4 points |
1/6/2560 | 132.1 points |
1/9/2560 | 133.3 points |
1/12/2560 | 135.1 points |
1/3/2561 | 135.7 points |
1/6/2561 | 137.5 points |
1/9/2561 | 139.3 points |
1/12/2561 | 141.5 points |
1/3/2562 | 142.5 points |
1/6/2562 | 143.4 points |
1/9/2562 | 144.5 points |
1/12/2562 | 145.4 points |
1/3/2563 | 146.9 points |
1/6/2563 | 152.5 points |
1/9/2563 | 151.5 points |
1/12/2563 | 152.9 points |
1/3/2564 | 153.8 points |
1/6/2564 | 157.5 points |
1/9/2564 | 158 points |
1/12/2564 | 161.6 points |
1/3/2565 | 162.9 points |
1/6/2565 | 166.2 points |
1/9/2565 | 167.9 points |
1/12/2565 | 167.1 points |
1/3/2566 | 165.6 points |
1/6/2566 | 168.5 points |
1/9/2566 | 171.6 points |
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2566 | 171.6 คะแนน |
1/6/2566 | 168.5 คะแนน |
1/3/2566 | 165.6 คะแนน |
1/12/2565 | 167.1 คะแนน |
1/9/2565 | 167.9 คะแนน |
1/6/2565 | 166.2 คะแนน |
1/3/2565 | 162.9 คะแนน |
1/12/2564 | 161.6 คะแนน |
1/9/2564 | 158 คะแนน |
1/6/2564 | 157.5 คะแนน |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇵🇬 เงินเฟ้อด้านอาหาร | 5.5 % | 6.4 % | ควอร์เตอร์ |
🇵🇬 อัตราเงินเฟ้อ | 3.86 % | 2.22 % | ควอร์เตอร์ |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ออสเตรเลีย
คืออะไร ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ Consumer Price Index (CPI) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาเฉลี่ยของสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ภายใต้บริบทที่มีความหลากหลายทั้งในระดับประเทศและระดับโลก CPI มักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อ, ความสามารถในการซื้อของประชาชน, และนโยบายทางการเงิน โดยที่เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นในการให้ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มีความละเอียดและเป็นปัจจุบัน การทำความเข้าใจถึงความหมายและรายละเอียดของ CPI จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้อย่างเป็นมืออาชีพ ตามแบบมาตรฐานที่นิยมใช้ CPI จะถูกคำนวณจากตะกร้าสินค้าและบริการที่มีการเลือกสรรมาแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงการบริโภคของครัวเรือนทั่วไป การเปลี่ยนแปลงของราคาในตะกร้านี้จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจทั้งหมด ดังนั้นดัชนีนี้จึงถูกใช้เป็นตัวชี้วัดที่สามารถแปลผลลัพธ์ให้เห็นถึงแนวโน้มของเศรษฐกิจได้ CPI มีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีลักษณะและวิธีการคำนวณที่แตกต่างกันไป เช่น CPI ที่ใช้วัดราคาของสินค้าที่ไม่แน่นอนอย่างอาหารและพลังงาน ซึ่งมักจะมีการเปลี่ยนแปลงในราคาที่ผันผวนตามฤดูกาล นอกจากนี้ CPI ยังสามารถแบ่งได้ตามประชากรเป้าหมายที่จะถูกวัด เช่น CPI สำหรับครัวเรือนในเขตเมืองหรือ CPI สำหรับผู้บริโภคชาวต่างประเทศ การรู้เท่าทันกับวิธีการคำนวณ CPI จึงเป็นเรื่องสำคัญ วิธีการทั่วไปคือการกำหนดน้ำหนักให้กับสินค้าและบริการต่างๆ ในตะกร้า ซึ่งน้ำหนักนี้จะถูกปรับปรุงตามข้อมูลการบริโภคของประชาชน ผลลัพธ์จะถูกนำมาเปรียบเทียบกับช่วงเวลาต่างๆ เพื่อดูแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของราคา ส่วนมากจะเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หรืออาจเป็นการเปรียบเทียบรายเดือน หนึ่งในประโยชน์ของ CPI ที่มีความสำคัญคือการใช้ในการปรับค่าครองชีพในด้านต่างๆ เช่น การปรับค่าสินค้าหรือค่าบริการ การปรับค่าแรงงาน และการปรับรายจ่ายสำหรับโครงการสวัสดิการทางสังคมต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อและรักษาความสมดุลในการใช้ชีวิตของประชาชน นอกจากการวัดอัตราเงินเฟ้อแล้ว CPI ยังเป็นเครื่องมือที่รัฐบาลและธนาคารกลางใช้ในการกำหนดและปรับปรุงนโยบายทางการเงิน ซึ่งเป็นวิธีการที่สำคัญในการควบคุมเศรษฐกิจให้อยู่ในสภาพที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและปัจจัยที่ไม่แน่นอนได้ อย่างเช่น การปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการออกมาตรการต่างๆ เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของ CPI ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจหรือเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น แต่ผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจก็สามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ในการวางแผนและการตัดสินใจ เช่น การกำหนดราคาสินค้า การวางแผนงบประมาณครัวเรือน หรือการพิจารณาการลงทุน เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งหวังที่จะเป็นแหล่งข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ด้วยการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ และการนำเสนอดัชนีทางเศรษฐกิจในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเป็นประโยชน์ ด้วยความจำเป็นในยุคที่ข้อมูลข่าวสารมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เราตระหนักถึงความสำคัญของการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง, ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ทุกท่านสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากนั้น ท่านสามารถใช้ CPI ในการเปรียบเทียบระดับราคาของสินค้าและบริการในแต่ละช่วงเวลา และสามารถใช้เป็นตัวชี้วัดในการประเมินภาระค่าครองชีพ นอกจากนี้ การติดตามการเปลี่ยนแปลงของ CPI ยังช่วยให้ท่านสามารถเตรียมตัวและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้การใช้ข้อมูล CPI มีประสิทธิภาพมากขึ้น เราขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจถึงที่มาของข้อมูล, วิธีการคำนวณ, และปัจจัยต่างๆ ที่สามารถมีผลต่อดัชนีนี้ เช่น การเปลี่ยนแปลงของนโยบายทางการเงิน, การเปลี่ยนแปลงของการบริโภคในครัวเรือน, การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าสำคัญ ๆ เป็นต้น เชื่อมั่นว่า eulerpool จะสามารถเป็นแหล่งข้อมูลที่ท่านไว้วางใจได้ ด้วยการนำเสนอข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มีความเป็นมืออาชีพและละเอียดถี่ถ้วน ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการของเราในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต