ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇨🇴

โคลอมเบีย ดุลการค้า

ราคา

72.5 ล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
-264.4 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-129.16 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน โคลอมเบีย คือ 72.5 ล้าน USD ดุลการค้าใน โคลอมเบีย ลดลงไปที่ 72.5 ล้าน USD ในวันที่ 1/5/2557 หลังจากที่เป็น 336.9 ล้าน USD ในวันที่ 1/12/2556 ตั้งแต่ 1/1/2523 ถึง 1/4/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน โคลอมเบีย คือ -317.2 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/12/2554 ด้วยค่า 808.6 ล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/8/2565 ด้วยค่า -2.91 ล้านล้าน USD

แหล่งที่มา: Dane, Colombia

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/5/255772.5 ล้าน USD
1/12/2556336.9 ล้าน USD
1/8/25562.8 ล้าน USD
1/6/2556559.7 ล้าน USD
1/5/2556151.1 ล้าน USD
1/3/2556129.7 ล้าน USD
1/2/2556170.3 ล้าน USD
1/12/2555409.3 ล้าน USD
1/10/2555227.1 ล้าน USD
1/9/2555231.3 ล้าน USD
1
2
3
4
5
...
16

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇨🇴
กระแสเงินทุน
-1.397 ล้านล้าน USD-1.621 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇨🇴
การผลิตน้ำมันดิบ
790 BBL/D/1K780 BBL/D/1Kรายเดือน
🇨🇴
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
3.621 ล้านล้าน USD3.946 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇨🇴
การส่งออกเทียบปีต่อปี
17.9 %-14.2 %รายเดือน
🇨🇴
การโอนเงิน
929.39 ล้าน USD894.05 ล้าน USDรายเดือน
🇨🇴
เงื่อนไขการซื้อขาย
126.939 points125.118 pointsรายเดือน
🇨🇴
ดัชนีการก่อการร้าย
6.188 Points6.697 Pointsประจำปี
🇨🇴
ทองคำสำรอง
4.68 Tonnes4.68 Tonnesควอร์เตอร์
🇨🇴
นำเข้า
5.839 ล้านล้าน USD4.757 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇨🇴
นำเข้า YoY
18.1 %-18.8 %รายเดือน
🇨🇴
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
-1.924 ล้านล้าน USD-2.293 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇨🇴
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-2.7 % of GDP-6.2 % of GDPประจำปี
🇨🇴
ส่งออก
4.409 ล้านล้าน USD3.831 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇨🇴
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
25.8 % of GDP22.3 % of GDPประจำปี
🇨🇴
หนี้สินต่างประเทศ
196.697 ล้านล้าน USD197.749 ล้านล้าน USDรายเดือน

โคลอมเบียเป็นผู้ส่งออกหลักในด้านเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ (56 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมด) การส่งออกอื่น ๆ ได้แก่: เกษตรกรรม อาหาร และเครื่องดื่ม (20 เปอร์เซ็นต์) และสินค้าผลิตสำเร็จรูป (19 เปอร์เซ็นต์) การนำเข้าสำคัญได้แก่: สินค้าผลิตสำเร็จรูป (74 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด); เชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ (15 เปอร์เซ็นต์) และเกษตรกรรม อาหาร และเครื่องดื่ม (7 เปอร์เซ็นต์) คู่ค้าหลักได้แก่: สหรัฐอเมริกา (26 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดและ 24 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) และจีน (4 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดและ 24 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) ส่วนอื่น ๆ ได้แก่: ปานามา บราซิล เม็กซิโก เยอรมนีและฝรั่งเศส

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว