ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇩🇴

สาธารณรัฐโดมินิกัน ดุลการค้า

ราคา

50.7 ล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
-55.6 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-70.83 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน สาธารณรัฐโดมินิกัน คือ 50.7 ล้าน USD ดุลการค้าใน สาธารณรัฐโดมินิกัน ลดลงไปที่ 50.7 ล้าน USD ในวันที่ 1/10/2547 หลังจากที่เป็น 106.3 ล้าน USD ในวันที่ 1/9/2547 ตั้งแต่ 1/1/2540 ถึง 1/12/2566 ค่าเฉลี่ย GDP ใน สาธารณรัฐโดมินิกัน คือ -532.72 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/3/2547 ด้วยค่า 122.1 ล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/6/2565 ด้วยค่า -1.74 ล้านล้าน USD

แหล่งที่มา: Central American Monetary Council

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/10/254750.7 ล้าน USD
1/9/2547106.3 ล้าน USD
1/7/254750.5 ล้าน USD
1/6/254786.2 ล้าน USD
1/5/254753 ล้าน USD
1/4/254765.1 ล้าน USD
1/3/2547122.1 ล้าน USD
1/2/254763.6 ล้าน USD
1/1/254713 ล้าน USD
1

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇩🇴
กระแสเงินทุน
-1.445 ล้านล้าน USD-827.1 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇩🇴
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
848.6 ล้าน USD1.19 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇩🇴
การโอนเงิน
874.11 ล้าน USD945.04 ล้าน USDรายเดือน
🇩🇴
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0 Pointsประจำปี
🇩🇴
ทองคำสำรอง
0.57 Tonnes0.57 Tonnesควอร์เตอร์
🇩🇴
นำเข้า
2.253 ล้านล้าน USD2.401 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇩🇴
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
-970.5 ล้าน USD-1.547 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇩🇴
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
758,871 677,475 รายเดือน
🇩🇴
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-3.6 % of GDP-5.8 % of GDPประจำปี
🇩🇴
ส่งออก
1.026 ล้านล้าน USD1.041 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇩🇴
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
33.4 % of GDP35.3 % of GDPประจำปี
🇩🇴
หนี้สินต่างประเทศ
40.084 ล้านล้าน USD40.084 ล้านล้าน USDรายเดือน

สาธารณรัฐโดมินิกันมีความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออกที่ลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดการขาดดุลทางการค้าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สาธารณรัฐโดมินิกันส่งออกสินค้าได้แก่ เฟอร์โรนิกเกิล ซิการ์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก อุปกรณ์ไฟฟ้า กล้วย เครื่องประดับ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เสื้อผ้า เศษโลหะ และเครื่องดื่ม ส่วนสินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่ของสาธารณรัฐโดมินิกันได้แก่ เชื้อเพลิง อุปกรณ์ไฟฟ้า แก๊สธรรมชาติ น้ำมัน เหล็กและเหล็กกล้า ข้าวโพด เครื่องประดับ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และฝ้าย หุ้นส่วนการค้าหลักของสาธารณรัฐโดมินิกันคือนิสัยสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของการค้ารวม นอกจากนี้ยังมีหุ้นส่วนการค้าอื่น ๆ เช่น เวเนซุเอลา จีน โคลอมเบีย เม็กซิโก เฮติ และเนเธอร์แลนด์ Antilles

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว