Terminal Access

ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

Bloomberg Fair Value
20M Securities
50Y History
10Y Estimates
8.000+ News Daily
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇺🇸

สหรัฐอเมริกา ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (PMI)

ราคา

54.3 คะแนน
การเปลี่ยนแปลง +/-
+3.3 คะแนน
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+6.27 %

ค่าปัจจุบันของ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (PMI) ใน สหรัฐอเมริกา คือ 54.3 คะแนน. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (PMI) ใน สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นเป็น 54.3 คะแนน ในวันที่ 1/3/2568 หลังจากที่มันเป็น 51 คะแนน ในวันที่ 1/2/2568. ตั้งแต่วันที่ 1/10/2556 ถึง 1/3/2568, GDP เฉลี่ยใน สหรัฐอเมริกา คือ 53.83 คะแนน. ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกบันทึกไว้ในวันที่ 1/5/2564 ด้วยค่า 70.4 คะแนน, ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้ในวันที่ 1/4/2563 ด้วยค่า 26.7 คะแนน.

แหล่งที่มา: S&P Global

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (PMI)

  • แม็กซ์

บริการ PMI

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (PMI) ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/256854.3 คะแนน
1/2/256851 คะแนน
1/1/256852.9 คะแนน
1/12/256756.8 คะแนน
1/11/256756.1 คะแนน
1/10/256755 คะแนน
1/9/256755.2 คะแนน
1/8/256755.7 คะแนน
1/7/256755 คะแนน
1/6/256755.3 คะแนน
1
2
3
4
5
...
14

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (PMI)

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇺🇸
Composite PMI
53.5 points51.6 pointsรายเดือน
🇺🇸
ISI การจ้างงานในภาคบริการ
53.9 points52.3 pointsรายเดือน
🇺🇸
ISI ธุรกิจกิจกรรมในภาคบริการนอกเหนือจากการผลิต
54.4 points54.5 pointsรายเดือน
🇺🇸
ISM การจัดส่งผลิตภัณฑ์การผลิต
54.5 points50.9 pointsรายเดือน
🇺🇸
ISM การสั่งซื้อการผลิตใหม่
48.6 points55.1 pointsรายเดือน
🇺🇸
LMI-Logistikmanager-Index
62.8 points62 pointsรายเดือน
🇺🇸
Philly Fed การจ้างงาน
19.7 points5.3 pointsรายเดือน
🇺🇸
Richmond Fed การผลิตสินค้า
-7 points12 pointsรายเดือน
🇺🇸
การจดทะเบียนรถยนต์
219,900 192,400 รายเดือน
🇺🇸
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ
8.9 ล้านล้าน USD57.9 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇺🇸
การผลิต ISM
50.7 points52.5 pointsรายเดือน
🇺🇸
การผลิตของภาคการผลิตเดือนต่อเดือน
0.9 %0.1 %รายเดือน
🇺🇸
การผลิตในภาคการผลิต
0.7 %1 %รายเดือน
🇺🇸
การผลิตรถยนต์
10.35 ล้าน Units9.28 ล้าน Unitsรายเดือน
🇺🇸
การผลิตเหมืองแร่
0 %1.5 %รายเดือน
🇺🇸
การผลิตเหล็ก
6 ล้าน Tonnes6.6 ล้าน Tonnesรายเดือน
🇺🇸
การผลิตอุตสาหกรรม
1.4 %1.9 %รายเดือน
🇺🇸
การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน
0.7 %0.3 %รายเดือน
🇺🇸
การล้มละลาย
23,107 Companies22,762 Companiesควอร์เตอร์
🇺🇸
การสั่งซื้อสินค้าที่ใช้งานได้ยาวนานไม่รวมการป้องกันบ้านเมือง
0.8 %3.5 %รายเดือน
🇺🇸
การสั่งซื้อสินค้าทุนไม่รวมสินค้าป้องกันและเครื่องบิน
-0.3 %0.9 %รายเดือน
🇺🇸
การสั่งซื้อใหม่
589.935 ล้านล้าน USD580.16 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇺🇸
กำไรของบริษัท
3.312 ชีวภาพ. USD3.129 ชีวภาพ. USDควอร์เตอร์
🇺🇸
ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้า LMI
77.3 points70.2 pointsรายเดือน
🇺🇸
คำสั่งซื้อจากโรงงาن
1.7 %-0.6 %รายเดือน
🇺🇸
คำสั่งซื้อโรงงานโดยไม่รวมการขนส่ง
0.2 %0.3 %รายเดือน
🇺🇸
คำสั่งซื้อใหม่ของ Philly Fed
8.7 points21.9 pointsรายเดือน
🇺🇸
ชิคาโก PMI
45.5 points39.5 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนี CFNAI สำหรับการบริโภคส่วนบุคคลและที่อยู่อาศัย
-0.01 points-0.14 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนี ISM การจ้างงานภาคการผลิต
47.6 points50.3 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนี ISM สั่งซื้อใหม่ในภาคบริการ
52.2 points51.3 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนี ISM สำหรับคำสั่งซื้อคงค้างในภาคการผลิต
46.8 points44.9 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนี NY Empire State ของการจัดส่งสินค้า
-8.5 points14.2 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนี Philly Fed CAPEX
13.4 points14 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนี PMI ภาคบริการ
53.5 points52.8 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีการขาย, การสั่งซื้ะ, และสินค้าคงคลัง CFNAI
-0.01 %-0.04 %รายเดือน
🇺🇸
ดัชนีการจัดส่งของ Kansas Fed
-4 points-11 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีการจับคู่
146.2 points145.87 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีการจ้างงาน CFNAI
0.02 points0.08 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีการจ้างงานของ NY Empire State
-4.1 points-3.6 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีการจ้างงานของธนาคารกลางแคนซัส
-4 points-14 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีการผลิต CFNAI
0.19 %0.02 %รายเดือน
🇺🇸
ดัชนีการผลิตของ Richmond Fed
-4 points6 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีการผลิตของแคนซัส เฟด
1 points-13 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีการผลิตของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย
12.5 points18.1 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีการผลิตของรัฐ NY Empire State
-20 points5.7 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีการสั่งซื้อใหม่ของ Kansas Fed
-12 points-7 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีกิจกรรมแห่งชาติของธนาคารกลางชิคาโก
0.18 points-0.08 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีความมั่นใจทางธุรกิจ NFIB
100.7 points102.8 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีธุรกิจฟิลาเดลเฟีย Fed (Philly Fed Business Index)
5.6 points27.8 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีบริการ Richmond Fed
-4 points11 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีบริการของ Dallas Fed
4.6 points7.4 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีผสมฟีดแคนซัส
-2 points-5 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีผู้จัดการโลจิสติกส์ LMI อนาคต
66.2 points66.1 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีราคาที่จ่าย NY Empire State
44.9 points40.2 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีราคาที่จ่ายสำหรับการผลิตของเฟดดัลลัส
35 points17.5 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีราคาที่ชำระโดย Kansas Fed
42 points38 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีราคาผู้ผลิต ISM
62.4 points54.9 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีราคาภาคบริการ ISM
62.6 points60.4 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีรายได้บริการของ Dallas Fed
8.2 points5.7 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัชนีสั่งซื้อใหม่ของ NY Empire State
-14.9 points11.4 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัลลัส เฟด ดัชนีการจัดส่งผลิตภัณฑ์การผลิต
5.6 points8.7 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัลลัส เฟด ดัชนีการจ้างงานในภาคการผลิต
-0.7 points2.2 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัลลัส เฟด ดัชนีการผลิต
-8.3 points14.1 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัลลัส เฟด ดัชนีการผลิตภาคการผลิต
-9.1 points12.2 pointsรายเดือน
🇺🇸
ดัลลัส เฟด ดัชนีการสั่งซื้อใหม่
-3.5 points7.7 pointsรายเดือน
🇺🇸
ตัวชี้วัดเชิง복합แสดงสัญญาณล่วงหน้า
100.712 points100.635 pointsรายเดือน
🇺🇸
ตัวบ่งชี้ล่วงหน้า
101.1 points101.5 pointsรายเดือน
🇺🇸
ผลิตภัณฑ์ PMI
49.8 points52.7 pointsรายเดือน
🇺🇸
ฟิลาเดลเฟีย เฟด ราคาที่จ่าย
48.3 points40.5 pointsรายเดือน
🇺🇸
ยอดขายรถยนต์รวม
16 ล้าน 15.6 ล้าน รายเดือน
🇺🇸
ราคาการขนส่ง LMI
65.5 points70.4 pointsรายเดือน
🇺🇸
ราคาคลังสินค้า LMI
77 points73.1 pointsรายเดือน
🇺🇸
สต๊อกข้าวโพด
12.074 ล้านล้าน Bushels1.76 ล้านล้าน Bushelsควอร์เตอร์
🇺🇸
สต็อกข้าวสาลี
1.57 ล้านล้าน Bushels1.98 ล้านล้าน Bushelsควอร์เตอร์
🇺🇸
สต็อกข้าวโอ๊ตถั่วเหลือง
3.1 ล้านล้าน Bushels342 ล้าน Bushelsควอร์เตอร์
🇺🇸
สต็อกสินค้าคงคลังการผลิต ISM
49.9 points45.9 pointsรายเดือน
🇺🇸
สต็อกสินค้าคงคลังของค้าส่ง
0.3 %0.8 %รายเดือน
🇺🇸
สภาวะธุรกิจ
50.3 points50.9 pointsรายเดือน
🇺🇸
สั่งซื้อสินค้าทนทาน
0.9 %3.3 %รายเดือน
🇺🇸
สั่งซื้อสินค้าทนทานยกเว้นการขนส่ง
0.7 %0.1 %รายเดือน
🇺🇸
สินค้าคงคลังของบริษัท
0.3 %-0.2 %รายเดือน
🇺🇸
สินค้าคงคลังปลีกรวมโดยไม่รวมรถยนต์
0.1 %0.5 %รายเดือน
🇺🇸
อัตราการใช้กำลังการผลิต
78.2 %77.7 %รายเดือน

ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ จาก S&P Global ได้รับการรวบรวมโดย S&P Global จากการตอบแบบสอบถามที่ส่งไปยังกลุ่มบริษัทภาคบริการประมาณ 400 แห่ง ซึ่งครอบคลุมถึงภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ผู้บริโภค (ยกเว้นค้าปลีก) การขนส่ง ข้อมูล การสื่อสาร การเงิน การประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ และบริการทางธุรกิจ ดัชนีนี้ติดตามตัวแปรต่าง ๆ เช่น ยอดขาย การจ้างงาน สินค้าคงคลัง และราคา; โดยมีช่วงค่าระหว่าง 0 ถึง 100 ซึ่งค่ามากกว่า 50 บ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นโดยรวมเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และค่าต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงการลดลงโดยรวม ตัวเลขหลักคือ ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจภาคบริการ ซึ่งเป็นดัชนีการกระจายที่คำนวณจากคำถามที่สอบถามถึงการเปลี่ยนแปลงในปริมาณกิจกรรมทางธุรกิจเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจภาคบริการนี้เปรียบเทียบได้กับดัชนีผลผลิตภาคการผลิต

คืออะไร ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (PMI)

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในภาคบริการ (Services PMI: Purchasing Managers’ Index) เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สามารถบ่งบอกถึงภาวะสุขภาพของภาคบริการในประเทศได้ และด้วยความที่ภาคบริการเป็นองค์ประกอบหลักของหลายประเทศ การติดตามค่าดัชนี PMI ในภาคบริการจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ และนักวิเคราะห์ที่ต้องการพยากรณ์แนวโน้มทางเศรษฐกิจ การลงทุนที่เรียลไทม์ และความเคลื่อนไหวของตลาดการเงิน ที่เว็บไซต์ eulerpool เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียดและถูกต้อง รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในภาคบริการ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ ดัชนี PMI ในภาคบริการเป็นตัวชี้วัดที่ทันสมัยและมีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะมันสะท้อนถึงกิจกรรมทางธุรกิจในหลากหลายด้าน ตั้งแต่การจ้างงาน ยอดขาย การส่งออก ไปจนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ดัชนี PMI ในภาคบริการมักจะมาจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในหลากหลายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับบริการ เช่น ธุรกิจโรงแรม การค้าปลีก การเงิน การประกันภัย และบริการด้านสุขภาพ เป็นต้น ค่าดัชนี PMI ที่มากกว่า 50 มักบ่งบอกถึงการขยายตัวของภาคบริการ ในขณะที่ค่าดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งบอกถึงการหดตัว การวิเคราะห์ค่าดัชนี PMI ในภาคบริการสามารถช่วยผู้ลงทุนในการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น และตราสารหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การติดตามค่าดัชนี PMI สามารถเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในการคาดการณ์แนวโน้มในการเติบโตหรือหดตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อตลาดทุน อีกทั้ง ดัชนี PMI ในภาคบริการยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินผลกระทบของนโยบายรัฐบาล เช่น นโยบายการเงินหรือการคลัง การปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ย หรือการใช้จ่ายของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในนโยบายดังกล่าวมักจะสะท้อนผ่านค่าดัชนี PMI ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจสามารถนำไปใช้ในการประเมินแนวโน้มทางเศรษฐกิจในอนาคต ความสามารถในการทำนายและเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจของค่าดัชนี PMI ในภาคบริการทำให้มันกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนรายใหญ่ ธนาคาร และสถาบันการเงิน นอกจากนี้ นักลงทุนรายย่อยก็สามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวในการบ่มเพาะ และปรับแผนการลงทุนของตนเองได้อย่างเหมาะสม ที่เว็บไซต์ eulerpool เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนี PMI ในภาคบริการอย่างละเอียดและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้ของเราได้มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่สุด นอกจากนี้ ยังมีการแสดงผลข้อมูลในรูปแบบของกราฟ และตารางซึ่งสามารถทำให้การวิเคราะห์เป็นไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น การติดตามและวิเคราะห์ดัชนี PMI ในภาคบริการเป็นสิ่งที่มีความซับซ้อนและต้องการการพิจารณาปัจจัยหลากหลายด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน การปรับตัวทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ด้วยความเชี่ยวชาญ ถี่ถ้วน และเป็นระบบ ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลจากดัชนี PMI ไปใช้ในการพยากรณ์และวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดัชนี PMI ในภาคบริการมีความผันผวนตามเวลาและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ การติดตามค่าดัชนีนี้ในระยะยาวจะสามารถให้มุมมองที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มและทิศทางของเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนระยะยาวขององค์กรและนักลงทุน ในท้ายที่สุด การที่เราเข้าใจและนำข้อมูลจากดัชนี PMI ในภาคบริการมาใช้อย่างเหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงในแง่ของการตัดสินใจทางเศรษฐกิจและการลงทุน รวมถึงการพัฒนานโยบายสาธารณะที่สามารถนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ดังนั้น เว็บไซต์ eulerpool จึงเป็นสื่อสำคัญที่ให้ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคและดัชนี PMI ในภาคบริการที่มีความทันสมัย ถูกต้อง และเข้าใจง่าย เพื่อให้ทุกผู้ใช้งานสามารถนำข้อมูลไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการลงทุน การวิเคราะห์เศรษฐกิจ หรือการวางแผนธุรกิจและนโยบาย