ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร นิวซีแลนด์ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ราคา
ค่าสภาพปัจจุบันของหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน นิวซีแลนด์ คือ 92.1 % of GDP หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน นิวซีแลนด์ ลดลงเป็น 92.1 % of GDP เมื่อ 1/6/2566 หลังจากที่เคยเป็น 93.2 % of GDP ใน 1/3/2566 ตั้งแต่ 1/12/2533 ถึง 1/9/2566 ค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเฉลี่ยใน นิวซีแลนด์ อยู่ที่ 73.8 % of GDP ค่าสูงสุดตลอดกาลถึงในวันที่ 1/3/2564 กับ 98.8 % of GDP ในขณะที่ค่าสภาพต่ำสุดถูกบันทึกใน 1/12/2533 ด้วย 27.9 % of GDP
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ·
แม็กซ์
หนี้สินของครัวเรือนต่อ GDP | |
---|---|
1/12/2533 | 27.9 % of GDP |
1/3/2534 | 28.8 % of GDP |
1/6/2534 | 29.6 % of GDP |
1/9/2534 | 30.2 % of GDP |
1/12/2534 | 31.8 % of GDP |
1/3/2535 | 32.6 % of GDP |
1/6/2535 | 33.1 % of GDP |
1/9/2535 | 34.6 % of GDP |
1/12/2535 | 35.7 % of GDP |
1/3/2536 | 36.5 % of GDP |
1/6/2536 | 36.8 % of GDP |
1/9/2536 | 37.4 % of GDP |
1/12/2536 | 38.2 % of GDP |
1/3/2537 | 39 % of GDP |
1/6/2537 | 39.6 % of GDP |
1/9/2537 | 40.7 % of GDP |
1/12/2537 | 41.6 % of GDP |
1/3/2538 | 42.1 % of GDP |
1/6/2538 | 43.2 % of GDP |
1/9/2538 | 44.2 % of GDP |
1/12/2538 | 45.6 % of GDP |
1/3/2539 | 46.8 % of GDP |
1/6/2539 | 48.8 % of GDP |
1/9/2539 | 49.1 % of GDP |
1/12/2539 | 50.4 % of GDP |
1/3/2540 | 51.9 % of GDP |
1/6/2540 | 52.4 % of GDP |
1/9/2540 | 53.3 % of GDP |
1/12/2540 | 54.7 % of GDP |
1/3/2541 | 55.2 % of GDP |
1/6/2541 | 55.7 % of GDP |
1/9/2541 | 56.6 % of GDP |
1/12/2541 | 57.6 % of GDP |
1/3/2542 | 58.6 % of GDP |
1/6/2542 | 59.2 % of GDP |
1/9/2542 | 60.5 % of GDP |
1/12/2542 | 61.3 % of GDP |
1/3/2543 | 61.2 % of GDP |
1/6/2543 | 61.4 % of GDP |
1/9/2543 | 61.4 % of GDP |
1/12/2543 | 61.9 % of GDP |
1/3/2544 | 62.1 % of GDP |
1/6/2544 | 62 % of GDP |
1/9/2544 | 61.9 % of GDP |
1/12/2544 | 62.4 % of GDP |
1/3/2545 | 62.5 % of GDP |
1/6/2545 | 63.2 % of GDP |
1/9/2545 | 63.4 % of GDP |
1/12/2545 | 64.7 % of GDP |
1/3/2546 | 66 % of GDP |
1/6/2546 | 67.2 % of GDP |
1/9/2546 | 68.8 % of GDP |
1/12/2546 | 70.7 % of GDP |
1/3/2547 | 71.8 % of GDP |
1/6/2547 | 72.7 % of GDP |
1/9/2547 | 73.6 % of GDP |
1/12/2547 | 75.3 % of GDP |
1/3/2548 | 77.3 % of GDP |
1/6/2548 | 78.9 % of GDP |
1/9/2548 | 80.5 % of GDP |
1/12/2548 | 82.6 % of GDP |
1/3/2549 | 83.8 % of GDP |
1/6/2549 | 85.5 % of GDP |
1/9/2549 | 87.1 % of GDP |
1/12/2549 | 88.5 % of GDP |
1/3/2550 | 89.9 % of GDP |
1/6/2550 | 90.9 % of GDP |
1/9/2550 | 90.8 % of GDP |
1/12/2550 | 91.4 % of GDP |
1/3/2551 | 91.7 % of GDP |
1/6/2551 | 91.4 % of GDP |
1/9/2551 | 91.8 % of GDP |
1/12/2551 | 92 % of GDP |
1/3/2552 | 92.6 % of GDP |
1/6/2552 | 93.3 % of GDP |
1/9/2552 | 93.2 % of GDP |
1/12/2552 | 93.3 % of GDP |
1/3/2553 | 92.8 % of GDP |
1/6/2553 | 92 % of GDP |
1/9/2553 | 91.2 % of GDP |
1/12/2553 | 90.3 % of GDP |
1/3/2554 | 89.8 % of GDP |
1/6/2554 | 89.1 % of GDP |
1/9/2554 | 88 % of GDP |
1/12/2554 | 87.1 % of GDP |
1/3/2555 | 86.8 % of GDP |
1/6/2555 | 86.7 % of GDP |
1/9/2555 | 87.2 % of GDP |
1/12/2555 | 88.1 % of GDP |
1/3/2556 | 88.7 % of GDP |
1/6/2556 | 89.5 % of GDP |
1/9/2556 | 89.1 % of GDP |
1/12/2556 | 88.2 % of GDP |
1/3/2557 | 87.5 % of GDP |
1/6/2557 | 87 % of GDP |
1/9/2557 | 86.7 % of GDP |
1/12/2557 | 87.4 % of GDP |
1/3/2558 | 88.1 % of GDP |
1/6/2558 | 88.5 % of GDP |
1/9/2558 | 89 % of GDP |
1/12/2558 | 89.6 % of GDP |
1/3/2559 | 89.9 % of GDP |
1/6/2559 | 91 % of GDP |
1/9/2559 | 91.7 % of GDP |
1/12/2559 | 92.2 % of GDP |
1/3/2560 | 92 % of GDP |
1/6/2560 | 92 % of GDP |
1/9/2560 | 91.3 % of GDP |
1/12/2560 | 90.9 % of GDP |
1/3/2561 | 90.8 % of GDP |
1/6/2561 | 90.6 % of GDP |
1/9/2561 | 90.6 % of GDP |
1/12/2561 | 91.1 % of GDP |
1/3/2562 | 91.3 % of GDP |
1/6/2562 | 91.5 % of GDP |
1/9/2562 | 91.5 % of GDP |
1/12/2562 | 91.8 % of GDP |
1/3/2563 | 92.1 % of GDP |
1/6/2563 | 94.2 % of GDP |
1/9/2563 | 95.1 % of GDP |
1/12/2563 | 97.4 % of GDP |
1/3/2564 | 98.8 % of GDP |
1/6/2564 | 96.7 % of GDP |
1/9/2564 | 97.4 % of GDP |
1/12/2564 | 97.8 % of GDP |
1/3/2565 | 97.5 % of GDP |
1/6/2565 | 97 % of GDP |
1/9/2565 | 95.2 % of GDP |
1/12/2565 | 94.4 % of GDP |
1/3/2566 | 93.2 % of GDP |
1/6/2566 | 92.1 % of GDP |
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2566 | 92.1 % of GDP |
1/3/2566 | 93.2 % of GDP |
1/12/2565 | 94.4 % of GDP |
1/9/2565 | 95.2 % of GDP |
1/6/2565 | 97 % of GDP |
1/3/2565 | 97.5 % of GDP |
1/12/2564 | 97.8 % of GDP |
1/9/2564 | 97.4 % of GDP |
1/6/2564 | 96.7 % of GDP |
1/3/2564 | 98.8 % of GDP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇳🇿 การใช้จ่ายของผู้บริโภค | 45.294 ล้านล้าน NZD | 44.582 ล้านล้าน NZD | ควอร์เตอร์ |
🇳🇿 การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต | 6.449 ล้านล้าน NZD | 6.517 ล้านล้าน NZD | รายเดือน |
🇳🇿 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค | 82.2 points | 93.2 points | ควอร์เตอร์ |
🇳🇿 เครดิตของภาคเอกชน | 565.531 ล้านล้าน NZD | 565.32 ล้านล้าน NZD | รายเดือน |
🇳🇿 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ANZ Roy Morgan | 83 points | 84.9 points | รายเดือน |
🇳🇿 ยอดขายปลีกเดือนต่อเดือnego | 0.5 % | -1.9 % | ควอร์เตอร์ |
🇳🇿 ยอดขายปลีกประจำปี | -2.4 % | -4.1 % | ควอร์เตอร์ |
🇳🇿 ราคาน้ำมันเบนซิน | 1.86 USD/Liter | 1.92 USD/Liter | รายเดือน |
🇳🇿 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร | 12.59 % | 12.64 % | รายเดือน |
🇳🇿 อัตราส่วนหนี้สินของครัวเรือนต่อรายได้ | 165 % | 167 % | ควอร์เตอร์ |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ออสเตรเลีย
คืออะไร หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP (Households Debt to GDP) เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งใช้ในการวิเคราะห์ระดับหนี้สินของครัวเรือนในแต่ละประเทศเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP หนี้สินครัวเรือนหมายถึงการติดหนี้ทั้งหลายของครัวเรือนเช่นการกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน การกู้ยืมเพื่อการบริโภค และบัตรเครดิต เปรียบเทียบกับผลผลิตทั้งหมดในเชิงเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งๆ ในภาพรวม การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนเมื่อเทียบกับ GDP อาจเป็นสัญญาณของหลายสิ่งหลายอย่างทั้งดีและไม่ดี สำหรับประเด็นดี การมีหนี้สินในระดับที่เหมาะสมสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจด้วยการสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าทุน เช่น บ้านและรถยนต์ หรือการบริโภคในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตาม การมีหนี้สินครัวเรือนสูงเมื่อเทียบกับ GDP อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโดยรวม ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนอาจลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินและการบริโภคสาธารณะ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เนื่องจากครัวเรือนมีภาระหนี้สินที่สูงเกินไป การวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ประการแรกคือระดับรายได้ของครัวเรือน หากรายได้ของครัวเรือนสูง การมีหนี้สินที่สูงก็อาจไม่เป็นปัญหาเท่าไร ประการที่สองคืออัตราดอกเบี้ย การกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำอาจทำให้ภาระหนี้สินของครัวเรือนดูไม่สูงเท่าที่คิด แต่หากอัตราดอกเบี้ยมีการปรับขึ้นภาระการชำระหนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยด้านความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงานและความเสถียรของตลาดแรงงาน หากตลาดแรงงานมีเสถียรภาพสูงและอัตราการว่างงานต่ำ ครัวเรือนจะมีความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้น ซึ่งทำให้หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ไม่เป็นปัญหามากนัก ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจชะลอตัวหรือมีความไม่แน่นอนสูง ครัวเรือนอาจพบว่าการชำระหนี้เป็นภาระหนักขึ้น ภายในบริบทของประเทศไทย ข้อมูลเรื่องหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนในอดีตแสดงให้เห็นถึงความต้องการการบริโภคและการกู้ยืมเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ทุน เช่นที่อยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงหากครัวเรือนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด หนี้สินครัวเรือนที่สูงอาจทำให้ครัวเรือนลดทอนการบริโภค ซึ่งอาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องมีมาตรการติดตามและควบคุมระดับหนี้สินครัวเรือนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ การดำเนินนโยบายทางการเงิน เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ได้เพื่อลดภาระการชำระหนี้ของครัวเรือน และส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจคือการวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนในเชิงภูมิภาค การเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ในแต่ละภูมิภาคสามารถเปิดเผยถึงแนวโน้มและปัจจัยเฉพาะที่มีผลต่อการกู้ยืม เช่น ค่าครองชีพและมูลค่าทรัพย์สินในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกัน ในยุคดิจิทัล การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึกกลายเป็นเรื่องที่สะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น เว็บไซต์เช่น eulerpool ซึ่งเชี่ยวชาญในการให้ข้อมูลทางแมโครเศรษฐกิจ สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ การที่ข้อมูลนี้สามารถถูกวิเคราะห์และนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายจะช่วยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจสามารถทำการตัดสินใจที่มีพื้นฐานจากข้อมูลที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ การมีความรู้และการเข้าใจในแนวโน้มของหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการเงินและการลงทุนในระดับบุคคล การทำความเข้าใจถึงระดับหนี้สินของครัวเรือนในประเทศจะช่วยให้บุคคลสามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น โดยสรุป หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP เป็นดัชนีที่มีผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย การติดตามระดับหนี้สินครัวเรือน การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบ และการใช้นโยบายทางการเงินที่เหมาะสมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาเสถียรภาพและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและทันสมัยเช่นข้อมูลที่นำเสนอโดย eulerpool จะเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ