ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร สหราชอาณาจักร ดุลการค้าเทียบสินค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าเทียบสินค้าใน สหราชอาณาจักร คือ 247 ล้าน GBP ดุลการค้าเทียบสินค้าใน สหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้นเป็น 247 ล้าน GBP เมื่อ 1/2/2527 หลังจากที่มันอยู่ที่ 38 ล้าน GBP เมื่อ 1/12/2526 ตั้งแต่ 1/1/2513 ถึง 1/8/2567 ค่า GDP เฉลี่ยใน สหราชอาณาจักร คือ -4.66 ล้านล้าน GBP ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/1/2524 ด้วย 775 ล้าน GBP ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/1/2565 ที่ -24.16 ล้านล้าน GBP
ดุลการค้าเทียบสินค้า ·
แม็กซ์
ยอดดุลการค้าสินค้า | |
---|---|
1/1/2513 | 32 ล้าน GBP |
1/2/2513 | 16 ล้าน GBP |
1/3/2513 | 28 ล้าน GBP |
1/7/2513 | 153 ล้าน GBP |
1/10/2513 | 21 ล้าน GBP |
1/11/2513 | 2 ล้าน GBP |
1/12/2513 | 20 ล้าน GBP |
1/3/2514 | 17 ล้าน GBP |
1/5/2514 | 44 ล้าน GBP |
1/6/2514 | 21 ล้าน GBP |
1/7/2514 | 49 ล้าน GBP |
1/8/2514 | 68 ล้าน GBP |
1/9/2514 | 38 ล้าน GBP |
1/10/2514 | 22 ล้าน GBP |
1/11/2514 | 2 ล้าน GBP |
1/12/2514 | 11 ล้าน GBP |
1/6/2515 | 7 ล้าน GBP |
1/7/2515 | 30 ล้าน GBP |
1/8/2520 | 84 ล้าน GBP |
1/9/2520 | 28 ล้าน GBP |
1/11/2520 | 109 ล้าน GBP |
1/2/2521 | 51 ล้าน GBP |
1/4/2521 | 58 ล้าน GBP |
1/5/2523 | 70 ล้าน GBP |
1/6/2523 | 44 ล้าน GBP |
1/7/2523 | 353 ล้าน GBP |
1/8/2523 | 135 ล้าน GBP |
1/9/2523 | 366 ล้าน GBP |
1/10/2523 | 446 ล้าน GBP |
1/11/2523 | 435 ล้าน GBP |
1/12/2523 | 232 ล้าน GBP |
1/1/2524 | 775 ล้าน GBP |
1/2/2524 | 364 ล้าน GBP |
1/3/2524 | 544 ล้าน GBP |
1/4/2524 | 719 ล้าน GBP |
1/5/2524 | 378 ล้าน GBP |
1/6/2524 | 179 ล้าน GBP |
1/7/2524 | 41 ล้าน GBP |
1/9/2524 | 30 ล้าน GBP |
1/10/2524 | 378 ล้าน GBP |
1/12/2524 | 158 ล้าน GBP |
1/1/2525 | 47 ล้าน GBP |
1/2/2525 | 204 ล้าน GBP |
1/3/2525 | 14 ล้าน GBP |
1/4/2525 | 192 ล้าน GBP |
1/7/2525 | 145 ล้าน GBP |
1/8/2525 | 146 ล้าน GBP |
1/9/2525 | 249 ล้าน GBP |
1/10/2525 | 268 ล้าน GBP |
1/11/2525 | 404 ล้าน GBP |
1/12/2525 | 275 ล้าน GBP |
1/3/2526 | 207 ล้าน GBP |
1/6/2526 | 81 ล้าน GBP |
1/8/2526 | 48 ล้าน GBP |
1/9/2526 | 97 ล้าน GBP |
1/12/2526 | 38 ล้าน GBP |
1/2/2527 | 247 ล้าน GBP |
ดุลการค้าเทียบสินค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/2/2527 | 247 ล้าน GBP |
1/12/2526 | 38 ล้าน GBP |
1/9/2526 | 97 ล้าน GBP |
1/8/2526 | 48 ล้าน GBP |
1/6/2526 | 81 ล้าน GBP |
1/3/2526 | 207 ล้าน GBP |
1/12/2525 | 275 ล้าน GBP |
1/11/2525 | 404 ล้าน GBP |
1/10/2525 | 268 ล้าน GBP |
1/9/2525 | 249 ล้าน GBP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้าเทียบสินค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇬🇧 กระแสเงินทุน | -1.195 ล้านล้าน GBP | 7.277 ล้านล้าน GBP | ควอร์เตอร์ |
🇬🇧 การขายอาวุธ | 1.204 ล้านล้าน SIPRI TIV | 1.665 ล้านล้าน SIPRI TIV | ประจำปี |
🇬🇧 การผลิตน้ำมันดิบ | 522 BBL/D/1K | 652 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇬🇧 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | -11.802 ล้านล้าน GBP | -9.256 ล้านล้าน GBP | ควอร์เตอร์ |
🇬🇧 การส่งออกรถยนต์ | 51,425 Units | 34,850 Units | รายเดือน |
🇬🇧 ดัชนีการก่อการร้าย | 2.373 Points | 3.84 Points | ประจำปี |
🇬🇧 ทองคำสำรอง | 310.29 Tonnes | 310.29 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇬🇧 นำเข้า | 77.118 ล้านล้าน GBP | 78.33 ล้านล้าน GBP | รายเดือน |
🇬🇧 ยอดการค้า | -6.75 ล้านล้าน GBP | -1.098 ล้านล้าน GBP | รายเดือน |
🇬🇧 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -28.397 ล้านล้าน GBP | -13.76 ล้านล้าน GBP | ควอร์เตอร์ |
🇬🇧 ยอดดุลการค้าสินค้านอกสหภาพยุโรป | -6.86 ล้านล้าน GBP | -6.97 ล้านล้าน GBP | รายเดือน |
🇬🇧 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 10.778 ล้าน | 8.731 ล้าน | รายเดือน |
🇬🇧 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -3.3 % of GDP | -3.1 % of GDP | ประจำปี |
🇬🇧 รายได้จากการท่องเที่ยว | 7.902 ล้านล้าน GBP | 5.53 ล้านล้าน GBP | รายเดือน |
🇬🇧 ส่งออก | 70.122 ล้านล้าน GBP | 70.614 ล้านล้าน GBP | รายเดือน |
🇬🇧 หนี้สินต่างประเทศ | 7.742 ชีวภาพ. GBP | 7.775 ชีวภาพ. GBP | ควอร์เตอร์ |
ในสหราชอาณาจักร ดุลการค้าสินค้าเท่ากับการส่งออกสินค้าลบด้วยการนำเข้าสินค้า
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร ดุลการค้าเทียบสินค้า
สมดุลการค้า (Goods Trade Balance) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่ช่วยให้เราวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสมดุลการค้าแสดงถึงความแตกต่างระหว่างมูลค่าสินค้าส่งออก (Exports) และสินค้านำเข้า (Imports) ของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ถ้ามูลค่าสินค้าส่งออกมากกว่าสินค้านำเข้า จะเรียกว่า "ดุลการค้าเกินดุล (Trade Surplus)" แต่ถ้าสินค้านำเข้ามีมูลค่ามากกว่าสินค้าส่งออก จะเรียกว่า "ดุลการค้าเสียดุล (Trade Deficit)" การวิเคราะห์สมดุลการค้านั้นมีประโยชน์อย่างมาก ในการเข้าใจการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นโยบายการเงินของรัฐบาล รวมถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศนั้นๆ โดยการดูดุลการค้า เราสามารถเห็นภาพชัดเจนว่าประเทศมีการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการในตลาดโลกหรือไม่ และตัวเลขดุลการค้ายังมีผลต่อค่ายเงินบาท ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการบริโภคและการลงทุน ในการวัดสมดุลการค้า ข้อมูลที่สำคัญได้แก่ ตัวเลขการส่งออกและการนำเข้าสินค้าต่าง ๆ ซึ่งจะถูกรายงานโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การดูแนวโน้มการส่งออกและนำเข้าสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อสามารถประเมินสถานการณ์ในอนาคตได้อย่างแม่นยำ ในเว็บไซต์ของเรา Eulerpool คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลสมดุลการค้าที่เป็นปัจจุบันที่สุดได้อย่างง่ายดาย เราควรเข้าใจว่าดุลการค้าที่ไม่สมดุลสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในหลากหลายด้าน การที่ประเทศมีดุลการค้าเกินดุลอาจแสดงให้เห็นว่าประเทศเน้นการผลิตและส่งออกสินค้ามากกว่าการนำเข้า ซึ่งสามารถนำมาซึ่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การสร้างงาน และการเสริมสร้างเงินสำรองระหว่างประเทศ แต่หากดุลการค้าเสียดุล อาจหมายความว่าประเทศนั้นพึ่งพาการนำเข้าสินค้ามากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาทางการเงินในระยะยาว ตลาดโลกก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อสมดุลการค้า เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดโลกเช่น การขึ้นหรือลงของราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าของประเทศต่างๆ เหตุการณ์เหล่านี้สามารถส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศอย่างทันที และการปรับเปลี่ยนนโยบายเหล่านี้จะส่งผลให้ผู้ผลิตและนำเข้าต้องมีการปรับตัว นอกจากนโยบายและตลาดโลกแล้ว การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ก็มีผลต่อสมดุลการค้าเช่นกัน เมื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ถูกพัฒนาขึ้น จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ทำให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดีขึ้น ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น ในด้านตรงข้ามกัน ถ้าหากประเทศไทยไม่สามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่นี้ ก็อาจจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกตกลง ส่งผลให้ดุลการค้าเปลี่ยนแปลงได้ในทางที่เป็นลบ ดังนั้นการลงทุนในเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา (R&D) ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญ นอกจากนี้ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือ สนามบิน ระบบขนส่งมวลชน และการควบคุมคุณภาพสินค้า ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อสมดุลการค้า ทั้งนี้ การที่รัฐและเอกชนร่วมกันลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการขนส่งและกระจายสินค้า ทำให้สินค้าไทยสามารถเข้าถึงตลาดได้กว้างขึ้น สุดท้ายนี้ การศึกษาและการฝึกอบรมผู้ประกอบการอยู่ในแนวทางที่ทันสมัย ก็สำคัญไม่น้อย การเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเรียนรู้เทคนิคและแนวทางการทำธุรกิจใหม่ ๆ จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในระดับนานาชาติ ผู้ประกอบการควรมีความเข้าใจในเรื่องของการบริหารการเงิน การวิเคราะห์ตลาด และการวางแผนธุรกิจอย่างมีระบบ การที่จะทำให้ดุลการค้าอยู่ในสภาพที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศนั้น ต้องมีการติดตามและวิเคราะห์ตัวเลขและข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ในยุคนี้ ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและตรงเวลาเป็นเรื่องที่จำเป็น ด้วยเหตุนี้ เว็บไซต์อย่าง Eulerpool เราเป็นที่มุ่งหมายเพื่อให้บริการข้อมูลที่ทันสมัยและถูกต้องแก่ผู้ใช้งาน ทั้งนักวิจัย ผู้ประกอบการ และนักลงทุน ในทางปฎิบัติ การที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลสมดุลการค้าที่ถูกต้อง จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและสามารถวางแผนกลยุทธ์ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการระบุว่าที่ไหนมีโอกาสทางการค้ามากขึ้น สินค้าใดที่ควรผลิตหรือนำเข้า และการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต สมดุลการค้ายังเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจในวงกว้าง เช่น การบริโภค การลงทุน การผลิต และการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ การที่ประเทศมีดุลการค้าเกินดุล อาจเป็นสัญญาณว่าภายในประเทศมีแรงกำลังในการผลิตที่เข้มแข็ง แต่ในเวลาเดียวกัน การที่ประเทศมีดุลการค้าเสียดุล ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่ต้องกังวลเสมอไป หากการนำเข้าสินค้านั้นเป็นการนำเข้าเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการผลิต ซึ่งจะนำไปสู่การเจริญเติบโตในอนาคต สุดท้าย การที่สมดุลการค้าเป็นทั้งตัวชี้วัดและเครื่องมือในการวางแผนเศรษฐกิจ ส่วนสำคัญนี้จะมีผลต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว มันเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญ ทั้งในระดับรัฐและเอกชน แพลตฟอร์มของเราที่ Eulerpool จะยังคงมุ่งมั่นในการให้บริการข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย และเป็นมืออาชีพ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้นในหมู่นักวิเคราะห์ ผู้ประกอบการ และนักลงทุนในทุกด้านของเศรษฐกิจต่อไป สมดุลการค้าเป็นตัวบ่งชี้ที่ซับซ้อนและหลากหลายแต่มีความสำคัญยิ่งในการสร้างภาพรวมทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศ ข้อมูลที่ถูกต้องและการวิเคราะห์ที่แม่นยำเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย การที่เราเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ง่าย ๆ จากแพลตฟอร์มอย่าง Eulerpool จะช่วยให้เราสามารถทำความเข้าใจและวางแผนได้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน