ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร สหราชอาณาจักร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังในสหราชอาณาจักรคือ956 ล้านGBP การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังในสหราชอาณาจักรลดลงเหลือ956 ล้านGBPใน1/6/2566 หลังจากที่เคยเป็น1.113 ล้านล้านGBPใน1/3/2566 จาก1/3/2498ถึง1/3/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ในสหราชอาณาจักรคือ451.74 ล้านGBP ค่าสูงสุดตลอดเวลาอยู่ที่1/12/2558ด้วยค่า14.36 ล้านล้านGBP ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/3/2552ด้วยค่า-9.39 ล้านล้านGBP
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/3/2498 | 1.87 ล้านล้าน GBP |
1/9/2498 | 2.09 ล้านล้าน GBP |
1/12/2498 | 1.69 ล้านล้าน GBP |
1/3/2499 | 1.92 ล้านล้าน GBP |
1/6/2499 | 850 ล้าน GBP |
1/9/2499 | 338 ล้าน GBP |
1/12/2499 | 329 ล้าน GBP |
1/3/2500 | 2.37 ล้านล้าน GBP |
1/6/2500 | 1.25 ล้านล้าน GBP |
1/9/2500 | 437 ล้าน GBP |
1/3/2501 | 968 ล้าน GBP |
1/9/2501 | 1.1 ล้านล้าน GBP |
1/3/2502 | 180 ล้าน GBP |
1/9/2502 | 1.05 ล้านล้าน GBP |
1/12/2502 | 1.57 ล้านล้าน GBP |
1/3/2503 | 2.77 ล้านล้าน GBP |
1/6/2503 | 1.99 ล้านล้าน GBP |
1/9/2503 | 3.13 ล้านล้าน GBP |
1/12/2503 | 3.94 ล้านล้าน GBP |
1/3/2504 | 2.96 ล้านล้าน GBP |
1/6/2504 | 2.31 ล้านล้าน GBP |
1/9/2504 | 287 ล้าน GBP |
1/9/2505 | 426 ล้าน GBP |
1/6/2506 | 1.28 ล้านล้าน GBP |
1/12/2506 | 1.61 ล้านล้าน GBP |
1/3/2507 | 2.12 ล้านล้าน GBP |
1/6/2507 | 4.1 ล้านล้าน GBP |
1/9/2507 | 3.3 ล้านล้าน GBP |
1/12/2507 | 5.05 ล้านล้าน GBP |
1/3/2508 | 2.06 ล้านล้าน GBP |
1/6/2508 | 2.25 ล้านล้าน GBP |
1/9/2508 | 2.74 ล้านล้าน GBP |
1/12/2508 | 1.87 ล้านล้าน GBP |
1/3/2509 | 1.72 ล้านล้าน GBP |
1/6/2509 | 1.53 ล้านล้าน GBP |
1/9/2509 | 2.61 ล้านล้าน GBP |
1/3/2510 | 1.93 ล้านล้าน GBP |
1/6/2510 | 733 ล้าน GBP |
1/9/2510 | 167 ล้าน GBP |
1/12/2510 | 841 ล้าน GBP |
1/6/2511 | 2.74 ล้านล้าน GBP |
1/9/2511 | 3.3 ล้านล้าน GBP |
1/12/2511 | 2.05 ล้านล้าน GBP |
1/3/2512 | 2.92 ล้านล้าน GBP |
1/6/2512 | 2.31 ล้านล้าน GBP |
1/9/2512 | 1.05 ล้านล้าน GBP |
1/12/2512 | 1.42 ล้านล้าน GBP |
1/6/2513 | 2.35 ล้านล้าน GBP |
1/9/2513 | 2.64 ล้านล้าน GBP |
1/12/2513 | 1.26 ล้านล้าน GBP |
1/3/2514 | 961 ล้าน GBP |
1/9/2514 | 236 ล้าน GBP |
1/12/2514 | 136 ล้าน GBP |
1/12/2515 | 13 ล้าน GBP |
1/3/2516 | 6.12 ล้านล้าน GBP |
1/6/2516 | 6.25 ล้านล้าน GBP |
1/9/2516 | 6.2 ล้านล้าน GBP |
1/12/2516 | 3.91 ล้านล้าน GBP |
1/3/2517 | 233 ล้าน GBP |
1/6/2517 | 4.09 ล้านล้าน GBP |
1/9/2517 | 5.31 ล้านล้าน GBP |
1/9/2519 | 2.19 ล้านล้าน GBP |
1/12/2519 | 4.66 ล้านล้าน GBP |
1/3/2520 | 4.86 ล้านล้าน GBP |
1/6/2520 | 2.64 ล้านล้าน GBP |
1/9/2520 | 213 ล้าน GBP |
1/12/2520 | 3.15 ล้านล้าน GBP |
1/3/2521 | 1.67 ล้านล้าน GBP |
1/6/2521 | 3.01 ล้านล้าน GBP |
1/9/2521 | 1.66 ล้านล้าน GBP |
1/12/2521 | 2.53 ล้านล้าน GBP |
1/3/2522 | 3.51 ล้านล้าน GBP |
1/6/2522 | 905 ล้าน GBP |
1/9/2522 | 4.3 ล้านล้าน GBP |
1/12/2522 | 1.83 ล้านล้าน GBP |
1/3/2525 | 1.73 ล้านล้าน GBP |
1/6/2525 | 1.18 ล้านล้าน GBP |
1/6/2526 | 1.57 ล้านล้าน GBP |
1/9/2526 | 1.07 ล้านล้าน GBP |
1/12/2526 | 1.2 ล้านล้าน GBP |
1/9/2527 | 98 ล้าน GBP |
1/12/2527 | 3.22 ล้านล้าน GBP |
1/6/2528 | 3.23 ล้านล้าน GBP |
1/9/2528 | 918 ล้าน GBP |
1/12/2528 | 744 ล้าน GBP |
1/6/2529 | 2.5 ล้านล้าน GBP |
1/9/2529 | 102 ล้าน GBP |
1/6/2530 | 2.39 ล้านล้าน GBP |
1/9/2530 | 691 ล้าน GBP |
1/12/2530 | 489 ล้าน GBP |
1/3/2531 | 929 ล้าน GBP |
1/9/2531 | 2.12 ล้านล้าน GBP |
1/12/2531 | 11.19 ล้านล้าน GBP |
1/3/2532 | 1.74 ล้านล้าน GBP |
1/6/2532 | 3.44 ล้านล้าน GBP |
1/9/2532 | 2 ล้านล้าน GBP |
1/3/2533 | 314 ล้าน GBP |
1/6/2533 | 1.58 ล้านล้าน GBP |
1/12/2535 | 173 ล้าน GBP |
1/6/2536 | 1.76 ล้านล้าน GBP |
1/9/2536 | 254 ล้าน GBP |
1/6/2537 | 4.93 ล้านล้าน GBP |
1/9/2537 | 3.21 ล้านล้าน GBP |
1/12/2537 | 4.68 ล้านล้าน GBP |
1/6/2538 | 3.74 ล้านล้าน GBP |
1/9/2538 | 5.67 ล้านล้าน GBP |
1/12/2538 | 2.52 ล้านล้าน GBP |
1/3/2539 | 2.58 ล้านล้าน GBP |
1/12/2539 | 1.89 ล้านล้าน GBP |
1/9/2540 | 2.79 ล้านล้าน GBP |
1/12/2540 | 1.71 ล้านล้าน GBP |
1/3/2541 | 1.46 ล้านล้าน GBP |
1/6/2541 | 2.21 ล้านล้าน GBP |
1/9/2541 | 1.47 ล้านล้าน GBP |
1/12/2542 | 4.43 ล้านล้าน GBP |
1/3/2543 | 2.59 ล้านล้าน GBP |
1/9/2543 | 4.56 ล้านล้าน GBP |
1/6/2544 | 2.61 ล้านล้าน GBP |
1/9/2544 | 2.1 ล้านล้าน GBP |
1/6/2545 | 1.45 ล้านล้าน GBP |
1/6/2546 | 477 ล้าน GBP |
1/9/2546 | 407 ล้าน GBP |
1/12/2547 | 112 ล้าน GBP |
1/3/2548 | 646 ล้าน GBP |
1/6/2548 | 4.08 ล้านล้าน GBP |
1/9/2549 | 2.58 ล้านล้าน GBP |
1/12/2549 | 2.59 ล้านล้าน GBP |
1/3/2550 | 5.79 ล้านล้าน GBP |
1/6/2550 | 361 ล้าน GBP |
1/6/2554 | 4.47 ล้านล้าน GBP |
1/9/2554 | 248 ล้าน GBP |
1/6/2555 | 7.65 ล้านล้าน GBP |
1/9/2555 | 8.04 ล้านล้าน GBP |
1/3/2556 | 1.15 ล้านล้าน GBP |
1/6/2556 | 1.7 ล้านล้าน GBP |
1/9/2556 | 1.33 ล้านล้าน GBP |
1/12/2556 | 2.59 ล้านล้าน GBP |
1/6/2557 | 4.24 ล้านล้าน GBP |
1/9/2557 | 5.25 ล้านล้าน GBP |
1/12/2557 | 7.22 ล้านล้าน GBP |
1/3/2558 | 5.14 ล้านล้าน GBP |
1/12/2558 | 14.36 ล้านล้าน GBP |
1/3/2559 | 525 ล้าน GBP |
1/9/2559 | 1.92 ล้านล้าน GBP |
1/12/2559 | 2.78 ล้านล้าน GBP |
1/3/2560 | 5.11 ล้านล้าน GBP |
1/6/2560 | 6.2 ล้านล้าน GBP |
1/9/2560 | 1.73 ล้านล้าน GBP |
1/12/2560 | 270 ล้าน GBP |
1/6/2561 | 3.24 ล้านล้าน GBP |
1/12/2561 | 925 ล้าน GBP |
1/3/2562 | 6.72 ล้านล้าน GBP |
1/9/2563 | 368 ล้าน GBP |
1/12/2563 | 9.95 ล้านล้าน GBP |
1/3/2564 | 2.62 ล้านล้าน GBP |
1/9/2564 | 2.11 ล้านล้าน GBP |
1/12/2564 | 1.02 ล้านล้าน GBP |
1/3/2565 | 10.1 ล้านล้าน GBP |
1/6/2565 | 8.81 ล้านล้าน GBP |
1/12/2565 | 2.37 ล้านล้าน GBP |
1/3/2566 | 1.11 ล้านล้าน GBP |
1/6/2566 | 956 ล้าน GBP |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2566 | 956 ล้าน GBP |
1/3/2566 | 1.113 ล้านล้าน GBP |
1/12/2565 | 2.372 ล้านล้าน GBP |
1/6/2565 | 8.811 ล้านล้าน GBP |
1/3/2565 | 10.097 ล้านล้าน GBP |
1/12/2564 | 1.016 ล้านล้าน GBP |
1/9/2564 | 2.108 ล้านล้าน GBP |
1/3/2564 | 2.619 ล้านล้าน GBP |
1/12/2563 | 9.952 ล้านล้าน GBP |
1/9/2563 | 368 ล้าน GBP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇬🇧 Composite PMI | 51.7 points | 52.6 points | รายเดือน |
🇬🇧 การจดทะเบียนรถยนต์ | 275,239 Units | 84,575 Units | รายเดือน |
🇬🇧 การผลิตของภาคการผลิตเดือนต่อเดือน | -1.4 % | 0.3 % | รายเดือน |
🇬🇧 การผลิตในภาคการผลิต | -1.3 % | -1.5 % | รายเดือน |
🇬🇧 การผลิตไฟฟ้า | 49,675 Gigawatt-hour | 64,674 Gigawatt-hour | ควอร์เตอร์ |
🇬🇧 การผลิตรถยนต์ | 70,039 Units | 41,271 Units | รายเดือน |
🇬🇧 การผลิตเหมืองแร่ | -3.8 % | -7.5 % | รายเดือน |
🇬🇧 การผลิตอุตสาหกรรม | -1.2 % | -1.4 % | รายเดือน |
🇬🇧 การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน | -0.8 % | 0.8 % | รายเดือน |
🇬🇧 การลงทุนส่วนบุคคล | 1.4 % | 0.6 % | ควอร์เตอร์ |
🇬🇧 การล้มละลาย | 1,973 Companies | 1,943 Companies | รายเดือน |
🇬🇧 การสั่งซื้อใหม่ | 12.514 ล้านล้าน GBP | 10.743 ล้านล้าน GBP | ควอร์เตอร์ |
🇬🇧 การอนุมัติรถยนต์ไฟฟ้า | 56,387 Units | 19,113 Units | รายเดือน |
🇬🇧 กำไรของบริษัท | 145.102 ล้านล้าน GBP | 140.461 ล้านล้าน GBP | ควอร์เตอร์ |
🇬🇧 ความรู้สึกของธุรกิจขนาดเล็ก | -1 points | -13 points | ควอร์เตอร์ |
🇬🇧 คำสั่งซื้อจากโรงงาن | -35 Net Balance | -22 Net Balance | รายเดือน |
🇬🇧 ตัวชี้วัดเชิง복합แสดงสัญญาณล่วงหน้า | 102.136 points | 102.049 points | รายเดือน |
🇬🇧 ตัวบ่งชี้ล่วงหน้า | 0.5 % | 0.6 % | รายเดือน |
🇬🇧 บริการ PMI | 51.2 points | 52.9 points | รายเดือน |
🇬🇧 ผลิตภัณฑ์ PMI | 51.5 points | 52.5 points | รายเดือน |
🇬🇧 ยอดการจดทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น YoY | 1 % | -1.3 % | รายเดือน |
🇬🇧 ยอดขายปลีก BRC ประจำปี | 0.4 % | -4.4 % | รายเดือน |
🇬🇧 สภาวะธุรกิจ | 9 points | -3 points | ควอร์เตอร์ |
ในสหราชอาณาจักร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังถือเป็นตัวบ่งชี้ล่วงหน้าที่สำคัญสำหรับการแสดงผลโดยรวมของเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool