ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇸🇮

สโลวีเนีย ดุลการค้า

ราคา

8.23 ล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลง +/-
-548.05 ล้าน EUR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-194.17 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน สโลวีเนีย คือ 8.23 ล้าน EUR ดุลการค้าใน สโลวีเนีย ลดลงไปที่ 8.23 ล้าน EUR ในวันที่ 1/12/2566 หลังจากที่เป็น 556.28 ล้าน EUR ในวันที่ 1/7/2566 ตั้งแต่ 1/1/2535 ถึง 1/4/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน สโลวีเนีย คือ -78.59 ล้าน EUR จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/6/2566 ด้วยค่า 567.98 ล้าน EUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/8/2566 ด้วยค่า -1.19 ล้านล้าน EUR

แหล่งที่มา: Statistical Office of the Republic of Slovenia

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/12/25668.23 ล้าน EUR
1/7/2566556.28 ล้าน EUR
1/6/2566567.98 ล้าน EUR
1/2/2566230.23 ล้าน EUR
1/9/2565235.72 ล้าน EUR
1/6/2565364.23 ล้าน EUR
1/3/2564136.46 ล้าน EUR
1/2/2564253.29 ล้าน EUR
1/1/2564347.93 ล้าน EUR
1/10/2563183.53 ล้าน EUR
1
2
3
4
5
...
10

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇸🇮
กระแสเงินทุน
337 ล้าน EUR-164.8 ล้าน EURรายเดือน
🇸🇮
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
201.6 ล้าน EUR122.5 ล้าน EURรายเดือน
🇸🇮
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0 Pointsประจำปี
🇸🇮
ทองคำสำรอง
3.17 Tonnes3.17 Tonnesควอร์เตอร์
🇸🇮
นำเข้า
5.45 ล้านล้าน EUR5.651 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇸🇮
นำเข้าก๊าซธรรมชาติ
2,407 Terajoule2,879 Terajouleรายเดือน
🇸🇮
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
248.7 ล้าน EUR256.9 ล้าน EURรายเดือน
🇸🇮
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
678,076 596,418 รายเดือน
🇸🇮
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
4.5 % of GDP-1 % of GDPประจำปี
🇸🇮
ส่งออก
5.852 ล้านล้าน EUR5.087 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇸🇮
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
93 % of GDP93 % of GDPควอร์เตอร์
🇸🇮
หนี้สินต่างประเทศ
58.489 ล้านล้าน EUR57.94 ล้านล้าน EURควอร์เตอร์

การค้าของสโลวีเนียคิดเป็นประมาณ 120% ของ GDP (รวมการส่งออกและการนำเข้า) สโลวีเนียส่งออกส่วนใหญ่คือยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน ผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม และเสื้อผ้า ประเทศนี้นำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง สินค้าอุตสาหกรรม เคมีภัณฑ์ เชื้อเพลิงและสารหล่อลื่น และอาหาร สหภาพยุโรป (เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลี และฝรั่งเศส) เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดโดยคิดเป็นประมาณ 71% ของการส่งออกและ 79% ของการนำเข้า

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว