ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇵🇾

ปารากวัย การนำเข้า

ราคา

1.359 ล้านล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
+164.896 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+12.92 %

มูลค่าปัจจุบันของการนำเข้าใน ปารากวัย อยู่ที่ 1.359 ล้านล้าน USD การนำเข้าใน ปารากวัย เพิ่มขึ้นเป็น 1.359 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่มันอยู่ที่ 1.194 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/3/2567 ตั้งแต่ 1/1/2537 ถึง 1/5/2567 GDP เฉลี่ยใน ปารากวัย อยู่ที่ 601 ล้าน USD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อ 1/10/2566 โดยมีมูลค่า 1.41 ล้านล้าน USD ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/2/2546 โดยมีมูลค่า 104.59 ล้าน USD

แหล่งที่มา: Banco Central del Paraguay

การนำเข้า

  • แม็กซ์

นำเข้า

การนำเข้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25671.359 ล้านล้าน USD
1/3/25671.194 ล้านล้าน USD
1/2/25671.17 ล้านล้าน USD
1/1/25671.384 ล้านล้าน USD
1/12/25661.4 ล้านล้าน USD
1/11/25661.288 ล้านล้าน USD
1/10/25661.408 ล้านล้าน USD
1/9/25661.396 ล้านล้าน USD
1/8/25661.334 ล้านล้าน USD
1/7/25661.291 ล้านล้าน USD
1
2
3
4
5
...
37

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การนำเข้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇵🇾
กระแสเงินทุน
-517.8 ล้าน USD-792.7 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇵🇾
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
26.4 ล้าน USD50.1 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇵🇾
การโอนเงิน
59.044 ล้าน USD61.365 ล้าน USDรายเดือน
🇵🇾
ดัชนีการก่อการร้าย
0.241 Points1.605 Pointsประจำปี
🇵🇾
ทองคำสำรอง
8.19 Tonnes8.19 Tonnesควอร์เตอร์
🇵🇾
ยอดการค้า
-219.334 ล้าน USD-323.931 ล้าน USDรายเดือน
🇵🇾
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
-209.7 ล้าน USD-138.8 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇵🇾
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-5.9 % of GDP-0.8 % of GDPประจำปี
🇵🇾
ส่งออก
1.085 ล้านล้าน USD992.256 ล้าน USDรายเดือน
🇵🇾
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
27.1 % of GDP26.5 % of GDPประจำปี
🇵🇾
หนี้สินต่างประเทศ
15.375 ล้านล้าน USD15.328 ล้านล้าน USDรายเดือน

การนำเข้าหลักของประเทศปารากวัยประกอบด้วย: เครื่องจักร เครื่องใช้ และมอเตอร์ (28 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด); เครื่องอุปโภคบริโภค (28 เปอร์เซ็นต์); เชื้อเพลิงและสารหล่อลื่น (12 เปอร์เซ็นต์); เคมีภัณฑ์ (10 เปอร์เซ็นต์); และชิ้นส่วนและอุปกรณ์ขนส่ง (7 เปอร์เซ็นต์) ประเทศคู่ค้าสำคัญในการนำเข้า ได้แก่: จีน (30 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด), บราซิล (24 เปอร์เซ็นต์), อาร์เจนตินา (10 เปอร์เซ็นต์) และสหรัฐอเมริกา (9 เปอร์เซ็นต์) อื่น ๆ รวมถึง: สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เยอรมนี และรัสเซีย

คืออะไร การนำเข้า

การนำเข้า การนำเข้าถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งของเศรษฐกิจมหภาค และเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีผลกระทบสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในระดับประเทศ การนำเข้าหมายถึงการที่ประเทศหนึ่งมีการซื้อสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในการผลิตหรือจำหน่ายต่อ การนำเข้ามีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถเติมเต็มความต้องการของตลาดภายในประเทศที่ขาดแคลน หรือไม่ได้ผลิตขึ้นในประเทศนั้นๆ การนำเข้ามีผลกระทบที่หลายหลายต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งในทางบวกและทางลบ ทางด้านบวก การนำเข้าสามารถช่วยให้ประชาชนมีการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีส่วนช่วยในการยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้การผลิตของประเทศเกิดการพัฒนาและสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ ในทางกลับกัน การนำเข้าก็อาจมีผลกระทบทางลบ เช่น การทำให้เกิดการเสริมสร้างภาระทางการเงินภายนอกของประเทศมากขึ้น หรือส่งผลกระทบให้เกิดการขาดดุลทางการค้า สินค้าภายในประเทศอาจไม่ได้รับการสนับสนุนหรือได้รับการพัฒนาที่เพียงพอหากพึ่งพาการนำเข้ามากเกินไป สำหรับประเทศไทย สินค้านำเข้ามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทุน (capital goods) ที่ใช้ในการผลิต อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องจักรต่างๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค (consumer goods) เช่นอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ การนำเข้าเหล่านี้สามารถช่วยยกระดับมาตรฐานของการผลิตในประเทศได้ การนำเข้ายังสามารถชี้วัดถึงสุขภาพของเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อระดับการนำเข้าสูงมากๆ อาจบ่งบอกถึงการที่ภาคธุรกิจต้องการขยายการผลิต ซึ่งจะใช้วัตถุดิบนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม ก็อาจต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ร่วมด้วย เช่น ภาวะทางการเงินภายนอก ค่าเงิน อัตราภาษีศุลกากร และนโยบายการค้าต่างประเทศ ที่ eulerpool เว็บไซต์ของเรามุ่งมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและแม่นยำที่สุด เพื่อที่จะช่วยให้นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ นักวิจัย หรือผู้ที่สนใจในข้อมูลด้านเศรษฐกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ เว็บไซต์ของเราจะมีการอัปเดตข้อมูลการนำเข้าของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ทั้งในแง่มูลค่าการนำเข้า ปริมาณการนำเข้า และประเภทสินค้านำเข้า ในปัจจุบัน ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศต่างๆ ได้ทำให้การนำเข้าเป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้ การเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าในประเทศใดประเทศหนึ่ง สามารถส่งผลกระทบต่อการนำเข้าของประเทศอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มของการนำเข้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ตัวอย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีศุลกากร ซึ่งสามารถส่งผลต่อปริมาณสินค้าที่นำเข้าได้โดยตรง การที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการนำเข้าในบางภาคส่วนหรือสินค้าบางประเภทโดยเฉพาะก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนนั้น การนำเข้ายังมีบทบาทสำคัญในด้านของการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ประเทศที่ยังมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างไม่เต็มที่อาจต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ เทคโนโลยี หรือเครื่องจักรจากต่างประเทศ การนำเข้าเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการผลิตภายในประเทศเติบโตมากขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ สำหรับประเทศไทย การนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศก็มีผลกระทบต่อการนำเข้าเช่นกัน การเกิดสงครามการค้า หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของประเทศคู่ค้า อาจทำให้การนำเข้าสินค้าจากประเทศนั้นๆ ประสบปัญหา สิ่งนี้ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต้องมีการวางแผนและพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศใดประเทศหนึ่ง การทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความยั่งยืนในระยะยาวจำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมการนำเข้าอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตของประเทศและเพิ่มความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ สรุปแล้ว การนำเข้าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิตภายในประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ eulerpool ของเรายังคงยึดมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลที่มีคุณภาพและทันสมัย เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้ต่อไป