ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ปารากวัย ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ปารากวัย คือ 19.799 ล้าน USD ดุลการค้าใน ปารากวัย ลดลงไปที่ 19.799 ล้าน USD ในวันที่ 1/3/2566 หลังจากที่เป็น 62.65 ล้าน USD ในวันที่ 1/7/2564 ตั้งแต่ 1/1/2537 ถึง 1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน ปารากวัย คือ -115.71 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/4/2566 ด้วยค่า 245.61 ล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/1/2566 ด้วยค่า -684.27 ล้าน USD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/2/2537 | 36.51 ล้าน USD |
1/3/2537 | 344,840 USD |
1/4/2537 | 24.09 ล้าน USD |
1/5/2537 | 3.93 ล้าน USD |
1/6/2537 | 10.44 ล้าน USD |
1/3/2539 | 640,249 USD |
1/4/2539 | 48.13 ล้าน USD |
1/5/2539 | 6.96 ล้าน USD |
1/4/2540 | 16.26 ล้าน USD |
1/6/2540 | 66.42 ล้าน USD |
1/3/2541 | 22.36 ล้าน USD |
1/4/2541 | 4.53 ล้าน USD |
1/5/2541 | 34.55 ล้าน USD |
1/6/2541 | 54.51 ล้าน USD |
1/7/2541 | 58.02 ล้าน USD |
1/2/2542 | 16.74 ล้าน USD |
1/3/2542 | 82.4 ล้าน USD |
1/4/2542 | 81.03 ล้าน USD |
1/5/2542 | 61.88 ล้าน USD |
1/6/2542 | 46.37 ล้าน USD |
1/7/2542 | 34.64 ล้าน USD |
1/8/2542 | 12.78 ล้าน USD |
1/9/2542 | 19.43 ล้าน USD |
1/10/2542 | 12.43 ล้าน USD |
1/1/2543 | 23.31 ล้าน USD |
1/3/2543 | 61.82 ล้าน USD |
1/4/2543 | 72.27 ล้าน USD |
1/5/2543 | 22.1 ล้าน USD |
1/6/2543 | 30.86 ล้าน USD |
1/7/2543 | 15.12 ล้าน USD |
1/8/2543 | 6.12 ล้าน USD |
1/9/2543 | 13.17 ล้าน USD |
1/1/2544 | 1.71 ล้าน USD |
1/2/2544 | 17.94 ล้าน USD |
1/3/2544 | 35.36 ล้าน USD |
1/4/2544 | 57.5 ล้าน USD |
1/5/2544 | 24.19 ล้าน USD |
1/6/2544 | 45.22 ล้าน USD |
1/7/2544 | 84.12 ล้าน USD |
1/8/2544 | 21.38 ล้าน USD |
1/9/2544 | 25.04 ล้าน USD |
1/10/2544 | 23.54 ล้าน USD |
1/11/2544 | 20.89 ล้าน USD |
1/12/2544 | 10.82 ล้าน USD |
1/1/2545 | 37.66 ล้าน USD |
1/2/2545 | 48.1 ล้าน USD |
1/3/2545 | 86.35 ล้าน USD |
1/4/2545 | 94.24 ล้าน USD |
1/5/2545 | 81.48 ล้าน USD |
1/6/2545 | 73.51 ล้าน USD |
1/7/2545 | 90.44 ล้าน USD |
1/8/2545 | 103.89 ล้าน USD |
1/9/2545 | 68.34 ล้าน USD |
1/10/2545 | 44.71 ล้าน USD |
1/11/2545 | 51.64 ล้าน USD |
1/12/2545 | 38.21 ล้าน USD |
1/1/2546 | 44.92 ล้าน USD |
1/2/2546 | 59.69 ล้าน USD |
1/3/2546 | 108.84 ล้าน USD |
1/4/2546 | 136.49 ล้าน USD |
1/5/2546 | 107.36 ล้าน USD |
1/6/2546 | 106.46 ล้าน USD |
1/7/2546 | 64.02 ล้าน USD |
1/8/2546 | 85.15 ล้าน USD |
1/9/2546 | 15.6 ล้าน USD |
1/10/2546 | 11.32 ล้าน USD |
1/11/2546 | 48.42 ล้าน USD |
1/12/2546 | 24.61 ล้าน USD |
1/1/2547 | 13 ล้าน USD |
1/2/2547 | 81.9 ล้าน USD |
1/3/2547 | 88.49 ล้าน USD |
1/4/2547 | 121.34 ล้าน USD |
1/5/2547 | 69.87 ล้าน USD |
1/6/2547 | 52.8 ล้าน USD |
1/7/2547 | 13.83 ล้าน USD |
1/8/2547 | 38.2 ล้าน USD |
1/11/2547 | 1.11 ล้าน USD |
1/1/2548 | 38.97 ล้าน USD |
1/2/2548 | 116.41 ล้าน USD |
1/3/2548 | 98.05 ล้าน USD |
1/4/2548 | 65.03 ล้าน USD |
1/5/2548 | 37.9 ล้าน USD |
1/6/2548 | 29.13 ล้าน USD |
1/7/2548 | 10.74 ล้าน USD |
1/2/2552 | 3.21 ล้าน USD |
1/3/2552 | 34.14 ล้าน USD |
1/5/2552 | 3.55 ล้าน USD |
1/5/2556 | 49.64 ล้าน USD |
1/6/2556 | 95.85 ล้าน USD |
1/3/2557 | 75.19 ล้าน USD |
1/4/2557 | 198.29 ล้าน USD |
1/5/2557 | 112.11 ล้าน USD |
1/2/2558 | 13.97 ล้าน USD |
1/3/2558 | 49.77 ล้าน USD |
1/2/2559 | 103.55 ล้าน USD |
1/3/2559 | 162.8 ล้าน USD |
1/4/2559 | 142.17 ล้าน USD |
1/5/2559 | 86.08 ล้าน USD |
1/6/2559 | 133.25 ล้าน USD |
1/7/2559 | 106.87 ล้าน USD |
1/2/2560 | 97.97 ล้าน USD |
1/3/2560 | 122.22 ล้าน USD |
1/3/2561 | 36.61 ล้าน USD |
1/4/2563 | 111.22 ล้าน USD |
1/5/2563 | 77.04 ล้าน USD |
1/6/2563 | 5.9 ล้าน USD |
1/7/2563 | 52.45 ล้าน USD |
1/3/2564 | 233.1 ล้าน USD |
1/4/2564 | 33.65 ล้าน USD |
1/5/2564 | 87.16 ล้าน USD |
1/6/2564 | 53.37 ล้าน USD |
1/7/2564 | 62.65 ล้าน USD |
1/3/2566 | 19.8 ล้าน USD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2566 | 19.799 ล้าน USD |
1/7/2564 | 62.65 ล้าน USD |
1/6/2564 | 53.375 ล้าน USD |
1/5/2564 | 87.164 ล้าน USD |
1/4/2564 | 33.646 ล้าน USD |
1/3/2564 | 233.103 ล้าน USD |
1/7/2563 | 52.452 ล้าน USD |
1/6/2563 | 5.9 ล้าน USD |
1/5/2563 | 77.036 ล้าน USD |
1/4/2563 | 111.217 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇵🇾 กระแสเงินทุน | 220.8 ล้าน USD | -691 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇵🇾 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 26.4 ล้าน USD | 50.1 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇵🇾 การโอนเงิน | 59.044 ล้าน USD | 61.365 ล้าน USD | รายเดือน |
🇵🇾 ดัชนีการก่อการร้าย | 0.241 Points | 1.605 Points | ประจำปี |
🇵🇾 ทองคำสำรอง | 8.19 Tonnes | 8.19 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇵🇾 นำเข้า | 1.396 ล้านล้าน USD | 1.359 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇵🇾 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -209.7 ล้าน USD | -138.8 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇵🇾 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -5.9 % of GDP | -0.8 % of GDP | ประจำปี |
🇵🇾 ส่งออก | 1.085 ล้านล้าน USD | 992.256 ล้าน USD | รายเดือน |
🇵🇾 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 27.1 % of GDP | 26.5 % of GDP | ประจำปี |
🇵🇾 หนี้สินต่างประเทศ | 15.375 ล้านล้าน USD | 15.328 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การส่งออกสินค้าเกษตรในปารากวัยเพิ่มขึ้นอย่างมาก การขนส่งถั่วเหลืองคิดเป็นสัดส่วน 41 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมด อื่นๆ รวมถึง: เนื้อสัตว์ (16 เปอร์เซ็นต์), พลังงานไฟฟ้า (15 เปอร์เซ็นต์) และธัญพืช (7 เปอร์เซ็นต์) สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่: เครื่องจักร อุปกรณ์ และมอเตอร์ (28 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด); สินค้าอุปโภคบริโภค (28 เปอร์เซ็นต์); เชื้อเพลิงและสารหล่อลื่น (12 เปอร์เซ็นต์); เคมีภัณฑ์ (10 เปอร์เซ็นต์); และชิ้นส่วนและอุปกรณ์การขนส่ง (7 เปอร์เซ็นต์) คู่ค้าหลัก ได้แก่: บราซิล (38 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดและ 24 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) และอาร์เจนตินา (20 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกและ 10 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) อื่นๆ รวมถึง: จีนและสหรัฐอเมริกา
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว