ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇰🇿

คาซัคสถาน ดุลการค้า

ราคา

1.752 ล้านล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
-573 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-28.11 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน คาซัคสถาน คือ 1.752 ล้านล้าน USD ดุลการค้าใน คาซัคสถาน ลดลงไปที่ 1.752 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/3/2567 หลังจากที่เป็น 2.325 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/2/2567 ตั้งแต่ 1/1/2541 ถึง 1/4/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน คาซัคสถาน คือ 1.52 ล้านล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/6/2554 ด้วยค่า 6.77 ล้านล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/7/2563 ด้วยค่า -1.11 ล้านล้าน USD

แหล่งที่มา: Agency of Statistics of the Republic of Kazakhstan

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/25671.752 ล้านล้าน USD
1/2/25672.325 ล้านล้าน USD
1/1/25671.702 ล้านล้าน USD
1/12/2566661.2 ล้าน USD
1/11/25661.63 ล้านล้าน USD
1/10/25662.241 ล้านล้าน USD
1/9/25661.556 ล้านล้าน USD
1/8/25661.499 ล้านล้าน USD
1/7/25661.352 ล้านล้าน USD
1/6/25661.328 ล้านล้าน USD
1
2
3
4
5
...
31

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇰🇿
กระแสเงินทุน
-305.1 ล้าน USD-1.106 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇰🇿
การผลิตน้ำมันดิบ
1,886 BBL/D/1K1,896 BBL/D/1Kรายเดือน
🇰🇿
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
3.786 ล้านล้าน USD6.153 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇰🇿
การโอนเงิน
67.617 ล้าน USD67 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇰🇿
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0 Pointsประจำปี
🇰🇿
ทองคำสำรอง
294.23 Tonnes294.24 Tonnesควอร์เตอร์
🇰🇿
นำเข้า
5.044 ล้านล้าน USD4.527 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇰🇿
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
-892.5 ล้าน USD-2.093 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇰🇿
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
3.9 % of GDP-1.3 % of GDPประจำปี
🇰🇿
ส่งออก
7.082 ล้านล้าน USD6.279 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇰🇿
หนี้สินต่างประเทศ
162.697 ล้านล้าน USD162.689 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์

คาซัคสถานมีการบันทึกส่วนเกินการค้ามาตั้งแต่ปี 1998 สาเหตุหลักมาจากการส่งออกน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น สินค้านำเข้าสำคัญได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและเครื่องใช้เชิงกล (25 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมด); ผลิตภัณฑ์แร่ (15 เปอร์เซ็นต์); อุปกรณ์การขนส่ง (12 เปอร์เซ็นต์) และโลหะพื้นฐานและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง (10 เปอร์เซ็นต์) คู่ค้าหลักได้แก่ จีน (12 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดและ 17 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) รัสเซีย (10 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกและ 40 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) ประเทศอื่นๆ ได้แก่ อิตาลี (18 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดและ 4 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว