ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇮🇪

ไอร์แลนด์ อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

2.6 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-0.3 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-10.91 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน ไอร์แลนด์ คือ 2.6 % อัตราเงินเฟ้อ ใน ไอร์แลนด์ ลดลงถึง 2.6 % เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เคยเป็น 2.9 % เมื่อ 1/3/2567 จาก 1/11/2519 ถึง 1/5/2567 GDP เฉลี่ยใน ไอร์แลนด์ อยู่ที่ 4.4 % สถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่เมื่อ 1/10/2524 ที่ 23.15 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดจดบันทึกไว้เมื่อ 1/10/2552 ที่ -6.56 %

แหล่งที่มา: Central Statistics Office Ireland

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25672.6 %
1/3/25672.9 %
1/2/25673.4 %
1/1/25674.1 %
1/12/25664.6 %
1/11/25663.9 %
1/10/25665.1 %
1/9/25666.4 %
1/8/25666.3 %
1/7/25665.8 %
1
2
3
4
5
...
52

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇮🇪
CPI Transport
105.4 points103.4 pointsรายเดือน
🇮🇪
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
2.8 %0.9 %รายเดือน
🇮🇪
เงินเฟ้อด้านอาหาร
2.1 %2.3 %รายเดือน
🇮🇪
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
101.5 points101.3 pointsรายเดือน
🇮🇪
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว
119.7 points119.1 pointsรายเดือน
🇮🇪
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
99 points99 pointsรายเดือน
🇮🇪
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
102.1 points101.9 pointsรายเดือน
🇮🇪
ต้นทุนการผลิต
89 points87 pointsรายเดือน
🇮🇪
ตัวคูณ GDP
112.21 points108.76 pointsควอร์เตอร์
🇮🇪
ราคานำเข้า
115.5 points114.5 pointsรายเดือน
🇮🇪
ราคาส่งออก
108.8 points107.8 pointsรายเดือน
🇮🇪
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.2 %0.4 %รายเดือน
🇮🇪
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY
1.5 %2 %รายเดือน
🇮🇪
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน
0.2 %0.3 %รายเดือน
🇮🇪
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
2.3 %-2.8 %รายเดือน
🇮🇪
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
3.47 %3.49 %รายเดือน

ในไอร์แลนด์ หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภค ได้แก่: ที่อยู่อาศัย, น้ำ, ไฟฟ้า, ก๊าซ และเชื้อเพลิงอื่นๆ (16 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด); ร้านอาหารและโรงแรม (15 เปอร์เซ็นต์); การขนส่ง (14 เปอร์เซ็นต์); สินค้าและบริการอื่น ๆ (12 เปอร์เซ็นต์); และอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (11 เปอร์เซ็นต์) ดัชนียังรวมถึง: การพักผ่อนและวัฒนธรรม (7 เปอร์เซ็นต์); เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ (6 เปอร์เซ็นต์); เครื่องเรือน, อุปกรณ์ครัวเรือน และการบำรุงรักษา (5 เปอร์เซ็นต์) เสื้อผ้าและรองเท้า; สุขภาพ; การสื่อสาร; และการศึกษา คิดเป็นอีก 13 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด.

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ