ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇫🇷

ฝรั่งเศส ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ราคา

120.11 คะแนน
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.04 คะแนน
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0.03 %

มูลค่าปัจจุบันของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ใน ฝรั่งเศส อยู่ที่ 120.11 คะแนน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ใน ฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นเป็น 120.11 คะแนน เมื่อ 1/5/2567 หลังจากที่มันอยู่ที่ 120.07 คะแนน เมื่อ 1/4/2567 จาก 1/1/2533 ถึง 1/6/2567 GDP เฉลี่ยใน ฝรั่งเศส อยู่ที่ 90.12 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกบันทึกเมื่อ 1/6/2567 โดยมีค่าสูงสุดที่ 120.17 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/1/2533 โดยมีค่าต่ำสุดที่ 66.42 คะแนน

แหล่งที่มา: INSEE, France

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

  • แม็กซ์

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/5/2567120.11 คะแนน
1/4/2567120.07 คะแนน
1/3/2567119.47 คะแนน
1/2/2567119.21 คะแนน
1/1/2567118.19 คะแนน
1/12/2566118.39 คะแนน
1/11/2566118.23 คะแนน
1/10/2566118.43 คะแนน
1/9/2566118.26 คะแนน
1/8/2566118.89 คะแนน
1
2
3
4
5
...
42

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇫🇷
CPI Transport
129.84 points127.14 pointsรายเดือน
🇫🇷
การเงินเฟ้อด้านพลังงาน
8.5 %4.8 %รายเดือน
🇫🇷
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
-6.7 %-6.7 %รายเดือน
🇫🇷
เงินเฟ้อค่าเช่า
2.8 %2.7 %รายเดือน
🇫🇷
เงินเฟ้อด้านอาหาร
0.5 %0.8 %รายเดือน
🇫🇷
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว
123.6 points123.4 pointsรายเดือน
🇫🇷
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
131.92 points130.98 pointsรายเดือน
🇫🇷
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
116.3 points116.16 pointsรายเดือน
🇫🇷
ต้นทุนการผลิต
120.4 points122.1 pointsรายเดือน
🇫🇷
ภาวะเงินเฟ้อในการบริการ
2.6 %2.9 %รายเดือน
🇫🇷
อัตราเงินเฟ้อ
2.1 %2.3 %รายเดือน
🇫🇷
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.2 %0.1 %รายเดือน
🇫🇷
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY
2.5 %2.6 %รายเดือน
🇫🇷
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน
0.2 %0.2 %รายเดือน
🇫🇷
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
-1.4 %-3.6 %รายเดือน
🇫🇷
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
1.5 %1.8 %รายเดือน

ในฝรั่งเศส หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคคือบริการ (48 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด) โดยเฉพาะการเช่าและบริการสำหรับที่พักอาศัย (7 เปอร์เซ็นต์) บริการด้านสุขภาพ (6 เปอร์เซ็นต์) การขนส่ง (3 เปอร์เซ็นต์) และการสื่อสาร (2 เปอร์เซ็นต์) ดัชนียังรวมถึง: ผลิตภัณฑ์ที่ผลิต (26 เปอร์เซ็นต์) เช่น ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ (4 เปอร์เซ็นต์) และเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า (4 เปอร์เซ็นต์); อาหาร (16 เปอร์เซ็นต์); พลังงาน (8 เปอร์เซ็นต์) เช่น ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (4 เปอร์เซ็นต์); และยาสูบ (2 เปอร์เซ็นต์)

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ Consumer Price Index (CPI) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาเฉลี่ยของสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ภายใต้บริบทที่มีความหลากหลายทั้งในระดับประเทศและระดับโลก CPI มักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อ, ความสามารถในการซื้อของประชาชน, และนโยบายทางการเงิน โดยที่เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นในการให้ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มีความละเอียดและเป็นปัจจุบัน การทำความเข้าใจถึงความหมายและรายละเอียดของ CPI จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้อย่างเป็นมืออาชีพ ตามแบบมาตรฐานที่นิยมใช้ CPI จะถูกคำนวณจากตะกร้าสินค้าและบริการที่มีการเลือกสรรมาแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงการบริโภคของครัวเรือนทั่วไป การเปลี่ยนแปลงของราคาในตะกร้านี้จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจทั้งหมด ดังนั้นดัชนีนี้จึงถูกใช้เป็นตัวชี้วัดที่สามารถแปลผลลัพธ์ให้เห็นถึงแนวโน้มของเศรษฐกิจได้ CPI มีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีลักษณะและวิธีการคำนวณที่แตกต่างกันไป เช่น CPI ที่ใช้วัดราคาของสินค้าที่ไม่แน่นอนอย่างอาหารและพลังงาน ซึ่งมักจะมีการเปลี่ยนแปลงในราคาที่ผันผวนตามฤดูกาล นอกจากนี้ CPI ยังสามารถแบ่งได้ตามประชากรเป้าหมายที่จะถูกวัด เช่น CPI สำหรับครัวเรือนในเขตเมืองหรือ CPI สำหรับผู้บริโภคชาวต่างประเทศ การรู้เท่าทันกับวิธีการคำนวณ CPI จึงเป็นเรื่องสำคัญ วิธีการทั่วไปคือการกำหนดน้ำหนักให้กับสินค้าและบริการต่างๆ ในตะกร้า ซึ่งน้ำหนักนี้จะถูกปรับปรุงตามข้อมูลการบริโภคของประชาชน ผลลัพธ์จะถูกนำมาเปรียบเทียบกับช่วงเวลาต่างๆ เพื่อดูแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของราคา ส่วนมากจะเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หรืออาจเป็นการเปรียบเทียบรายเดือน หนึ่งในประโยชน์ของ CPI ที่มีความสำคัญคือการใช้ในการปรับค่าครองชีพในด้านต่างๆ เช่น การปรับค่าสินค้าหรือค่าบริการ การปรับค่าแรงงาน และการปรับรายจ่ายสำหรับโครงการสวัสดิการทางสังคมต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อและรักษาความสมดุลในการใช้ชีวิตของประชาชน นอกจากการวัดอัตราเงินเฟ้อแล้ว CPI ยังเป็นเครื่องมือที่รัฐบาลและธนาคารกลางใช้ในการกำหนดและปรับปรุงนโยบายทางการเงิน ซึ่งเป็นวิธีการที่สำคัญในการควบคุมเศรษฐกิจให้อยู่ในสภาพที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและปัจจัยที่ไม่แน่นอนได้ อย่างเช่น การปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการออกมาตรการต่างๆ เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของ CPI ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจหรือเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น แต่ผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจก็สามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ในการวางแผนและการตัดสินใจ เช่น การกำหนดราคาสินค้า การวางแผนงบประมาณครัวเรือน หรือการพิจารณาการลงทุน เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งหวังที่จะเป็นแหล่งข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ด้วยการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ และการนำเสนอดัชนีทางเศรษฐกิจในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเป็นประโยชน์ ด้วยความจำเป็นในยุคที่ข้อมูลข่าวสารมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เราตระหนักถึงความสำคัญของการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง, ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ทุกท่านสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากนั้น ท่านสามารถใช้ CPI ในการเปรียบเทียบระดับราคาของสินค้าและบริการในแต่ละช่วงเวลา และสามารถใช้เป็นตัวชี้วัดในการประเมินภาระค่าครองชีพ นอกจากนี้ การติดตามการเปลี่ยนแปลงของ CPI ยังช่วยให้ท่านสามารถเตรียมตัวและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้การใช้ข้อมูล CPI มีประสิทธิภาพมากขึ้น เราขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจถึงที่มาของข้อมูล, วิธีการคำนวณ, และปัจจัยต่างๆ ที่สามารถมีผลต่อดัชนีนี้ เช่น การเปลี่ยนแปลงของนโยบายทางการเงิน, การเปลี่ยนแปลงของการบริโภคในครัวเรือน, การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าสำคัญ ๆ เป็นต้น เชื่อมั่นว่า eulerpool จะสามารถเป็นแหล่งข้อมูลที่ท่านไว้วางใจได้ ด้วยการนำเสนอข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มีความเป็นมืออาชีพและละเอียดถี่ถ้วน ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการของเราในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต