ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇧🇪

เบลเยียม ดุลการค้า

ราคา

2.556 ล้านล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลง +/-
-193.3 ล้าน EUR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-7.29 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน เบลเยียม คือ 2.556 ล้านล้าน EUR ดุลการค้าใน เบลเยียม ลดลงไปที่ 2.556 ล้านล้าน EUR ในวันที่ 1/3/2567 หลังจากที่เป็น 2.749 ล้านล้าน EUR ในวันที่ 1/2/2567 ตั้งแต่ 1/1/2536 ถึง 1/4/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน เบลเยียม คือ 1.14 ล้านล้าน EUR จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/9/2566 ด้วยค่า 4.76 ล้านล้าน EUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/8/2565 ด้วยค่า -2.32 ล้านล้าน EUR

แหล่งที่มา: National Bank of Belgium

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/25672.556 ล้านล้าน EUR
1/2/25672.749 ล้านล้าน EUR
1/1/25671.942 ล้านล้าน EUR
1/12/25661.586 ล้านล้าน EUR
1/11/25661.322 ล้านล้าน EUR
1/10/25662.664 ล้านล้าน EUR
1/9/25664.761 ล้านล้าน EUR
1/8/25661.249 ล้านล้าน EUR
1/7/25662.885 ล้านล้าน EUR
1/6/25661.626 ล้านล้าน EUR
1
2
3
4
5
...
35

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇧🇪
กระแสเงินทุน
-158 ล้าน EUR-735 ล้าน EURควอร์เตอร์
🇧🇪
การขายอาวุธ
40 ล้าน SIPRI TIV144 ล้าน SIPRI TIVประจำปี
🇧🇪
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
15.656 ล้านล้าน EUR6.11 ล้านล้าน EURควอร์เตอร์
🇧🇪
การโอนเงิน
4.614 ล้านล้าน EUR4.373 ล้านล้าน EURควอร์เตอร์
🇧🇪
เงื่อนไขการซื้อขาย
97.32 points93.49 pointsรายเดือน
🇧🇪
ดัชนีการก่อการร้าย
1.904 Points2.763 Pointsประจำปี
🇧🇪
ทองคำสำรอง
227.4 Tonnes227.4 Tonnesควอร์เตอร์
🇧🇪
นำเข้า
42.509 ล้านล้าน EUR41.181 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇧🇪
นำเข้าก๊าซธรรมชาติ
138,858.7 Terajoule137,239.9 Terajouleรายเดือน
🇧🇪
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
3.101 ล้านล้าน EUR2.215 ล้านล้าน EURควอร์เตอร์
🇧🇪
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
1.637 ล้าน 1.504 ล้าน รายเดือน
🇧🇪
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-1 % of GDP-1 % of GDPประจำปี
🇧🇪
ส่งออก
42.297 ล้านล้าน EUR42.901 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇧🇪
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
241 % of GDP242 % of GDPควอร์เตอร์
🇧🇪
หนี้สินต่างประเทศ
1.385 ชีวภาพ. EUR1.399 ชีวภาพ. EURควอร์เตอร์

การค้าระหว่างประเทศมีมูลค่าประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของเศรษฐกิจของเบลเยียม ประมาณ 80% ของการค้าของเบลเยียมเป็นการค้ากับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่น ๆ สินค้าส่งออกหลักของเบลเยียมคือรถยนต์ ส่วนผสมยาประสมนอกการบรรจุเพื่อนำมาแบ่งใช้งานต่างหาก และเพชรที่ยังไม่ได้ติดตั้ง เบลเยียมนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ เคมีภัณฑ์ เพชร ยา อาหาร อุปกรณ์การขนส่ง และผลิตภัณฑ์น้ำมัน

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว