หลังจากช่วงเวลาของผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่ามาตรฐานและการลดลงของราคาหุ้น 14 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มาร์ค ชไนเดอร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของเนสท์เล่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ลาออกจากตำแหน่ง โดย โลรองต์ เฟร่กซ์ หัวหน้าธุรกิจในละตินอเมริกาจะเข้ามารับตำแหน่งแทนชไนเดอร์ โดยเฟร่กซ์จะเริ่มทำหน้าที่ใหม่ในเดือนกันยายน

เนสท์เล่ประกาศว่า ชไนเดอร์ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง CEO และกรรมการบริหาร ภายใต้การนำของเขา บริษัทได้มุ่งเน้นไปที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตสูงเช่น อาหารสัตว์ กาแฟ และผลิตภัณฑ์โภชนาการ ซึ่งทำให้เนสท์เล่อยู่เหนือคู่แข่งเป็นเวลานาน แต่ในช่วงเวลาล่าสุดมีปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสั่นคลอน

ในบรรดาอุปสรรคที่ประสบมีการรวมระบบไอทีที่ผิดพลาดซึ่งนำไปสู่ความล่าช้าในห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนการตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับดูแลของฝรั่งเศสเนื่องจากการใช้เทคนิคการทำความสะอาดที่ผิดกฎหมายในน้ำแร่ ปัญหาเหล่านี้และผลประกอบการครึ่งปีที่น่าผิดหวังซึ่งทำให้ต้องปรับลดคาดการณ์รายได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาหุ้น

ลอร็องต์ เฟร็กซ์ ซึ่งทำงานกับเนสท์เล่มาเกือบสี่ทศวรรษและเคยบริหารงานในยุโรปและอเมริกามาก่อน จะนำการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ „ลอร็องต์เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบในการนำเนสท์เล่ในช่วงเวลานี้ ภายใต้การนำของเขา เนสท์เล่จะเสริมสร้างตำแหน่งของตนในฐานะบริษัทที่น่าเชื่อถือและสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืนต่อไป“ พอล บุลค์ ประธานคณะกรรมการกล่าว

นักวิเคราะห์ประเมินการเปลี่ยนแปลงผู้นำแตกต่างกันไป

คริสโตเฟอร์ รอสแบช ผู้จัดการกองทุนที่ J Stern นักลงทุนระยะยาวในบริษัท Nestlé ยินดีที่แต่งตั้ง Freixe และเชื่อว่าเขาสามารถนำพาบริษัทผ่านความท้าทายในปัจจุบันได้ รอสแบชคาดหวังว่าภาพลักษณ์จะดีขึ้นเมื่อค่าจ้างสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ