ฟอร์เทสคิวเมทัลส์: การลงทุน 2.8 พันล้านดอลลาร์ในการเปลี่ยนยานพาหนะเป็นไฟฟ้า

ฟอร์ตสคิว เมทัลส์ (Fortescue Metals) ผู้นำธุรกิจเหมืองแร่เหล็กประกาศลงทุนมูลค่า 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานไฟฟ้าในกองยานพาหนะ ถึงแม้ว่าราคาสินแร่เหล็กที่ลดลงและค่าใช้จ่ายพลังงานที่สูงซึ่งนำไปสู่การหยุดโครงการไฮโดรเจนสีเขียวในช่วงต้นไตรมาสนี้ บริษัทก็ยังคงยึดมั่นในเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงสีเขียว การลงทุนมูลค่าหลายพันล้านนี้รวมถึงการซื้อนวัตกรรมยานพาหนะที่ไม่ปล่อยไอเสียจำนวน 475 คัน ได้แก่ รถบรรทุกไฟฟ้าแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติ 360 คัน รถขุดไฟฟ้า 55 คัน และรถดันดินไฟฟ้าแบตเตอรี่รุ่นใหม่ 60 คันจากกลุ่มบริษัท Liebherr จากเยอรมนี "ความตื่นตระหนกของซีอีโอจะเริ่มปรากฏ เมื่อตระหนักว่านี่คือคำสั่งซื้อมูลค่า 2.8 พันล้านดอลลาร์; นี่คืออนาคตของอุตสาหกรรมหนัก และมันเป็นการปลอดไฟฟ้า" แอนดรู ฟอร์เรสต์ ประธานบริษัทฟอร์ตสคิวกล่าวหลังจากงานแสดงเหมืองแร่ในลาสเวกัส ฟอร์ตสคิวตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยานที่จะบรรลุการปลอดมลพิษสุทธิ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2030 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เหนือกว่าเจ้าอื่นเช่น Rio Tinto และ BHP แม้ว่าคู่แข่งเหล่านี้จะวิจัยเรื่องรถบรรทุกไฟฟ้าและโครงการยั่งยืนอื่นๆ ฟอร์ตสคิวก้าวไปไกลกว่านั้นโดยมุ่งเน้นไปที่การขจัดเชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งแตกต่างจากคนอื่นที่ใช้การชดเชยคาร์บอน ฟอร์เรสต์ปฏิเสธอย่างชัดเจนในสิ่งที่เขาเรียกว่า "การทำเขียวลวง" และแทนที่จะบรรลุ "ปลอดมลพิษจริง" บริษัทกำลังทดลองใช้เครื่องจักรไฟฟ้าเช่น รถขุดไฟฟ้า Liebherr R 9500 E 55 คันในการดำเนินงานที่ Pilbara เมื่อกองยานพาหนะทั้งหมดเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าแล้ว บริษัทคาดหวังว่าจะประหยัดน้ำมันดีเซลได้ปีละประมาณ 95 ล้านลิตร ส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานไฟฟ้าของฟอร์ตสคิวคือการใช้พลังงานทดแทน ปัจจุบันบริษัทใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 60 เมกะวัตต์ที่ Chichester Hub และมีแผนที่จะเปลี่ยนเป็นพลังงานทดแทน 100% การเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานไฟฟ้านี้ยังครอบคลุมถึงกระบวนการขนส่งเพิ่มเติม เนื่องจากบริษัทได้ประกาศความร่วมมือกับ Downer Group ในการพัฒนารถไฟไฟฟ้าแบตเตอรี่เพื่อลดการปล่อยมลพิษในการเดินทางจากเหมืองสู่ท่าเรือ "ช่วงเวลาที่คนหลอกลวงว่า การทำให้เขียวลวงให้ผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้นและชุมชนของคุณนั้นสิ้นสุดลงแล้ว ฟอร์ตสคิวเชิญชวนคุณเข้าร่วมกับเรา เราสามารถเป็นผู้นำที่นำพาโลกนี้ออกจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลได้" ฟอร์เรสต์เน้นย้ำ