ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร มอลตา รายได้ของรัฐบาล
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของรายได้ของรัฐบาลใน มอลตา อยู่ที่ 1.712 ล้านล้าน EUR รายได้ของรัฐบาลใน มอลตา เพิ่มขึ้นเป็น 1.712 ล้านล้าน EUR เมื่อ 1/12/2566 หลังจากที่เคยอยู่ที่ 1.639 ล้านล้าน EUR เมื่อ 1/9/2566 จาก 1/3/2542 ถึง 1/3/2567 GDP เฉลี่ยใน มอลตา อยู่ที่ 810.18 ล้าน EUR โดยที่ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/6/2566 ด้วย 1.72 ล้านล้าน EUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกเมื่อ 1/3/2542 ด้วย 306.21 ล้าน EUR
รายได้ของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รายได้ของรัฐ | |
---|---|
1/3/2542 | 306.21 ล้าน EUR |
1/6/2542 | 360.09 ล้าน EUR |
1/9/2542 | 346.5 ล้าน EUR |
1/12/2542 | 323.09 ล้าน EUR |
1/3/2543 | 321.89 ล้าน EUR |
1/6/2543 | 390.55 ล้าน EUR |
1/9/2543 | 309 ล้าน EUR |
1/12/2543 | 415.06 ล้าน EUR |
1/3/2544 | 385.85 ล้าน EUR |
1/6/2544 | 376.01 ล้าน EUR |
1/9/2544 | 360.33 ล้าน EUR |
1/12/2544 | 396.27 ล้าน EUR |
1/3/2545 | 431.69 ล้าน EUR |
1/6/2545 | 388.35 ล้าน EUR |
1/9/2545 | 391.21 ล้าน EUR |
1/12/2545 | 415.82 ล้าน EUR |
1/3/2546 | 419.76 ล้าน EUR |
1/6/2546 | 411.02 ล้าน EUR |
1/9/2546 | 404.94 ล้าน EUR |
1/12/2546 | 487 ล้าน EUR |
1/3/2547 | 438.13 ล้าน EUR |
1/6/2547 | 405.89 ล้าน EUR |
1/9/2547 | 434.08 ล้าน EUR |
1/12/2547 | 564.03 ล้าน EUR |
1/3/2548 | 462 ล้าน EUR |
1/6/2548 | 497.64 ล้าน EUR |
1/9/2548 | 496.45 ล้าน EUR |
1/12/2548 | 586.06 ล้าน EUR |
1/3/2549 | 492.38 ล้าน EUR |
1/6/2549 | 533.9 ล้าน EUR |
1/9/2549 | 512.64 ล้าน EUR |
1/12/2549 | 608.3 ล้าน EUR |
1/3/2550 | 536.42 ล้าน EUR |
1/6/2550 | 528.11 ล้าน EUR |
1/9/2550 | 518.7 ล้าน EUR |
1/12/2550 | 668.26 ล้าน EUR |
1/3/2551 | 561.6 ล้าน EUR |
1/6/2551 | 566.85 ล้าน EUR |
1/9/2551 | 593.93 ล้าน EUR |
1/12/2551 | 642.12 ล้าน EUR |
1/3/2552 | 562.45 ล้าน EUR |
1/6/2552 | 578.54 ล้าน EUR |
1/9/2552 | 557.91 ล้าน EUR |
1/12/2552 | 681.68 ล้าน EUR |
1/3/2553 | 615.73 ล้าน EUR |
1/6/2553 | 629.28 ล้าน EUR |
1/9/2553 | 617.03 ล้าน EUR |
1/12/2553 | 722.67 ล้าน EUR |
1/3/2554 | 660.08 ล้าน EUR |
1/6/2554 | 620.74 ล้าน EUR |
1/9/2554 | 643.08 ล้าน EUR |
1/12/2554 | 771.03 ล้าน EUR |
1/3/2555 | 685 ล้าน EUR |
1/6/2555 | 689.3 ล้าน EUR |
1/9/2555 | 683.86 ล้าน EUR |
1/12/2555 | 798.39 ล้าน EUR |
1/3/2556 | 700.77 ล้าน EUR |
1/6/2556 | 736.69 ล้าน EUR |
1/9/2556 | 721.34 ล้าน EUR |
1/12/2556 | 905.8 ล้าน EUR |
1/3/2557 | 713.94 ล้าน EUR |
1/6/2557 | 807.97 ล้าน EUR |
1/9/2557 | 810.51 ล้าน EUR |
1/12/2557 | 1.06 ล้านล้าน EUR |
1/3/2558 | 787.34 ล้าน EUR |
1/6/2558 | 894.62 ล้าน EUR |
1/9/2558 | 896.07 ล้าน EUR |
1/12/2558 | 1.19 ล้านล้าน EUR |
1/3/2559 | 859.6 ล้าน EUR |
1/6/2559 | 921.62 ล้าน EUR |
1/9/2559 | 995.56 ล้าน EUR |
1/12/2559 | 1.18 ล้านล้าน EUR |
1/3/2560 | 985.03 ล้าน EUR |
1/6/2560 | 1.08 ล้านล้าน EUR |
1/9/2560 | 1.19 ล้านล้าน EUR |
1/12/2560 | 1.25 ล้านล้าน EUR |
1/3/2561 | 1.07 ล้านล้าน EUR |
1/6/2561 | 1.21 ล้านล้าน EUR |
1/9/2561 | 1.26 ล้านล้าน EUR |
1/12/2561 | 1.4 ล้านล้าน EUR |
1/3/2562 | 1.19 ล้านล้าน EUR |
1/6/2562 | 1.32 ล้านล้าน EUR |
1/9/2562 | 1.24 ล้านล้าน EUR |
1/12/2562 | 1.42 ล้านล้าน EUR |
1/3/2563 | 930.88 ล้าน EUR |
1/6/2563 | 1.19 ล้านล้าน EUR |
1/9/2563 | 1.25 ล้านล้าน EUR |
1/12/2563 | 1.4 ล้านล้าน EUR |
1/3/2564 | 1.14 ล้านล้าน EUR |
1/6/2564 | 1.35 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 1.34 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 1.56 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 1.3 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 1.49 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 1.46 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 1.65 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 1.41 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 1.72 ล้านล้าน EUR |
1/9/2566 | 1.64 ล้านล้าน EUR |
1/12/2566 | 1.71 ล้านล้าน EUR |
รายได้ของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 1.712 ล้านล้าน EUR |
1/9/2566 | 1.639 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 1.723 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 1.409 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 1.646 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 1.464 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 1.492 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 1.302 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 1.562 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 1.339 ล้านล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ รายได้ของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇲🇹 การใช้จ่ายทางทหาร | 112.6 ล้าน USD | 78.3 ล้าน USD | ประจำปี |
🇲🇹 ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลต่อ GDP | 38.4 % of GDP | 39.4 % of GDP | ประจำปี |
🇲🇹 คำขอลี้ภัย | 25 persons | 40 persons | รายเดือน |
🇲🇹 งบประมาณของรัฐ | -4.9 % of GDP | -5.5 % of GDP | ประจำปี |
🇲🇹 ดัชนีการทุจริต | 51 Points | 51 Points | ประจำปี |
🇲🇹 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | -596.92 ล้าน EUR | -83.1 ล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇲🇹 รัฐบาลใช้จ่าย | 2.309 ล้านล้าน EUR | 1.722 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇲🇹 รัฐบาลใช้จ่าย | 733.039 ล้าน EUR | 658.37 ล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇲🇹 หนี้สาธารณะ | 9.976 ล้านล้าน EUR | 9.768 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇲🇹 หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | 50.4 % of GDP | 51.6 % of GDP | ประจำปี |
🇲🇹 อันดับคอร์รัปชั่น | 55 | 54 | ประจำปี |
รายรับของรัฐบาลหมายถึงรายได้ทั้งหมดที่รัฐบาลได้รับ ซึ่งรวมถึงภาษี, อากรขาเข้า, รายได้จากวิสาหกิจของรัฐ, รายได้จากทุน และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รายรับของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งในการคำนวณดุลบประมาณของรัฐบาล
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร รายได้ของรัฐบาล
รัฐบาลไทยสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่งเพื่อเป็นทุนในการบริหารประเทศและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ แหล่งที่มาของรายได้นี้เรียกรวมว่า 'รายได้ของรัฐบาล' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รายได้ของรัฐบาลไทยเกิดจากแหล่งที่มาหลายชุด ซึ่งถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ หนึ่งในแหล่งที่มาหลักของรายได้รัฐบาลคือภาษี ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ประชาชนและบริษัทต่างๆ ต้องเสียเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ภาษีแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินทรัพย์ และภาษีศุลกากร ซึ่งแต่ละประเภทของภาษีมีระเบียบและข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยสร้างเงินทุนให้รัฐบาลนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมให้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีตามความสามารถของตน นอกจากภาษีแล้ว รัฐบาลยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณะและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงานของรัฐ เช่นเดียวกันการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ เหมืองแร่ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินงานเหล่านี้ อีกแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลคือการลงทุนในกิจการรัฐและการออกพันธบัตรรัฐบาล เมื่อลงทุนในกิจการรัฐบาล หน่วยงานราชการสามารถนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐบาลอาจลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพการทำกำไร หรือสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ระบบขนส่งมวลชน และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นวิธีการหนึ่งในการระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งการออกพันธบัตรนี้โดยปกติจะมีการระบุอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการชำระคืนอย่างชัดเจน ในการจัดทำงบประมาณรัฐบาล การบริหารรายได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นระเบียบและไม่มีการขาดทุน การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลและมีการพยากรณ์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในระยะยาว ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการบริหารการคลังที่ดีสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลจะมีหลากหลาย รัฐบาลไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการรายได้ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เช่น การป้องกันการทุจริตและการเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บรายได้ นอกจากนี้ยังต้องดูแลไม่ให้การเก็บภาษีเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับประชาชนและไม่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม การนำเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรายได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้มีการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ในยุคโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการรายได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ หมายความว่ารัฐบาลไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันและสามารถเพิ่มรายได้จากการขยายตลาดการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันยังเป็นอีกแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล สรุปแล้ว รายได้ของรัฐบาลไทยมาจากหลายแหล่งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาษี ค่าธรรมเนียม สัมปทาน การลงทุนและการออกพันธบัตร ซึ่งการบริหารจัดการรายได้เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายและวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลต้องเผชิญ เพื่อให้สามารถสร้างและจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป