ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ลิทัวเนีย ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ลิทัวเนีย คือ 58.8 ล้าน EUR ดุลการค้าใน ลิทัวเนีย ลดลงไปที่ 58.8 ล้าน EUR ในวันที่ 1/1/2564 หลังจากที่เป็น 126.1 ล้าน EUR ในวันที่ 1/12/2563 ตั้งแต่ 1/1/2537 ถึง 1/6/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน ลิทัวเนีย คือ -216.57 ล้าน EUR จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/6/2567 ด้วยค่า 409.9 ล้าน EUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/12/2565 ด้วยค่า -948.9 ล้าน EUR
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/5/2537 | 32.1 ล้าน EUR |
1/7/2537 | 42.3 ล้าน EUR |
1/8/2537 | 69.2 ล้าน EUR |
1/9/2537 | 2.6 ล้าน EUR |
1/3/2556 | 13.3 ล้าน EUR |
1/6/2556 | 18.5 ล้าน EUR |
1/8/2563 | 77.2 ล้าน EUR |
1/9/2563 | 104.5 ล้าน EUR |
1/10/2563 | 30.8 ล้าน EUR |
1/12/2563 | 126.1 ล้าน EUR |
1/1/2564 | 58.8 ล้าน EUR |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/1/2564 | 58.8 ล้าน EUR |
1/12/2563 | 126.1 ล้าน EUR |
1/10/2563 | 30.8 ล้าน EUR |
1/9/2563 | 104.5 ล้าน EUR |
1/8/2563 | 77.2 ล้าน EUR |
1/6/2556 | 18.5 ล้าน EUR |
1/3/2556 | 13.3 ล้าน EUR |
1/9/2537 | 2.6 ล้าน EUR |
1/8/2537 | 69.2 ล้าน EUR |
1/7/2537 | 42.3 ล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇱🇹 กระแสเงินทุน | 361.1 ล้าน EUR | 318.79 ล้าน EUR | รายเดือน |
🇱🇹 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | -67.44 ล้าน EUR | 743.08 ล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇱🇹 การโอนเงิน | 192.14 ล้าน EUR | 222.05 ล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇱🇹 ดัชนีการก่อการร้าย | 0.059 Points | 0.508 Points | ประจำปี |
🇱🇹 ทองคำสำรอง | 5.82 Tonnes | 5.82 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇱🇹 นำเข้า | 3.361 ล้านล้าน EUR | 3.516 ล้านล้าน EUR | รายเดือน |
🇱🇹 นำเข้าก๊าซธรรมชาติ | 12,035 Terajoule | 9,707 Terajoule | รายเดือน |
🇱🇹 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 282.1 ล้าน EUR | -30.7 ล้าน EUR | รายเดือน |
🇱🇹 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 296,600 | 507,800 | ควอร์เตอร์ |
🇱🇹 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 1.9 % of GDP | -5.5 % of GDP | ประจำปี |
🇱🇹 รายได้จากการท่องเที่ยว | 197.7 ล้าน EUR | 389.2 ล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇱🇹 ส่งออก | 3.212 ล้านล้าน EUR | 3.092 ล้านล้าน EUR | รายเดือน |
🇱🇹 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 71 % of GDP | 68 % of GDP | ควอร์เตอร์ |
🇱🇹 หนี้สินต่างประเทศ | 49.233 ล้านล้าน EUR | 47.498 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
ลิทัวเนียส่งออกสินค้าส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มแร่ธาตุ, เครื่องจักรและอุปกรณ์กลไก, อุปกรณ์ไฟฟ้า, เคมีภัณฑ์ และอาหาร; และนำเข้าสินค้าแร่ธาตุ, เครื่องจักรและอุปกรณ์กลไก, อุปกรณ์ไฟฟ้า ในปี 2016 การขาดดุลการค้าที่ใหญ่ที่สุดถูกบันทึกกับเยอรมนี, โปแลนด์, รัสเซีย และสวีเดน ขณะที่การเกินดุลการค้าที่ใหญ่ที่สุดถูกบันทึกกับสหรัฐอเมริกา, เอสโตเนีย, สหราชอาณาจักร และลัตเวีย
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว