ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇯🇵

ญี่ปุ่น ดุลการค้า

ราคา

58.882 ล้านล้าน JPY
การเปลี่ยนแปลง +/-
-6.477 ล้านล้าน JPY
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-10.43 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ญี่ปุ่น คือ 58.882 ล้านล้าน JPY ดุลการค้าใน ญี่ปุ่น ลดลงไปที่ 58.882 ล้านล้าน JPY ในวันที่ 1/12/2566 หลังจากที่เป็น 65.359 ล้านล้าน JPY ในวันที่ 1/9/2566 ตั้งแต่ 1/1/2506 ถึง 1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน ญี่ปุ่น คือ 278.93 ล้านล้าน JPY จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/9/2550 ด้วยค่า 1.61 ชีวภาพ. JPY ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/1/2566 ด้วยค่า -3.51 ชีวภาพ. JPY

แหล่งที่มา: Ministry of Finance, Japan

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/12/256658.882 ล้านล้าน JPY
1/9/256665.359 ล้านล้าน JPY
1/6/256639.217 ล้านล้าน JPY
1/7/2564428.415 ล้านล้าน JPY
1/6/2564361.192 ล้านล้าน JPY
1/4/2564217.869 ล้านล้าน JPY
1/3/2564609.843 ล้านล้าน JPY
1/2/2564167.303 ล้านล้าน JPY
1/12/2563708.28 ล้านล้าน JPY
1/11/2563325.91 ล้านล้าน JPY
1
2
3
4
5
...
51

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇯🇵
กระแสเงินทุน
2.243 ชีวภาพ. JPY2.441 ชีวภาพ. JPYรายเดือน
🇯🇵
การขายอาวุธ
13 ล้าน SIPRI TIV3 ล้าน SIPRI TIVประจำปี
🇯🇵
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
2.96 ชีวภาพ. JPY1.52 ชีวภาพ. JPYรายเดือน
🇯🇵
การส่งออกเทียบปีต่อปี
13.5 %8.3 %รายเดือน
🇯🇵
เงื่อนไขการซื้อขาย
84.2 points83.9 pointsรายเดือน
🇯🇵
ดัชนีการก่อการร้าย
1.189 Points2.398 Pointsประจำปี
🇯🇵
ทองคำสำรอง
845.97 Tonnes845.97 Tonnesควอร์เตอร์
🇯🇵
นำเข้า
10.241 ชีวภาพ. JPY8.985 ชีวภาพ. JPYรายเดือน
🇯🇵
นำเข้า YoY
9.5 %8.3 %รายเดือน
🇯🇵
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
3.193 ชีวภาพ. JPY1.534 ชีวภาพ. JPYรายเดือน
🇯🇵
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
3.29 ล้าน 3.136 ล้าน รายเดือน
🇯🇵
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
1.8 % of GDP3.9 % of GDPประจำปี
🇯🇵
รายได้จากการท่องเที่ยว
10.501 ล้านล้าน JPY14.949 ล้านล้าน JPYรายเดือน
🇯🇵
ส่งออก
8.277 ชีวภาพ. JPY8.981 ชีวภาพ. JPYรายเดือน
🇯🇵
หนี้สินต่างประเทศ
632.431 ชีวภาพ. JPY652.333 ชีวภาพ. JPYควอร์เตอร์

ดุลการค้าของญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเนื่องจากการหยุดชะงักของการผลิตและปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา ในปี 2022 ประเทศนี้บันทึกการขาดดุลการค้าเดือนต่อเดือนอย่างต่อเนื่องเนื่องจากการนำเข้าสูงขึ้นมากกว่าการส่งออก ด้านหนึ่ง เงินเยนอ่อนตัวได้ช่วยผลักดันการส่งออกให้ถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่อีกด้านหนึ่ง มันทำให้ราคาของสินค้าที่นำเข้า โดยเฉพาะสินค้าอาหารและพลังงาน สูงมากขึ้น การขาดดุลการค้าที่ใหญ่ที่สุดพบกับออสเตรเลีย จีน และประเทศในตะวันออกกลาง ขณะที่การเกินดุลการค้าสูงสุดพบกับสหรัฐอเมริกา ฮ่องกง เกาหลีใต้ และสิงคโปร์

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว