สหรัฐอเมริกา ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)
ราคา
ค่าปัจจุบันของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ใน สหรัฐอเมริกา คือ 53.9 คะแนน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ใน สหรัฐอเมริกา ลดลงเป็น 53.9 คะแนน เมื่อ 1/9/2568 หลังจากที่เคยเป็น 54.6 คะแนน เมื่อ 1/8/2568 ตั้งแต่ 1/11/2556 ถึง 1/9/2568 ค่าเฉลี่ย GDP ใน สหรัฐอเมริกา คือ 53.75 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกถึงเมื่อ 1/5/2564 ด้วย 68.7 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/4/2563 ด้วย 27 คะแนน
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)
แม็กซ์
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2568 | 53.9 คะแนน |
1/8/2568 | 54.6 คะแนน |
1/7/2568 | 55.1 คะแนน |
1/6/2568 | 52.9 คะแนน |
1/5/2568 | 53 คะแนน |
1/4/2568 | 50.6 คะแนน |
1/3/2568 | 53.5 คะแนน |
1/2/2568 | 51.6 คะแนน |
1/1/2568 | 52.7 คะแนน |
1/12/2567 | 55.4 คะแนน |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)
ในสหรัฐอเมริกา ดัชนี S&P Global Composite PMI Output ซึ่งเป็นดัชนีเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของดัชนีผลผลิตภาคการผลิตและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจภาคบริการ ติดตามแนวโน้มธุรกิจทั้งในภาคการผลิตและบริการ ดัชนีนี้อ้างอิงจากข้อมูลที่รวบรวมจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของบริษัทกว่า 800 แห่ง และติดตามตัวแปรต่างๆ เช่น ยอดขาย คำสั่งซื้อใหม่ การจ้างงาน สต็อก และราคา การอ่านค่าสูงกว่า 50 แสดงถึงการขยายตัวของกิจกรรมทางธุรกิจ ขณะที่น้อยกว่า 50 ชี้ให้เห็นถึงการหดตัวของกิจกรรมทางธุรกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (PMI)
ที่ Eulerpool เว็บไซต์ที่เชื่อถือได้สำหรับการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและเป็นปัจจุบัน ในหมวดหมู่การวัดดัชนีเศรษฐกิจมหภาคหนึ่งที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับในระดับสากลคือ 'Composite PMI' หรือดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแบบผสม เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่นำมาใช้ในการประเมินสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแบบผสม (Composite PMI) คืออะไร? ดัชนี PMI เป็นเครื่องมือที่ถูกพัฒนามาเพื่อประเมินสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและเป็นตัวชี้วัดระดับการเติบโตหรือหยุดชะงักของเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำการสำรวจผ่านการถามคำถามของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในองค์กรต่าง ๆ ซึ่งพวกเขาจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งซื้อ การผลิต สต๊อกสินค้า การจ้างงาน และราคาสินค้า และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาคำนวณเป็นดัชนี PMI Composite PMI นั้นจะรวมข้อมูลทั้งจากภาคการผลิตและภาคบริการ ซึ่งทำให้ดัชนีนี้มีความครอบคลุมในการประเมินสภาพเศรษฐกิจแบบครบองค์รวม ภาคการบริการมีความสำคัญอย่างยิ่งในเศรษฐกิจสมัยใหม่ และการรวมข้อมูลจากทั้งสองภาคสาขาทำให้ได้รับภาพรวมที่แม่นยำและแพร่หลายมากขึ้น ทำไม Composite PMI ถึงสำคัญ? Composite PMI มีบทบาทสำคัญในการทำให้เราเข้าใจและประเมินสภาพเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เนื่องจากดัชนีนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การใช้จ่ายของผู้บริโภค การจ้างงาน และการลงทุน ถ้าดัชนี Composite PMI สูงกว่า 50 แสดงว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัว ในขณะที่ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งบอกถึงการหดตัวของเศรษฐกิจ ผลลัพธ์ของ Composite PMI จะนำเสนอได้ทั้งแบบรายเดือนหรือรายไตรมาส ซึ่งจะช่วยให้ผู้วางแผนในบริษัท นักลงทุน นักวิเคราะห์ และผู้บริหารองค์กรสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้งานได้ทันที การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของ Composite PMI ทั้งในช่วงเวลาสั้นและเวลา่ยาวจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สามารถบ่งบอกถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจในอนาคตได้ เมื่อเราพูดถึงการวางแผนและการตัดสินใจในด้านเศรษฐกิจ การมีข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำนับเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง Composite PMI จึงให้ประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้วางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจหรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารเศรษฐกิจมหาภาค ทั้งนี้เนื่องจากผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อมีข้อมูลภายในที่สามารถสรุปภาพรวมได้อย่างชัดเจน การเปรียบเทียบ Composite PMI ระหว่างประเทศหรือภูมิภาคแตกต่างกันยังเป็นการให้มุมมองที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการค้าโลกและการเติบโตของเศรษฐกิจแต่ละประเทศ แต่ละภูมิภาคสามารถนำข้อมูล Composite PMI ไปใช้ในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ, เปรียบเทียบความสามารถในการแข่งขัน, และดูการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระยะยาว การให้ความสำคัญกับข้อมูล Composite PMI ยังเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนที่ต้องการทำการวิเคราะห์การลงทุนเชิงลึก ทั้งในแง่ของการวิเคราะห์เศรษฐกิจระดับมหภาคและการตรวจสอบสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง การเชื่อมโยงข้อมูลที่ได้กับข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และดัชนีการค้าสามารถช่วยให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลที่ครบถ้วนและทำให้ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเข้าใจในดัชนี Composite PMI ยังเป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในนโยบายรัฐบาลที่อาจจะมีผลต่อเศรษฐกิจ การประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตสามารถทำให้ผู้ที่มีความรับผิดชอบในระดับรัฐบาลหรือธนาคารกลางสร้างนโยบายที่เหมาะสมและทันเวลา โดยสรุป ดัชนี Composite PMI เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมของการเติบโตในระยะสั้นหรือยาว รวมทั้งยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจและการลงทุน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอข้อมูลที่มีคุณค่านี้ให้แก่ผู้ใช้งานทุกท่าน เพื่อให้ได้ตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและความมั่นใจในทุกสถานการณ์