ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇦🇺

ออสเตรเลีย อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

3.6 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-0.5 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-12.99 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน ออสเตรเลีย คือ 3.6 % อัตราเงินเฟ้อ ใน ออสเตรเลีย ลดลงถึง 3.6 % เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่เคยเป็น 4.1 % เมื่อ 1/12/2566 จาก 1/3/2494 ถึง 1/6/2567 GDP เฉลี่ยใน ออสเตรเลีย อยู่ที่ 4.88 % สถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่เมื่อ 1/12/2494 ที่ 23.9 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดจดบันทึกไว้เมื่อ 1/6/2505 ที่ -1.3 %

แหล่งที่มา: Australian Bureau of Statistics

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/25673.6 %
1/12/25664.1 %
1/9/25665.4 %
1/6/25666 %
1/3/25667 %
1/12/25657.8 %
1/9/25657.3 %
1/6/25656.1 %
1/3/25655.1 %
1/12/25643.5 %
1
2
3
4
5
...
28

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇦🇺
CPI Transport
131.2 points130.5 pointsควอร์เตอร์
🇦🇺
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
4.3 %4.1 %ควอร์เตอร์
🇦🇺
ความคาดหวังเงินเฟ้อ
4.3 %4.4 %รายเดือน
🇦🇺
ค่าเฉลี่ยถัวเฉลี่ยที่ถูกตัดทอน CPI QoQ
0.8 %1 %ควอร์เตอร์
🇦🇺
เงินเฟ้อค่าเช่า
7.3 %7.8 %ควอร์เตอร์
🇦🇺
เงินเฟ้อด้านอาหาร
3.8 %4.5 %ควอร์เตอร์
🇦🇺
ดัชนี MI ตัวชี้วัดเงินเฟ้อ เดือนต่อเดือน
0.3 %0.3 %รายเดือน
🇦🇺
ดัชนีราคาโซ่ BIP
109.3 points108.5 pointsควอร์เตอร์
🇦🇺
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
137.4 points136.1 pointsควอร์เตอร์
🇦🇺
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
150.3 points148.6 pointsควอร์เตอร์
🇦🇺
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
137.133 points136.045 pointsควอร์เตอร์
🇦🇺
ต้นทุนการผลิต
130.7 points129.4 pointsควอร์เตอร์
🇦🇺
ตัวคูณ GDP
110.5 points109.131 pointsควอร์เตอร์
🇦🇺
ตัวบ่งชี้ CPI รายเดือน
3.8 %4 %รายเดือน
🇦🇺
ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นต่อปี
4.1 %4.4 %ควอร์เตอร์
🇦🇺
น้ำหนักเฉลี่ย มีเดียน-CPI QoQ
1.1 %0.9 %ควอร์เตอร์
🇦🇺
ภาวะเงินเฟ้อในการบริการ
4.5 %4.3 %ควอร์เตอร์
🇦🇺
ราคานำเข้า
131.7 points134.1 pointsควอร์เตอร์
🇦🇺
ราคานำเข้า MoM
-1.8 %1.1 %ควอร์เตอร์
🇦🇺
ราคาวัตถุดิบ YoY
-4.1 %-6 %รายเดือน
🇦🇺
ราคาส่งออก
169.5 points173.1 pointsควอร์เตอร์
🇦🇺
ราคาส่งออกเดือนต่อเดือน
-2.1 %5.6 %ควอร์เตอร์
🇦🇺
อัตราเงินเฟ้อ MoM
1 %1 %ควอร์เตอร์
🇦🇺
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
1 %0.9 %ควอร์เตอร์
🇦🇺
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
3.9 %4 %ควอร์เตอร์

ในออสเตรเลีย หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคคือ ที่อยู่อาศัย (23 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด), อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (17 เปอร์เซ็นต์), การขนส่ง (11 เปอร์เซ็นต์), เครื่องเรือน อุปกรณ์และบริการภายในครัวเรือน (9 เปอร์เซ็นต์), แอลกอฮอล์และยาสูบ (9 เปอร์เซ็นต์), การพักผ่อนและวัฒนธรรม (9 เปอร์เซ็นต์), สุขภาพ (7 เปอร์เซ็นต์) และการประกันภัยและบริการทางการเงิน (6 เปอร์เซ็นต์). เครื่องแต่งกายและรองเท้า, การศึกษาและการสื่อสารคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือของน้ำหนักทั้งหมด.

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ