ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇩🇪

เยอรมัน ความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติ

ราคา

251.383 TWh
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.148 TWh
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0.06 %

มูลค่าปัจจุบันของความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติในเยอรมันคือ251.383TWh ความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติในเยอรมันเพิ่มขึ้นเป็น251.383TWhในวันที่1/11/2567 หลังจากที่เคยเป็น251.234TWhในวันที่1/10/2567 จากวันที่1/1/2554ถึง5/11/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ในเยอรมันคือ210.53TWh ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นในวันที่10/11/2566ด้วยมูลค่า255.02TWh ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่1/1/2554ด้วยมูลค่า74.99TWh

แหล่งที่มา: Gas Infrastructure Europe

ความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติ

  • แม็กซ์

ความจุสำรองแก๊สธรรมชาติ

ความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/11/2567251.383 TWh
1/10/2567251.234 TWh
1/9/2567251.145 TWh
1/8/2567248.669 TWh
1/7/2567247.495 TWh
1/6/2567247.297 TWh
1/5/2567247.109 TWh
1/4/2567246.133 TWh
1/3/2567254.796 TWh
1/2/2567254.832 TWh
1
2
3
4
5
...
17

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇩🇪
การฉีดก๊าซธรรมชาติเข้าสู่ที่เก็บ
563.25 GWh/d615.42 GWh/dfrequency_daily
🇩🇪
การถอนก๊าซธรรมชาติจากสต็อก
64.1 GWh/d46.1 GWh/dfrequency_daily
🇩🇪
สินค้าคงคลังก๊าซธรรมชาติ
247.129 TWh247.016 TWhfrequency_daily

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ความจุของการสำรองก๊าซธรรมชาติ

ก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานที่สำคัญซึ่งมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ทั้งในด้านการผลิตไฟฟ้าและการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยคุณสมบัติที่เป็นพลังงานสะอาดและมีประสิทธิภาพสูง ทำให้ก๊าซธรรมชาติมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ก๊าซธรรมชาติยังเป็นทรัพยากรที่มีการซื้อขายในตลาดหุ้น และการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas Stocks) เป็นหนึ่งในวิธีที่นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ ในบริบทของเศรษฐมิติหุ้นที่เกี่ยวข้องกับก๊าซธรรมชาติ ความจุของก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas Stocks Capacity) เป็นตัวแปรที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นปัจจัยที่สามารถบ่งบอกถึงศักยภาพการผลิตก๊าซธรรมชาติของบริษัทต่างๆ ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อรายได้และกำไรของบริษัทนั้นๆ รวมถึงราคาหุ้นด้วย การลงทุนในหุ้นก๊าซธรรมชาติต้องพิจารณาถึงปัจจัยหลายประการรวมถึงความจุของก๊าซธรรมชาติ นั่นคือปริมาณก๊าซธรรมชาติที่บริษัทสามารถผลิตและจัดเก็บได้ ความจุนี้มีผลต่อความสามารถของบริษัทในการตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งในบางครั้งความต้องการอาจจะมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว ปัจจัยที่สามารถส่งผลกระทบต่อความจุของก๊าซธรรมชาติได้แก่ คุณภาพและปริมาณของแหล่งก๊าซธรรมชาติ ความสามารถในการขนส่ง การจัดเก็บ และเทคโนโลยีที่บริษัทนั้นใช้ การศึกษาความจุของก๊าซธรรมชาติยังครอบคลุมถึงการพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจและการผลิตก๊าซธรรมชาติ เช่น การสำรวจแหล่งก๊าซธรรมชาติใหม่ๆ (Exploration), การฟื้นฟูและการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติเดิม (Development), และการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (Enhanced Recovery Techniques) ปัจจัยเหล่านี้อาจช่วยเพิ่มความจุของก๊าซธรรมชาติได้ อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อความจุก๊าซธรรมชาติคือการจัดเก็บก๊าซธรรมชาติ (Storage) การจัดเก็บเป็นส่วนสำคัญของการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากก๊าซธรรมชาติเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้งานต่อเนื่อง ดังนั้นการมีความจุก๊าซธรรมชาติในระดับสูง หมายถึงบริษัทมีความสามารถในการจัดเก็บก๊าซธรรมชาติในปริมาณที่มากพอรองรับความต้องการตลาดที่เพิ่มขึ้น การขนส่งก๊าซธรรมชาติก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความจุก๊าซธรรมชาติ การขนส่งก๊าซธรรมชาติสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งทางท่อก๊าซ (Pipeline), ทางเรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas - LNG), และการใช้รถบรรทุกก๊าซ (Compressed Natural Gas - CNG) การมีโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งที่ดีสามารถเพิ่มความจุก๊าซธรรมชาติของบริษัทได้อย่างมากและยังช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนทรัพยากรในช่วงวิกฤต เทคโนโลยีที่ใช้ในกระบวนการผลิตและขนส่งก๊าซธรรมชาติมีความสำคัญอย่างมาก เมื่อบริษัทสามารถใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถเพิ่มความจุก๊าซธรรมชาติได้และลดค่าใช้จ่ายในการผลิตและขนส่ง ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีในสาขาการเจาะสำรวจนอกชายฝั่ง (Offshore Drilling) และการฟื้นฟูแหล่งก๊าซธรรมชาติ การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับความจุก๊าซธรรมชาติควรครอบคลุมถึงการวิเคราะห์ทางการเงิน เช่น รายได้จากการขายก๊าซธรรมชาติ ต้นทุนการผลิต และการบริหารจัดการทรัพยากร ปัจจัยเหล่านี้สามารถประเมินความสามารถของบริษัทในการทำกำไร ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นก๊าซธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อความจุก๊าซธรรมชาติ เช่น การเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาครัฐ กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ รวมถึงสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งสามารถส่งผลให้ความจุของก๊าซธรรมชาติมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังควรพิจารณาถึงแนวโน้มและภาวะตลาดในอนาคต ปัจจัยต่างๆ เช่น การเพิ่มขึ้นของความต้องการพลังงาน การพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ๆ และกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม สามารถส่งผลกระทบต่อความจุของก๊าซธรรมชาติในระยะยาว การพยากรณ์แนวโน้มเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถทำการตัดสินใจที่มีข้อมูลประกอบ และเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนได้ สรุปแล้ว การลงทุนในหุ้นก๊าซธรรมชาติจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการรวมถึงความจุของก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นตัวแปรที่มีความสำคัญมาก และยังต้องวิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความจุนี้เช่น การจัดเก็บ การขนส่ง การใช้เทคโนโลยี และปัจจัยภายนอก การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เพียงพอจะช่วยให้นักลงทุนสามารถทำการตัดสินใจที่มีความมั่นใจและลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ ด้วยข้อมูลที่ครอบคลุมและการวิเคราะห์เชิงลึกที่ eulerpool เรามุ่งหวังที่จะเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ให้แก่นักลงทุนที่สนใจในตลาดหุ้นก๊าซธรรมชาติ ผ่านการนำเสนอข้อมูลทางเศรษฐมิติและการวิเคราะห์ที่เป็นประโยชน์ในการสนับสนุนการตัดสินใจลงทุน