คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ประกาศเมื่อวันจันทร์ระหว่างการเยือนรัฐเพนซิลเวเนีย ว่า US Steel ควรจะอยู่ในความเป็นเจ้าของและการบริหารของชาวอเมริกัน แถลงการณ์นี้สร้างอุปสรรคเพิ่มเติมต่อแผนการเข้าซื้อกิจการของบริษัทญี่ปุ่น Nippon Steel จุดยืนของแฮร์ริสสะท้อนถึงทัศนคติของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งก็ต่อต้านข้อตกลงนี้เช่นกัน เนื่องจากแฮร์ริสได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต คำกล่าวของเธอจึงมีความสำคัญมากขึ้น

ในพิตส์เบิร์ก ที่ซึ่งแฮร์ริสฉลองวันแรงงานและหาเสียงจากสหภาพแรงงานในสองรัฐอุตสาหกรรมสำคัญ เธอเน้นย้ำการสนับสนุนคนงานเหล็กอเมริกัน "รองประธานาธิบดีจะเน้นว่า US Steel ควรเป็นของคนอเมริกันและดำเนินงานโดยคนอเมริกัน" ตัวแทนของแคมเปญของเธอกล่าว

การเข้าซื้อกิจการ US Steel โดย Nippon Steel มูลค่า 15 พันล้านดอลลาร์ ถูกกดดันทางการเมืองอย่างมาก สหรัฐฯ มีการปกป้องทางเศรษฐกิจมากขึ้น นำไปสู่การต่อต้านทางการเมืองต่อการเข้ามาเทกโอเวอร์จากต่างชาติ อดีตประธานาธิบดีและผู้สมัครพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้สัญญาที่จะขัดขวางการเข้าซื้อโดย Nippon Steel ด้วย

สหรัฐฯ สตีลเน้นย้ำว่าพวกเขายึดมั่นในข้อตกลง

นิปปอนสตีลได้ว่าจ้างไมก์ ปอมเปโอ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เพื่อประชาสัมพันธ์ดีลนี้ และสัญญาว่าจะเพิ่มการลงทุนในโรงงานเหล็กสหรัฐฯ หากการควบรวมกิจการเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม คำแถลงของแฮร์ริสอาจทำให้ความพยายามเหล่านี้ยากขึ้น

แฮร์ริสได้รับการสนับสนุนจากสหภาพแรงงานที่สำคัญที่สุดของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้เลือกตั้งที่สำคัญภายในพรรคเดโมแครตและสามารถระดมผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐที่สำคัญได้ ทั้ง United Steel Workers และ United Auto Workers ได้สนับสนุนแฮร์ริสนับตั้งแต่ที่เธอเข้าร่วมการเลือกตั้งนี้

แม้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้นำสหภาพแรงงาน แต่ Harris ยังต้องเอาชนะใจฐานสมาชิกสหภาพแรงงาน ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้หันไปสังกัดพรรครีพับลิกันมากขึ้น ทีมสเตอร์ยูเนี่ยนเป็นข้อยกเว้น เนื่องจากยังไม่เคยให้การสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

จากการสำรวจพบว่า แฮร์ริสนำหน้าทรัมป์ทั่วประเทศด้วยคะแนนนำ 3.7 เปอร์เซ็นต์ โดยเหลือเวลาอีกเพียงสองเดือนกว่าๆ ถึงวันเลือกตั้ง