วลาด เทเนฟ, ซีอีโอของ Robinhood ย้ำในสัมภาษณ์กับ CNBC ว่าสกุลเงินดิจิทัลมีความสำคัญเกินกว่าการลงทุนเพื่อเก็งกำไร และเป็นการปฏิวัติทางเทคโนโลยีขั้นพื้นฐานในภาคการเงิน "คริปโตเป็นมากกว่าแค่ยานพาหนะการลงทุน มันเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่อาจเปลี่ยนแปลงภาคการเงินอย่างยั่งยืน" เทเนฟอธิบาย ด้วยบล็อกเชนสามารถทำให้กระบวนการต่างๆ เช่น การให้สินเชื่อที่มีหลักประกัน, การซื้อขาย, การสร้างตลาด และการชำระบัญชี มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และช่วยแก้ไขปัญหาหลายอย่างในระบบการเงินในปัจจุบัน
Tenev มองว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงบริการทางการเงินที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างพื้นฐาน
ความมุ่งมั่นของ Robinhood ในด้านคริปโตมีความเข้มแข็งขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในเดือนมิถุนายน บริษัทได้ประกาศการเข้าซื้อกิจการของ Bitstamp ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตระดับโลก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งในตลาดสกุลเงินดิจิทัล การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้ Robinhood สามารถขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์และเสนอบริการสกุลเงินดิจิทัลที่หลากหลายยิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้ "การเข้าซื้อกิจการของ Bitstamp เป็นการก้าวขึ้นเชิงกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานของเราและนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์คริปโต" Tenev กล่าว
เส้นทางนี้ไม่ราบรื่น: ในเดือนพฤษภาคม 2023 Robinhood ได้รับ "Wells Notice" จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ – บ่งบอกถึงข้อพิพาททางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น "เราได้ทำงานร่วมกับ SEC ด้วยความเชื่อที่ดีและเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของเราไม่ควรถูกจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์" Robinhood ระบุในคำแถลงอย่างเป็นทางการ ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบเหล่านี้ยังคงเป็นความท้าทาย แต่ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นระยะยาวของบริษัทต่ออนาคตของสกุลเงินดิจิทัล
Tenev มั่นใจว่าสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนที่เป็นพื้นฐานจะถูกบูรณาการอย่างลึกซึ้งเข้าสู่ระบบการเงินในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าและอาจทำให้โครงสร้างตลาดแบบดั้งเดิมกลับหัวกลับหาง สำหรับ Robinhood นี่หมายถึงโอกาสใหม่ๆ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและการสร้างตัวให้เป็นผู้นำในโลกคริปโต "วิสัยทัศน์ของเราคือการสร้างโลกการเงินที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสกุลเงินดิจิทัลมีบทบาทสำคัญ" Tenev กล่าวสรุป