เชลล์หยุดการก่อสร้างหนึ่งในโครงการเปลี่ยนแปลงพลังงานที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นโรงงานขนาดยักษ์ในเมืองรอตเตอร์ดามในการเปลี่ยนขยะเป็นเชื้อเพลิงเครื่องบินและไบโอดีเซลชั่วคราว

เมื่อวันอังคาร Shell ประกาศว่าจำเป็นต้อง "หยุดงานชั่วคราว" เพื่อ "เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินโครงการและรับประกันความสามารถในการแข่งขันในอนาคตท่ามกลางสภาวะตลาดปัจจุบัน" บริษัทปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาของความล่าช้า

แวเอล ซาวาน ซีอีโอของเชลล์ เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่เชลล์ต้องมีวินัยและมุ่งเน้นคุณค่ามากขึ้น บริษัทจะทำการตรวจสอบการเสื่อมราคาของมูลค่าสำหรับโครงการนี้และจะให้ข้อมูลอัปเดตในผลประกอบการไตรมาสในเดือนกรกฎาคม

ตลาดเชื้อเพลิงชีวภาพของยุโรปกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากส่วนเกิน เนื่องจากบริษัทต่างๆ พยายามผลิตเชื้อเพลิงที่จำเป็นในช่วงการเปลี่ยนแปลงพลังงานแม้ว่าความต้องการยังไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หุ้นของบริษัทเชื้อเพลิงชีวภาพจากฟินแลนด์ Neste ลดลงเกือบครึ่งในปีนี้

การหยุดงานก่อสร้างชั่วคราวในสถานที่ช่วยให้เราประเมินวิธีการที่ควรค่าสำหรับโครงการได้

เชลล์ได้มอบหมายให้บริษัทวิศวกรรมของออสเตรเลีย วอร์ลีย์ ทำการวางแผนโครงการและมอบหมายให้บริษัทเซี่ยงไฮ้ยานด้าของจีนสร้างโมดูลสำหรับโรงงานในมณฑลเจียงซู

เชื้อเพลิงชีวภาพถือว่ามีความยั่งยืนมากกว่าเชื้อเพลิงที่กลั่นจากน้ำมันดิบ เนื่องจากคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาเมื่อเผาไหม้จะถูกชดเชยด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ที่พืชดูดซับระหว่างการเจริญเติบโต

โรงงานในเมืองรอตเทอร์ดาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงกลั่นน้ำมันเชลล์ในเพอร์นิส ได้ถูกออกแบบให้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพประมาณ 820,000 ตันต่อปี แบ่งเป็นเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ยั่งยืนและไบโอดีเซล ผลิตจากน้ำมันที่ใช้แล้วและไขมันจากสัตว์ มีความเป็นไปได้ว่า เชลล์จะลงทุนในน้ำมันพืชที่ผ่านการรับรองความยั่งยืนเพิ่มเติมอีก

ในการประกาศ เชลล์กล่าวว่าโรงงานจะผลิตไบโอดีเซลได้เพียงพอที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 2.8 ล้านตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการนำรถยนต์หนึ่งล้านคันออกจากถนน