ตลาดรถยนต์ของไทยถดถอย: บททบทวนเดือนกันยายน 2024

ตลาดรถยนต์ของไทยยังคงเผชิญกับแนวโน้มที่ลดลง โดยในเดือนกันยายน 2024 การขายรถยนต์ลดลงอย่างมากถึง 37% เหลือเพียง 39,048 คัน จากข้อมูลล่าสุดของสหพันธ์อุตสาหกรรมไทย (FTI) พบว่าปีที่แล้วมีการขายรถยนต์ 62,086 คัน ซึ่งตลาดประสบกับการชะลอตัวมาเป็นเวลานานเกือบสองปี หลังจากมีการฟื้นตัวเล็กน้อยในปี 2022 เมื่อเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังจากผ่านจุดต่ำสุดของการระบาดของโควิด-19 เดือนที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางปี 2020 ที่การขายรถยนต์รายเดือนลดลงต่ำกว่า 40,000 คัน ซูรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกของ FTI ระบุว่าภาวะตลาดถูกส่งผลกระทบอย่างมากจากอัตราการปฏิเสธสินเชื่อรถยนต์สูง ซึ่งมีจำนวนประมาณ 60% ของการขอสินเชื่อ เนื่องจากธนาคารพยายามป้องกันการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเพิ่มขึ้น 2.3% ในไตรมาสที่สองเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว การเติบโตนี้ส่วนใหญ่พึ่งพาภาคการส่งออก ในขณะที่การบริโภคภาคเอกชนลดลงจาก 6.9% เป็น 4.0% แม้ว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะเติบโตดี ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงเนื่องจากระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงราว 90% ของ GDP ปัจจุบันไทยอยู่ในอันดับสามในตลาดรถยนต์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย ยอดขายรถยนต์ในเก้าเดือนแรกของปี 2024 ลดลง 25% เหลือ 438,654 คัน จาก 586,870 คันในช่วงเดียวกันของปีก่อน ความต้องการรถปิกอัพ ซึ่งมักใช้โดยผู้ประกอบการย่อย มีความอ่อนตัวเป็นพิเศษ ในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ (BEV) ยอดขายในเดือนกันยายนลดลง 7% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 6,606 คัน ขณะที่ยอดขายตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้น 12% เป็น 75,653 คัน คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติได้เรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนคลายสิ่งจูงใจในการผลิต BEV เพื่อให้ผู้ผลิต ส่วนใหญ่อยู่ที่บริษัทจีน สามารถลดเป้าหมายการผลิตได้เนื่องจากความต้องการที่ลดต่ำ ในปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์จีนเช่น BYD, GAC Aion, Hozon และ Great Wall Motors ได้เริ่มการผลิต BEV และรถยนต์ไฮบริดในโรงงานใหม่ในประเทศ โตโยต้าและอีซูซุวางแผนที่จะเปิดตัวรถปิกอัพที่ใช้แบตเตอรี่ในปีหน้า แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ ไทยยังคงเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในภูมิภาค แม้ว่าผลการผลิตรวมในเก้าเดือนแรกของปี 2024 จะลดลง 19% เหลือ 1,128,026 คัน และการผลิตเพื่อการส่งออกลดลง 4% เหลือ 774,175 คัน