ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇪🇨

เอกวาดอร์ อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

2.75 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+1.09 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+49.43 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน เอกวาดอร์ คือ 2.75 %. อัตราเงินเฟ้อ ใน เอกวาดอร์ เพิ่มขึ้นเป็น 2.75 % เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เคยเป็น 1.66 % เมื่อ 1/3/2567. จาก 1/1/2513 ถึง 1/5/2567, GDP เฉลี่ยใน เอกวาดอร์ คือ 19.47 %. ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/9/2543 ที่ 107.87 % ขณะที่ค่าต่ำสุดเกิดขึ้นเมื่อ 1/4/2513 ที่ -2.67 %.

แหล่งที่มา: INEC, Ecuador

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25672.75 %
1/3/25671.66 %
1/2/25671.43 %
1/1/25671.35 %
1/12/25661.35 %
1/11/25661.53 %
1/10/25661.93 %
1/9/25662.23 %
1/8/25662.56 %
1/7/25662.07 %
1
2
3
4
5
...
63

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇪🇨
CPI Transport
122.53 points123.16 pointsรายเดือน
🇪🇨
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
3.98 %5.26 %รายเดือน
🇪🇨
เงินเฟ้อด้านอาหาร
-0.11 %-0.86 %รายเดือน
🇪🇨
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
113.54 points112.49 pointsรายเดือน
🇪🇨
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
121.23 points120.68 pointsรายเดือน
🇪🇨
ต้นทุนการผลิต
118.66 points116.76 pointsรายเดือน
🇪🇨
ตัวคูณ GDP
106.12 points101.8 pointsควอร์เตอร์
🇪🇨
อัตราเงินเฟ้อ MoM
-0.95 %-0.12 %รายเดือน

ในเอกวาดอร์ องค์ประกอบหลักของดัชนีราคาผู้บริโภคเป็นดังนี้: อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (25 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมทั้งหมด); การขนส่ง (14 เปอร์เซ็นต์); ที่อยู่อาศัย น้ำ ไฟฟ้า แก๊ส และเชื้อเพลิงอื่นๆ (10 เปอร์เซ็นต์) และเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า (9 เปอร์เซ็นต์) ร้านอาหารและโรงแรมคิดเป็น 7 เปอร์เซ็นต์; การศึกษาคิดเป็น 7 เปอร์เซ็นต์; เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ในครัวเรือนคิดเป็น 6 เปอร์เซ็นต์ และการดูแลสุขภาพคิดเป็น 6 เปอร์เซ็นต์ องค์ประกอบอื่น ๆ รวมถึง: การพักผ่อนและวัฒนธรรม (5.9 เปอร์เซ็นต์); สินค้าและบริการอื่นๆ (5.2 เปอร์เซ็นต์); การสื่อสาร (4.4 เปอร์เซ็นต์) และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และยาเสพติด (1 เปอร์เซ็นต์) ดัชนีระดับประเทศมีฐานเป็น 100 ณ ปี 2004 ดัชนีราคาผู้บริโภคสะท้อนถึงราคาสินค้าและรูปแบบการใช้จ่ายที่ลงทะเบียนในเมืองที่เป็นตัวแทน 8 เมือง ได้แก่ กีโต้, กวายากิล, กูเอนกา, มาชาลา, เอสเมอรัลดัส, มันตา, แอมบาโต และโลจา ซึ่งคิดเป็น 67.44 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในเขตเมืองของประเทศ

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ