ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ฮอนดูรัส กระแสเงินทุน
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินทุนในฮอนดูรัสคือ107.1 ล้านUSD กระแสเงินทุนในฮอนดูรัสลดลงเหลือ107.1 ล้านUSDเมื่อวันที่1/3/2567 หลังจากที่เคยเป็น629.2 ล้านUSDเมื่อวันที่1/12/2566 ตั้งแต่1/3/2547ถึง1/6/2567 GDP เฉลี่ยในฮอนดูรัสอยู่ที่331.53 ล้านUSD โดยทำสถิติสูงสุดเมื่อ1/3/2557กับ1.19 ล้านล้านUSD ขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/9/2557กับ-479.6 ล้านUSD
กระแสเงินทุน ·
แม็กซ์
กระแสเงินทุน | |
---|---|
1/3/2547 | 189 ล้าน USD |
1/6/2547 | 167 ล้าน USD |
1/9/2547 | 279 ล้าน USD |
1/12/2547 | 358 ล้าน USD |
1/3/2548 | 157.6 ล้าน USD |
1/6/2548 | 44.7 ล้าน USD |
1/9/2548 | 233.2 ล้าน USD |
1/12/2548 | 209.9 ล้าน USD |
1/3/2549 | 289.4 ล้าน USD |
1/6/2549 | 181.5 ล้าน USD |
1/9/2549 | 100.8 ล้าน USD |
1/12/2549 | 441.3 ล้าน USD |
1/3/2550 | 339.6 ล้าน USD |
1/6/2550 | 243.3 ล้าน USD |
1/9/2550 | 392.1 ล้าน USD |
1/12/2550 | 308.7 ล้าน USD |
1/3/2551 | 268.6 ล้าน USD |
1/6/2551 | 451.8 ล้าน USD |
1/9/2551 | 347.4 ล้าน USD |
1/12/2551 | 460.4 ล้าน USD |
1/3/2552 | 79.3 ล้าน USD |
1/9/2552 | 171.2 ล้าน USD |
1/12/2552 | 80 ล้าน USD |
1/3/2553 | 524 ล้าน USD |
1/6/2553 | 85.8 ล้าน USD |
1/9/2553 | 156.4 ล้าน USD |
1/12/2553 | 781.7 ล้าน USD |
1/3/2554 | 282.2 ล้าน USD |
1/6/2554 | 149.9 ล้าน USD |
1/9/2554 | 197.8 ล้าน USD |
1/12/2554 | 679.4 ล้าน USD |
1/3/2555 | 434.3 ล้าน USD |
1/9/2555 | 199.8 ล้าน USD |
1/12/2555 | 925.2 ล้าน USD |
1/3/2556 | 724.7 ล้าน USD |
1/6/2556 | 653.1 ล้าน USD |
1/9/2556 | 307.5 ล้าน USD |
1/12/2556 | 942.4 ล้าน USD |
1/3/2557 | 1.19 ล้านล้าน USD |
1/6/2557 | 291.8 ล้าน USD |
1/12/2557 | 903.2 ล้าน USD |
1/3/2558 | 327.2 ล้าน USD |
1/6/2558 | 70.1 ล้าน USD |
1/9/2558 | 349.3 ล้าน USD |
1/12/2558 | 788 ล้าน USD |
1/3/2559 | 48.5 ล้าน USD |
1/6/2559 | 60.6 ล้าน USD |
1/9/2559 | 162.4 ล้าน USD |
1/12/2559 | 850.9 ล้าน USD |
1/3/2560 | 699 ล้าน USD |
1/6/2560 | 274.8 ล้าน USD |
1/9/2560 | 225.2 ล้าน USD |
1/12/2560 | 603.9 ล้าน USD |
1/3/2561 | 245.9 ล้าน USD |
1/6/2561 | 184.8 ล้าน USD |
1/12/2561 | 901.2 ล้าน USD |
1/3/2562 | 416.8 ล้าน USD |
1/6/2562 | 112.7 ล้าน USD |
1/12/2562 | 905.5 ล้าน USD |
1/3/2563 | 310.7 ล้าน USD |
1/6/2563 | 606 ล้าน USD |
1/9/2563 | 12 ล้าน USD |
1/12/2563 | 93.2 ล้าน USD |
1/3/2564 | 461.3 ล้าน USD |
1/9/2564 | 649.9 ล้าน USD |
1/12/2564 | 706.4 ล้าน USD |
1/3/2565 | 560.5 ล้าน USD |
1/6/2565 | 256.9 ล้าน USD |
1/12/2565 | 1.17 ล้านล้าน USD |
1/9/2566 | 162.9 ล้าน USD |
1/12/2566 | 629.2 ล้าน USD |
1/3/2567 | 107.1 ล้าน USD |
กระแสเงินทุน ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 107.1 ล้าน USD |
1/12/2566 | 629.2 ล้าน USD |
1/9/2566 | 162.9 ล้าน USD |
1/12/2565 | 1.165 ล้านล้าน USD |
1/6/2565 | 256.9 ล้าน USD |
1/3/2565 | 560.5 ล้าน USD |
1/12/2564 | 706.4 ล้าน USD |
1/9/2564 | 649.9 ล้าน USD |
1/3/2564 | 461.3 ล้าน USD |
1/12/2563 | 93.2 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ กระแสเงินทุน
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇭🇳 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 371 ล้าน USD | 270.7 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇭🇳 การโอนเงิน | 823.35 ล้าน USD | 817.35 ล้าน USD | รายเดือน |
🇭🇳 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇭🇳 ทองคำสำรอง | 0.69 Tonnes | 0.69 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇭🇳 นำเข้า | 1.246 ล้านล้าน USD | 1.472 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇭🇳 ยอดการค้า | -860.631 ล้าน USD | -1.08 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇭🇳 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -781.1 ล้าน USD | -441.8 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇭🇳 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -3.9 % of GDP | -6.6 % of GDP | ประจำปี |
🇭🇳 ส่งออก | 385.725 ล้าน USD | 391.441 ล้าน USD | รายเดือน |
🇭🇳 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 31.7 % of GDP | 34.7 % of GDP | ประจำปี |
🇭🇳 หนี้สินต่างประเทศ | 11.838 ล้านล้าน USD | 11.805 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร กระแสเงินทุน
กระแสเงินทุนเป็นหมวดหมู่สำคัญที่มีบทบาทอยู่ในเศรษฐกิจมหภาค นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนให้ความสำคัญเพราะกระแสเงินทุนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในแต่ละประเทศ การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนสามารถช่วยให้รัฐบาลและผู้นำทางเศรษฐกิจวางแผนและดำเนินนโยบายที่เหมาะสมเพื่อค้าและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ การศึกษากระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้หลายประเภท ซึ่งหลักๆ จะเป็นเงินทุนขาเข้าและเงินทุนขาออก เงินทุนขาเข้าหมายถึงเงินที่ไหลเข้ามาในประเทศจากต่างประเทศ อาจจะมาในรูปแบบการลงทุนโดยตรง การลงทุนในหลักทรัพย์ หรือการให้สินเชื่อ การไหลเข้าของเงินทุนขาเข้านี้สามารถช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้น เพิ่มทุน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เงินทุนขาออกหมายถึงเงินที่ไหลออกจากประเทศไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่มีเงินทุนขาออกมากเกินไป อาจทำให้ค่าเงินของประเทศอ่อนค่าลง และอาจทำให้เกิดปัญหาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นลดน้อยลง ปัจจัยที่มีผลต่อกระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้เป็นหลายหมวดหมู่ อาทิเช่น ปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ เสถียรภาพทางการเมือง นโยบายการเงินและการคลัง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพ ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศได้แก่ เศรษฐกิจโลก, การเคลื่อนไหวของตลาดทุน, อัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ กระแสเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ซึ่งมักจะเป็นทุนระยะสั้นนั้นสามารถสร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจได้มากกว่าทุนระยะยาวที่มักจะมีเสถียรภาพกว่า เมื่อกระแสเงินทุนหมุนเวียนเข้าสู่ประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มักจะเป็นที่ต้องการเพราะเป็นการลงทุนเพื่อการผลิตหรือการขยายธุรกิจที่มีความยั่งยืน ในทางกลับกัน การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ การเก็งกำไรในค่าเงิน สามารถสร้างความเสี่ยงและความผันผวนให้กับระบบการเงินของประเทศ ในยุคปัจจุบันที่ตลาดการเงินมีการเชื่อมต่อกันอย่างเข้มข้น กระแสเงินทุนข้ามประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร การเข้าใจและติดตามกระแสเงินทุนอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และรัฐบาล ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการบริหารจัดการกระแสเงินทุน ประเด็นนี้สำคัญมากโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก การทำความเข้าใจและประสานงานกันระหว่างประเทศสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกรูปแบบหนึ่งของการไหลของกระแสเงินทุนที่น่าสนใจคือระบบเงินทุนไหลเข้าและออกในระดับรัฐและองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การออกพันธบัตรโดยรัฐหรือองค์กรข้ามชาติ การศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มของการรับจ่ายเงินในระดับนี้ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ละเอียดมากขึ้น นอกจากการศึกษาผ่านตัวเลขและสถิติ การตีความและวิเคราะห์กระแสเงินทุนในเชิงข้อความบอกเล่าสามารถลดความซับซ้อนของข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์สามารถเข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ บ่อยครั้งที่กระแสเงินทุนมีความสัมพันธ์กับตลาดทุนและตลาดเงิน ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ย่อมมีผลกระทบต่อตลาดอีกด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศใดประเทศหนึ่ง ย่อมทำให้มีการเคลื่อนย้ายของเงินทุนทั้งขาเข้าและขาออกในประเทศนั้น ตัวอย่างเช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาอาจจะสร้างแรงดึงดูดให้กับเงินทุนไหลออกจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าไปยังสหรัฐ ในเว็บไซต์ eulerpool ของเรา เราให้ความสำคัญกับการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนอย่างเป็นระบบ และเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจกระแสเงินทุนได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันเสมือนจริง ทั้งนี้ ความสามารถในการตามติดและวิเคราะห์กระแสเงินทุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ หรือนักวางแผนทางนโยบาย การเข้าใจกระแสเงินทุนและการสามารถใช้ข้อมูลนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจในระยะยาว