ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇱🇺

ลักเซมเบิร์ก การลงทุนสุทธิในสินทรัพย์ถาวร

ราคา

2.614 ล้านล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลง +/-
-2.26 ล้าน EUR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-0.09 %

มูลค่าปัจจุบันของการลงทุนสุทธิในสินทรัพย์ถาวรในลักเซมเบิร์กอยู่ที่2.614 ล้านล้านEUR การลงทุนสุทธิในสินทรัพย์ถาวรในลักเซมเบิร์กลดลงเหลือ2.614 ล้านล้านEURในวันที่1/12/2566 หลังจากอยู่ที่2.616 ล้านล้านEURในวันที่1/9/2566 จาก1/3/2538ถึง1/3/2567 GDP เฉลี่ยในลักเซมเบิร์กอยู่ที่2.08 ล้านล้านEUR จุดสูงสุดตลอดกาลคือวันที่1/6/2564ที่4.05 ล้านล้านEUR ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่1/12/2539ที่991.42 ล้านEUR

แหล่งที่มา: STATEC, Luxembourg

การลงทุนสุทธิในสินทรัพย์ถาวร

  • แม็กซ์

การลงทุนทางการเงินรวม

การลงทุนสุทธิในสินทรัพย์ถาวร ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/12/25662.614 ล้านล้าน EUR
1/9/25662.616 ล้านล้าน EUR
1/6/25662.732 ล้านล้าน EUR
1/3/25662.799 ล้านล้าน EUR
1/12/25652.69 ล้านล้าน EUR
1/9/25652.722 ล้านล้าน EUR
1/6/25652.711 ล้านล้าน EUR
1/3/25652.718 ล้านล้าน EUR
1/12/25642.827 ล้านล้าน EUR
1/9/25642.494 ล้านล้าน EUR
1
2
3
4
5
...
12

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การลงทุนสุทธิในสินทรัพย์ถาวร

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇱🇺
BIP
85.76 ล้านล้าน USD81.64 ล้านล้าน USDประจำปี
🇱🇺
การเติบโตของ BIP ตลอดทั้งปี
-1.1 %1.4 %ประจำปี
🇱🇺
จีดีพีต่อหัว ที่ปรับเป็นความซื้อขายแลกเปลี่ยน
132,414.22 USD137,059.19 USDประจำปี
🇱🇺
จีดีพีที่ราคาคงที่
15.968 ล้านล้าน EUR15.881 ล้านล้าน EURควอร์เตอร์
🇱🇺
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว
105,996.66 USD109,714.92 USDประจำปี
🇱🇺
อัตราการเติบโตของ GDP
0.547 %-0.008 %ควอร์เตอร์
🇱🇺
อัตราการเติบโตของ GDP ประจำปี
-0.4 %-0.6 %ควอร์เตอร์

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร การลงทุนสุทธิในสินทรัพย์ถาวร

การลงทุนถาวรสุทธิ (Gross Fixed Capital Formation หรือ GFCF) เป็นตัวชี้วัดสำคัญในทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่ใช้วัดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร เช่น อาคารที่อยู่อาศัย การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โรงงาน และอุปกรณ์ต่างๆ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง การลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้เปรียบเสมือนการสร้างรากฐานให้กับเศรษฐกิจ ทำให้การลงทุนถาวรสุทธิมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การลงทุนถาวรสุทธิแสดงถึงความสามารถของสังคมในการผลิตสินค้าและบริการในอนาคตเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้ผู้วางแผนทางเศรษฐกิจ ตลอดจนผู้ประกอบการและนักลงทุนเข้าใจถึงแนวโน้มการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ความสำคัญของ GFCF อยู่ที่การเสริมสร้างศักยภาพในการผลิตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น การลงทุนในโรงงานใหม่ๆ ที่เพิ่มกำลังการผลิตหรือการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ในภาพใหญ่ GFCF เป็นองค์ประกอบหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) โดยจะถูกนับรวมในหมวดการลงทุนของ GDP การเปลี่ยนแปลงใน GFCF มักจะเป็นตัวบ่งชี้สำคัญในการประเมินภาวะเศรษฐกิจของประเทศ หาก GFCF เพิ่มสูงขึ้นหมายความว่ามีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น สื่อถึงการเสริมสร้างขีดความสามารถในการผลิตและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในทางกลับกันหาก GFCF ลดลงย่อมหมายถึงการชะลอตัวของการลงทุน ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจหรือการขาดทรัพยากรในการลงทุน การวิเคราะห์การลงทุนถาวรสุทธิประกอบด้วยการพิจารณาหลายปัจจัย เช่น การลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และภาคเกษตรกรรม การดูแนวโน้มการลงทุนในแต่ละภาคทำให้สามารถระบุถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของเศรษฐกิจแต่ละภาคได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมยังมีผลกระทบต่อ GFCF การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ และนวัตกรรมมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพสินค้า ทำให้ภาคธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดได้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่สำคัญอีกประการคือการวิเคราะห์แหล่งที่มาของการลงทุนถาวรสุทธิ การลงทุนจากภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน และการลงทุนจากต่างประเทศเป็นปัจจัยที่มีผลโดยตรงต่อ GFCF การลงทุนจากภาครัฐสามารถเป็นตัวเร่งเศรษฐกิจได้ในช่วงที่ภาคเอกชนมีการลงทุนต่ำ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน การขนส่ง และการสร้างโรงเรียนเป็นตัวอย่างของการลงทุนที่สร้างผลกระทบด้านบวกต่อเศรษฐกิจในระยะยาว การลงทุนจากต่างประเทศเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การดึงดูดการลงทุนจากบริษัทต่างชาติมักเกี่ยวข้องกับนโยบายภาษี สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ นโยบายแรงงาน และกฎระเบียบในการดำเนินธุรกิจ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนจึงเป็นเรื่องหลักที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ การเปรียบเทียบ GFCF ในต่างประเทศกับในประเทศทำให้สามารถวิเคราะห์ว่าประเทศอยู่ในระดับไหนเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้การกำหนดนโยบายและการวางแผนทางเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น การวิเคราะห์เชิงสถิติของ GFCF ยังช่วยในการคาดการณ์และการวางแผนในระยะยาว การสำรวจลักษณะของ GFCF ในอดีตทำให้สามารถระบุแนวโน้มและวัฏจักรของเศรษฐกิจและการลงทุนซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจในระดับมหภาค ในสรุป การลงทุนถาวรสุทธิ (GFCF) มีความสำคัญมากในการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ การวิเคราะห์และการติดตาม GFCF อย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจและการวางแผนการลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชน หากคุณต้องการทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการลงทุนถาวรสุทธิและตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอื่นๆ คุณสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา - eulerpool ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อถือได้สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอันล้ำค่า