ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร สิงคโปร์ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
ค่าสินค้าคงคลังในปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ใน สิงคโปร์ อยู่ที่ 3.138 ล้านล้าน SGD การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังใน สิงคโปร์ เพิ่มขึ้นเป็น 3.138 ล้านล้าน SGD เมื่อวันที่ 1/12/2565 หลังจากที่มันอยู่ที่ 181.2 ล้าน SGD เมื่อวันที่ 1/9/2565 ตั้งแต่ 1/3/2518 ถึง 1/6/2567 GDP เฉลี่ยใน สิงคโปร์ อยู่ที่ 271.3 ล้าน SGD ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อวันที่ 1/6/2553 ด้วย 5.89 ล้านล้าน SGD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/3/2550 ด้วย -5.38 ล้านล้าน SGD
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/3/2518 | 221.3 ล้าน SGD |
1/6/2518 | 90.9 ล้าน SGD |
1/9/2518 | 237.1 ล้าน SGD |
1/3/2519 | 112.3 ล้าน SGD |
1/6/2519 | 5.6 ล้าน SGD |
1/9/2519 | 290.9 ล้าน SGD |
1/12/2519 | 188.8 ล้าน SGD |
1/3/2520 | 33.6 ล้าน SGD |
1/9/2520 | 254.9 ล้าน SGD |
1/12/2520 | 159.2 ล้าน SGD |
1/6/2521 | 240.3 ล้าน SGD |
1/9/2521 | 474.3 ล้าน SGD |
1/12/2521 | 554.3 ล้าน SGD |
1/3/2522 | 654.9 ล้าน SGD |
1/6/2522 | 677.9 ล้าน SGD |
1/9/2522 | 436.1 ล้าน SGD |
1/12/2522 | 148.4 ล้าน SGD |
1/3/2523 | 385.3 ล้าน SGD |
1/6/2523 | 348.4 ล้าน SGD |
1/9/2523 | 749.7 ล้าน SGD |
1/12/2523 | 337.2 ล้าน SGD |
1/3/2524 | 535.9 ล้าน SGD |
1/6/2524 | 505.1 ล้าน SGD |
1/9/2524 | 202.5 ล้าน SGD |
1/3/2525 | 369.5 ล้าน SGD |
1/9/2525 | 66.6 ล้าน SGD |
1/12/2526 | 294.3 ล้าน SGD |
1/6/2527 | 181.7 ล้าน SGD |
1/9/2527 | 21.9 ล้าน SGD |
1/12/2527 | 329.1 ล้าน SGD |
1/6/2528 | 153.3 ล้าน SGD |
1/9/2528 | 287.6 ล้าน SGD |
1/3/2529 | 155.5 ล้าน SGD |
1/6/2529 | 57.4 ล้าน SGD |
1/12/2529 | 448.4 ล้าน SGD |
1/3/2530 | 481.2 ล้าน SGD |
1/6/2530 | 700.1 ล้าน SGD |
1/9/2530 | 563.9 ล้าน SGD |
1/12/2530 | 524 ล้าน SGD |
1/3/2531 | 4 ล้าน SGD |
1/6/2531 | 846.7 ล้าน SGD |
1/9/2531 | 650 ล้าน SGD |
1/6/2532 | 1.27 ล้านล้าน SGD |
1/9/2532 | 482.6 ล้าน SGD |
1/3/2533 | 672.7 ล้าน SGD |
1/6/2533 | 1.53 ล้านล้าน SGD |
1/12/2533 | 369.1 ล้าน SGD |
1/3/2534 | 472.7 ล้าน SGD |
1/6/2534 | 333.6 ล้าน SGD |
1/9/2534 | 165.6 ล้าน SGD |
1/6/2535 | 648.4 ล้าน SGD |
1/12/2535 | 664.3 ล้าน SGD |
1/6/2536 | 1.33 ล้านล้าน SGD |
1/9/2536 | 153.2 ล้าน SGD |
1/12/2536 | 595.9 ล้าน SGD |
1/3/2537 | 1.12 ล้านล้าน SGD |
1/6/2537 | 203.5 ล้าน SGD |
1/6/2538 | 1.19 ล้านล้าน SGD |
1/9/2538 | 462.4 ล้าน SGD |
1/12/2538 | 202 ล้าน SGD |
1/6/2540 | 482.2 ล้าน SGD |
1/9/2540 | 47 ล้าน SGD |
1/6/2543 | 1.91 ล้านล้าน SGD |
1/9/2543 | 786.4 ล้าน SGD |
1/12/2543 | 2.21 ล้านล้าน SGD |
1/6/2544 | 223.9 ล้าน SGD |
1/6/2545 | 1.5 ล้านล้าน SGD |
1/6/2547 | 169 ล้าน SGD |
1/12/2547 | 467 ล้าน SGD |
1/6/2548 | 1.1 ล้านล้าน SGD |
1/6/2549 | 1.86 ล้านล้าน SGD |
1/9/2549 | 1.3 ล้านล้าน SGD |
1/6/2550 | 935.2 ล้าน SGD |
1/12/2550 | 2.25 ล้านล้าน SGD |
1/6/2551 | 2.86 ล้านล้าน SGD |
1/9/2551 | 1.4 ล้านล้าน SGD |
1/12/2551 | 4.37 ล้านล้าน SGD |
1/9/2552 | 1.02 ล้านล้าน SGD |
1/3/2553 | 1.99 ล้านล้าน SGD |
1/6/2553 | 5.89 ล้านล้าน SGD |
1/6/2554 | 4.14 ล้านล้าน SGD |
1/12/2554 | 1.64 ล้านล้าน SGD |
1/6/2555 | 5.69 ล้านล้าน SGD |
1/9/2555 | 925.6 ล้าน SGD |
1/12/2555 | 2.63 ล้านล้าน SGD |
1/3/2556 | 1.89 ล้านล้าน SGD |
1/6/2556 | 2.87 ล้านล้าน SGD |
1/9/2556 | 1.66 ล้านล้าน SGD |
1/12/2556 | 1.58 ล้านล้าน SGD |
1/3/2557 | 2.34 ล้านล้าน SGD |
1/6/2557 | 3.48 ล้านล้าน SGD |
1/6/2558 | 1.15 ล้านล้าน SGD |
1/3/2559 | 866.1 ล้าน SGD |
1/12/2559 | 3.12 ล้านล้าน SGD |
1/3/2560 | 1.24 ล้านล้าน SGD |
1/6/2560 | 1.77 ล้านล้าน SGD |
1/9/2560 | 2.04 ล้านล้าน SGD |
1/12/2560 | 3.49 ล้านล้าน SGD |
1/3/2561 | 1.42 ล้านล้าน SGD |
1/6/2561 | 2.02 ล้านล้าน SGD |
1/9/2561 | 3.19 ล้านล้าน SGD |
1/12/2561 | 3.33 ล้านล้าน SGD |
1/3/2562 | 1.77 ล้านล้าน SGD |
1/6/2562 | 1.98 ล้านล้าน SGD |
1/9/2562 | 1.82 ล้านล้าน SGD |
1/12/2562 | 2.19 ล้านล้าน SGD |
1/3/2563 | 2.05 ล้านล้าน SGD |
1/6/2563 | 2.11 ล้านล้าน SGD |
1/9/2563 | 1.94 ล้านล้าน SGD |
1/12/2563 | 2.06 ล้านล้าน SGD |
1/3/2564 | 1.71 ล้านล้าน SGD |
1/6/2564 | 2.05 ล้านล้าน SGD |
1/9/2564 | 2.26 ล้านล้าน SGD |
1/12/2564 | 2.21 ล้านล้าน SGD |
1/3/2565 | 2.6 ล้านล้าน SGD |
1/6/2565 | 2.81 ล้านล้าน SGD |
1/9/2565 | 181.2 ล้าน SGD |
1/12/2565 | 3.14 ล้านล้าน SGD |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2565 | 3.138 ล้านล้าน SGD |
1/9/2565 | 181.2 ล้าน SGD |
1/6/2565 | 2.806 ล้านล้าน SGD |
1/3/2565 | 2.597 ล้านล้าน SGD |
1/12/2564 | 2.208 ล้านล้าน SGD |
1/9/2564 | 2.255 ล้านล้าน SGD |
1/6/2564 | 2.053 ล้านล้าน SGD |
1/3/2564 | 1.712 ล้านล้าน SGD |
1/12/2563 | 2.06 ล้านล้าน SGD |
1/9/2563 | 1.943 ล้านล้าน SGD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇸🇬 Composite PMI | 55.2 points | 54.2 points | รายเดือน |
🇸🇬 การจดทะเบียนรถยนต์ | 6,132 Units | 5,803 Units | รายเดือน |
🇸🇬 การผลิตอุตสาหกรรม | 21 % | 2 % | รายเดือน |
🇸🇬 การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน | 6.7 % | 10.2 % | รายเดือน |
🇸🇬 การล้มละลาย | 116 Companies | 79 Companies | รายเดือน |
🇸🇬 ตัวบ่งชี้ล่วงหน้า | 107.7 points | 106.4 points | ควอร์เตอร์ |
🇸🇬 บริการสัญญาณณ์ | 13 points | 7 points | ควอร์เตอร์ |
🇸🇬 ผลิตภัณฑ์ PMI | 50.4 points | 50.6 points | รายเดือน |
🇸🇬 สภาวะธุรกิจ | 23 points | 22 points | ควอร์เตอร์ |
ในสิงคโปร์ การเปลี่ยนแปลงในสต็อกสินค้าเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มสำคัญสำหรับการดำเนินงานโดยรวมของเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool