สหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) การเปลี่ยนแปลงรายเดือน
ราคา
ค่าปัจจุบันของดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) การเปลี่ยนแปลงรายเดือนในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่0.3% ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) การเปลี่ยนแปลงรายเดือนในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเป็น0.3%เมื่อวันที่1/6/2568 หลังจากที่มันอยู่ที่0.2%เมื่อวันที่1/5/2568 จากวันที่1/2/2502ถึง1/6/2568GDPเฉลี่ยในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่0.27% ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อวันที่1/2/2517ที่1.2% ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่1/11/2551ที่-1.2%
ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) การเปลี่ยนแปลงรายเดือน
แม็กซ์
ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) การเปลี่ยนแปลงรายเดือน ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2568 | 0.3 % |
1/5/2568 | 0.2 % |
1/4/2568 | 0.1 % |
1/2/2568 | 0.4 % |
1/1/2568 | 0.4 % |
1/12/2567 | 0.3 % |
1/11/2567 | 0.1 % |
1/10/2567 | 0.3 % |
1/9/2567 | 0.2 % |
1/8/2567 | 0.1 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) การเปลี่ยนแปลงรายเดือน
ในสหรัฐอเมริกา ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Personal Consumption Expenditure Price Index) เป็นมาตรวัดราคาที่ชำระในการซื้อสินค้าภายในประเทศและการใช้บริการ ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index) สมมติว่าตะกร้าสินค้าคงที่และใช้การถ่วงน้ำหนักการใช้จ่ายที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาหลายปี ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลใช้ดัชนีลูกโซ่และอิงกับข้อมูลการใช้จ่ายจากช่วงเวลาปัจจุบันและช่วงเวลาก่อนหน้า (เรียกว่าดัชนีราคาฟิชเชอร์)
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) การเปลี่ยนแปลงรายเดือน
ดัชนีราคาการใช้จ่ายของผู้บริโภค (PCE Price Index) ถือเป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดในการวัดภาวะเศรษฐกิจและทิศทางของอัตราเงินเฟ้อในประเทศ ดัชนีนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคใช้จ่าย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าและบริการที่ใช้ในครัวเรือน โดยการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของดัชนีนี้อย่างละเอียดสามารถช่วยให้นักเศรษฐศาสตร์ นักลงทุุน และเจ้าหน้าที่รัฐประเมินทิศทางการเงินในอนาคตได้อย่างแม่นยำ การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาการใช้จ่ายของผู้บริโภครายเดือน (PCE Price Index Monthly Change) มีความสำคัญอย่างยิ่งในเชิงการวิเคราะห์เศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจภายในเดือนนั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ตัวดัชนีนี้ จัดขึ้นโดยสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา (Bureau of Economic Analysis: BEA) ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่าดัชนีนี้มีความน่าเชื่อถือและมีความแม่นยำสูง การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาการใช้จ่ายของผู้บริโภค (PCE Price Index) รายเดือนนั้นมีการวัดค่าในรูปแบบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งบ่งบอกถึงการขึ้นหรือลงของราคาสินค้าและบริการในแต่ละเดือนเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หากดัชนีมีค่าบวก แสดงว่าเกิดการขึ้นราคาของสินค้าและบริการ แต่หากมีค่าลบ แสดงว่ามีการลดราคาลง อัตราการเปลี่ยนแปลงนี้สามารถสะท้อนให้เห็นถึงภาวะเงินเฟ้อหรือดอกเบี้ยติดลบ หากมีการเพิ่มขึ้นของดัชนีอย่างต่อเนื่อง อาจหมายถึงการเติบโตของเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารกลางและผู้วางนโยบายการเงินต้องพิจารณาอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะตัดสินใจในเรื่องอัตราดอกเบี้ย ค่ายของเงินทุน หรือมาตรการที่จะแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ ในทางกลับกัน หากดัชนีราคาการใช้จ่ายของผู้บริโภคมีการลดลงในระยะยาว อาจเป็นเครื่องชี้วัดถึงภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการผลิตในประเทศ ดังนั้น การติดตามและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของดัชนีนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับนักลงทุน การวิเคราะห์ดัชนีราคาการใช้จ่ายของผู้บริโภคสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจด้านการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่ดัชนีมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด สามารถส่งสัญญาณถึงทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ และค่าเงิน นักลงทุุนที่ติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดย่อมมีข้อได้เปรียบในการวางแผนกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น หากดัชนีราคาการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนอาจพิจารณาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสถียรของรายได้ในระยะยาว เช่น ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ที่สามารถคาดการณ์รายได้ได้ ซึ่งสามารถเป็นแนวทางในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ อีกหนึ่งประเด็นที่ควรคำนึงถึงคือการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาการใช้จ่ายของผู้บริโภคสามารถส่งผลต่อเศรษฐกิจภาคต่าง ๆ เช่น ภาคการผลิต ภาคบริการ หรือภาคการส่งออก การที่ราคาสินค้าและบริการในประเทศมีการเปลี่ยนแปลง อาจส่งผลให้ต้นทุนการผลิตและราคาจำหน่ายของสินค้าที่ส่งออกมีการปรับตัว ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการแข่งขันทางการค้าในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์และประเมินผลของดัชนีราคาการใช้จ่ายของผู้บริโภคควรพิจารณาองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย เพื่อให้ได้ภาพรวมที่ชัดเจนและถูกต้องที่สุด เช่น การวิเคราะห์อัตราการว่างงาน การผลิต การลงทุน และปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อทิศทางของราคาสินค้าและบริการ การที่เรามีข้อมูลที่ครอบคลุมและละเอียดละออ จะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลและมีความมั่นใจยิ่งขึ้น ในฐานะเว็บไซต์แสดงข้อมูลเศรษฐกิจและการเงินอย่างมืออาชีพ eulerpool มุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายของผู้บริโภครายเดือนที่เป็นปัจจุบันและถูกต้องที่สุด เพื่อให้นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ และผู้สนใจทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์และนำไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจได้ไม่ว่าจะเป็นในเชิงการลงทุนหรือการวางแผนทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลเหล่านี้นอกจากจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวางนโยบายและกลยุทธ์ทางการเงินในระดับมหภาค หากคุณต้องการข้อมูลที่แม่นยำและทันท่วงทีเกี่ยวกับดัชนีราคาการใช้จ่ายของผู้บริโภคหรือดัชนีอื่น ๆ ที่สำคัญในโลกเศรษฐกิจ ให้เข้ามาติดตามได้ที่เว็บไซต์ eulerpool ซึ่งเราพร้อมจะนำเสนอข้อมูลที่ครบถ้วนและมีคุณภาพสำหรับคุณ ดังนั้น การติดตามและวิเคราะห์ดัชนีราคาการใช้จ่ายของผู้บริโภครายเดือน ไม่เพียงแต่ช่วยในการประเมินภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันได้อย่างแม่นยำ แต่ยังช่วยให้เราสามารถคาดการณ์ทิศทางของเศรษฐกิจในอนาคตได้ ถือเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจและสำคัญในการวางแผนและการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในแง่บุคคลหรือในแง่ขององค์กรอีกด้วย