Terminal Access

ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

Bloomberg Fair Value
20M Securities
50Y History
10Y Estimates
8.000+ News Daily
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇮🇩

อินโดนีเซีย ตัวคูณจีดีพี (GDP)

ราคา

172.14 คะแนน
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.2 คะแนน
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0.12 %

ค่าปัจจุบันของ ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน อินโดนีเซีย คือ 172.14 คะแนน ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 172.14 คะแนน เมื่อ 1/12/2567 หลังจากที่เป็น 171.94 คะแนน เมื่อ 1/9/2567 จาก 1/3/2543 ถึง 1/12/2567 ค่าเฉลี่ยของ GDP ใน อินโดนีเซีย คือ 147.38 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลคือวันที่ 1/12/2552 ที่ 264.61 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกไว้เมื่อ 1/3/2543 ที่ 95.07 คะแนน

แหล่งที่มา: Statistics Indonesia

ตัวคูณจีดีพี (GDP)

  • แม็กซ์

ตัวคูณ GDP

ตัวคูณจีดีพี (GDP) ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/12/2567172.14 คะแนน
1/9/2567171.94 คะแนน
1/6/2567171.36 คะแนน
1/3/2567169.88 คะแนน
1/12/2566168.92 คะแนน
1/9/2566169.44 คะแนน
1/6/2566169.93 คะแนน
1/3/2566171.27 คะแนน
1/12/2565171.15 คะแนน
1/9/2565171.03 คะแนน
1
2
3
4
5
...
10

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ตัวคูณจีดีพี (GDP)

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇮🇩
CPI Transport
109.98 points110.07 pointsรายเดือน
🇮🇩
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
1.58 %1.3 %รายเดือน
🇮🇩
เงินเฟ้อด้านอาหาร
2.07 %2.25 %รายเดือน
🇮🇩
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
107.22 points105.48 pointsรายเดือน
🇮🇩
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
97.44 points89.85 pointsรายเดือน
🇮🇩
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
106.18 points105.93 pointsรายเดือน
🇮🇩
ต้นทุนการผลิต
105.12 points104.34 pointsรายเดือน
🇮🇩
ราคานำเข้า
173.98 points173.47 pointsรายเดือน
🇮🇩
ราคาส่งออก
196.94 points194.38 pointsรายเดือน
🇮🇩
อัตราเงินเฟ้อ
1.03 %-0.09 %รายเดือน
🇮🇩
อัตราเงินเฟ้อ MoM
1.65 %-0.48 %รายเดือน
🇮🇩
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
2.48 %2.48 %รายเดือน
🇮🇩
อัตราเงินเฟ้อหลัก MoM
0.24 %0.25 %รายเดือน

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ตัวคูณจีดีพี (GDP)

GDP Deflator (ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดที่ถูกใช้ในวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้วัดเชิงตัวเลขที่ช่วยให้เราสามารถประเมินแนวโน้มของราคาและราคาเงินเฟ้อได้ โดยการแยกปัจจัยที่เป็นปริมาณการผลิตออกจากปัจจัยที่เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ และวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของทุกสินค้าภายในประเทศเรื่องนี้มีความหมายอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากสามารถช่วยให้ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงนักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในภาคการศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณหนึ่งของเงินเฟ้อ เนื่องจากหากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น GDP Deflator นั้นไม่เหมือนกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เนื่องจากมันไม่จำกัดแค่รายการของสินค้าหรือบริการที่ถูกกำหนดในตะกร้าสินค้า แต่จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าทุกประเภทที่ถูกผลิตภายในประเทศดังนั้น มันจึงให้ภาพที่ครอบคลุมมากกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาในภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในภาพรวม การคำนวน GDP Deflator ทำนั้นเรียบง่ายในทางทฤษฎี โดยเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของการคำนวณนี้แสดงผ่านสมการ GDP Deflator = (nGDP / rGDP) * 100 ซึ่ง nGDP (Nominal GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเรียลมูลค่าปัจจุบันที่ยังไม่ได้ ปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อ ส่วน rGDP (Real GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ถูกปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อสมการนี้ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ความสำคัญของ GDP Deflator นั้นไม่สามารถประมาทได้ แน่นอนเราสามารถนำดัชนีนี้มาใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวและระยะสั้น ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยทั่วไปดัชนีนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบระดับราคาของแต่ละช่วงเวลาสร้างความชัดเจนในการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามีแนวโน้มและสถานการณ์ที่เป็นอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน รวมไปถึงนักลงทุน จะใช้ GDP Deflator เพื่อวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดได้ดียิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาวอาจจะมองหาสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้เนื่องจากมันสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงขึ้นหรือมีความเสถียรและชัดเจนขึ้น แต่ในทางกลับกันหาก GDP Deflator ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบทางลบในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ นอกจากนี้การวิเคราะห์ GDP Deflator ยังช่วยให้สามารถประเมินความสามารถในการบริโภคของประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้สามารถสื่อถึงว่าประชาชนอาจจะมีความสามารถในการบริโภคน้อยลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของความต้องการสินค้าบางประเภท สิ่งนี้ยังมีผลกระทบต่อการวางแผนการผลิตและการบริหารจัดการของธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ตามไปด้วย ในทำนองเดียวกัน GDP Deflator ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ จะต้องพิจารณาถึงดัชนีนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายในแต่ละระดับมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจดัชนี GDP Deflator และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจและความระมัดระวังในการประมวลผล เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นระบบที่มีความซับซ้อนการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและครบถ้วนมีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนของสังคม เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ