ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇵🇭

ฟิลิปปินส์ ดุลการค้า

ราคา

63.327 ล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
-569.511 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-163.61 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ฟิลิปปินส์ คือ 63.327 ล้าน USD ดุลการค้าใน ฟิลิปปินส์ ลดลงไปที่ 63.327 ล้าน USD ในวันที่ 1/9/2557 หลังจากที่เป็น 632.838 ล้าน USD ในวันที่ 1/6/2557 ตั้งแต่ 1/1/2500 ถึง 1/4/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน ฟิลิปปินส์ คือ -628.37 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/9/2542 ด้วยค่า 1.14 ล้านล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/8/2565 ด้วยค่า -5.99 ล้านล้าน USD

แหล่งที่มา: Philippine Statistics Authority

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/9/255763.327 ล้าน USD
1/6/2557632.838 ล้าน USD
1/5/2557862.714 ล้าน USD
1/10/2556182.64 ล้าน USD
1/9/2553743.629 ล้าน USD
1/8/2553313.284 ล้าน USD
1/6/2553331.78 ล้าน USD
1/11/255263.315 ล้าน USD
1/11/255128.294 ล้าน USD
1/2/255031.208 ล้าน USD
1
2
3
4
5
...
8

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇵🇭
กระแสเงินทุน
5.646 ล้าน USD5.324 ล้าน USDรายเดือน
🇵🇭
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
686 ล้าน USD1.366 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇵🇭
การส่งออกเทียบปีต่อปี
-7.6 %0.3 %รายเดือน
🇵🇭
การโอนเงิน
2.885 ล้านล้าน USD3.085 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇵🇭
ดัชนีการก่อการร้าย
5.383 Points6.328 Pointsประจำปี
🇵🇭
ทองคำสำรอง
164.77 Tonnes164.77 Tonnesควอร์เตอร์
🇵🇭
นำเข้า
10.977 ล้านล้าน USD9.573 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇵🇭
นำเข้า YoY
2.7 %7.3 %รายเดือน
🇵🇭
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
-368.376 ล้าน USD-5.598 ล้าน USDรายเดือน
🇵🇭
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
447,435 459,453 รายเดือน
🇵🇭
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-1.3 % of GDP-4.4 % of GDPประจำปี
🇵🇭
ส่งออก
6.258 ล้านล้าน USD6.752 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇵🇭
หนี้สินต่างประเทศ
125.394 ล้านล้าน USD111.268 ล้านล้าน USDประจำปี

ฟิลิปปินส์มีการขาดดุลการค้าเป็นประจำทุกปี เนื่องจากการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางในปริมาณสูง ในปี 2013 ฟิลิปปินส์มีการขาดดุลการค้าที่มากที่สุดกับไต้หวัน ซาอุดีอาระเบีย ไทย และเกาหลีใต้ ในขณะที่มีดุลการค้าเกินดุลสูงสุดกับญี่ปุ่น ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว