ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇵🇹

โปรตุเกส ดุลการค้า

ราคา

3.55 ล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลง +/-
+3.46 ล้าน EUR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+190.11 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน โปรตุเกส คือ 3.55 ล้าน EUR ดุลการค้าใน โปรตุเกส เพิ่มขึ้นเป็น 3.55 ล้าน EUR เมื่อ 1/5/2498 หลังจากที่เป็น 90,000 EUR เมื่อ 1/11/2497 จาก 1/1/2493 ถึง 1/4/2567 GDP เฉลี่ยใน โปรตุเกส คือ -631.43 ล้าน EUR มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/5/2498 โดยมีมูลค่า 3.55 ล้าน EUR ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/8/2565 โดยมีมูลค่า -3.42 ล้านล้าน EUR

แหล่งที่มา: Statistics Portugal

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/5/24983.55 ล้าน EUR
1/11/249790,000 EUR
1/2/2497420,000 EUR
1/12/2496100,000 EUR
1/10/2496480,000 EUR
1/11/2493220,000 EUR
1/10/2493270,000 EUR
1

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇵🇹
กระแสเงินทุน
323.37 ล้าน EUR2.009 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇵🇹
การขายอาวุธ
10 ล้าน SIPRI TIV2 ล้าน SIPRI TIVประจำปี
🇵🇹
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
1.481 ล้านล้าน EUR1.172 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇵🇹
การโอนเงิน
329.09 ล้าน EUR320.77 ล้าน EURรายเดือน
🇵🇹
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0 Pointsประจำปี
🇵🇹
ทองคำสำรอง
382.66 Tonnes382.63 Tonnesควอร์เตอร์
🇵🇹
นำเข้า
8.517 ล้านล้าน EUR9.071 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇵🇹
นำเข้าก๊าซธรรมชาติ
16,421.347 Terajoule13,529.603 Terajouleรายเดือน
🇵🇹
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
877.55 ล้าน EUR480.44 ล้าน EURรายเดือน
🇵🇹
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
1.673 ล้าน Persons1.403 ล้าน Personsรายเดือน
🇵🇹
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-1.1 % of GDP-0.8 % of GDPประจำปี
🇵🇹
รายได้จากการท่องเที่ยว
2.058 ล้านล้าน EUR1.937 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇵🇹
ส่งออก
6.877 ล้านล้าน EUR6.766 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇵🇹
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
151 % of GDP150 % of GDPควอร์เตอร์
🇵🇹
หนี้สินต่างประเทศ
399.395 ล้านล้าน EUR398.714 ล้านล้าน EURควอร์เตอร์

โปรตุเกสมีการขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักที่โปรตุเกสส่งออกและนำเข้า ได้แก่ เครื่องจักรและเครื่องใช้กลไก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการขาดดุลการค้ามากที่สุด ในทางกลับกัน กลุ่มที่มีการเกินดุลการค้ามากที่สุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แร่ เยื่อกระดาษและกระดาษ เสื้อผ้าและรองเท้า ในด้านการค้าสินค้า หมวดหมู่หลักที่ซื้อขายมากที่สุดคือวัสดุอุปกรณ์อุตสาหกรรม สเปน ฝรั่งเศส และเยอรมนี เป็นลูกค้าภายนอกและผู้จัดหาสินค้าหลักให้กับโปรตุเกส โดยคิดเป็นร้อยละ 50.9 ของการส่งออกทั้งหมดและร้อยละ 52 ของการนำเข้า สเปนเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของโปรตุเกส (มีสัดส่วนร้อยละ 26.7 ในการส่งออกและร้อยละ 32.8 ในการนำเข้า) การทำธุรกรรมกับสเปนมีการขาดดุลการค้ามากที่สุด ในขณะที่ฝรั่งเศสมีการเกินดุลมากที่สุด นอกสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกาเป็นลูกค้าหลัก ในขณะที่จีนเป็นผู้จัดหาสินค้านอกสหภาพยุโรปรายใหญ่ที่สุด

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว