ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇯🇴

จอร์แดน อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

1.3 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-0.3 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-20.69 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน จอร์แดน คือ 1.3 % อัตราเงินเฟ้อ ใน จอร์แดน ลดลงถึง 1.3 % เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เคยเป็น 1.6 % เมื่อ 1/3/2567 จาก 1/1/2520 ถึง 1/5/2567 GDP เฉลี่ยใน จอร์แดน อยู่ที่ 4.85 % สถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่เมื่อ 1/8/2532 ที่ 37.5 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดจดบันทึกไว้เมื่อ 1/12/2526 ที่ -4.54 %

แหล่งที่มา: Department of Statistics (DOS), Jordan

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25671.3 %
1/3/25671.6 %
1/2/25671.6 %
1/1/25671.952 %
1/12/25661.637 %
1/11/25661.266 %
1/10/25661.364 %
1/9/25661.191 %
1/8/25660.875 %
1/7/25660.915 %
1
2
3
4
5
...
51

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇯🇴
CPI Transport
112 points111.7 pointsรายเดือน
🇯🇴
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
-0.66 %-1.42 %รายเดือน
🇯🇴
เงินเฟ้อค่าเช่า
4.1 %4.1 %รายเดือน
🇯🇴
เงินเฟ้อด้านอาหาร
0 %1.5 %รายเดือน
🇯🇴
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
110.58 points110.5 pointsรายเดือน
🇯🇴
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
116.1 points116.1 pointsรายเดือน
🇯🇴
ต้นทุนการผลิต
107.42 points107.62 pointsรายเดือน
🇯🇴
ราคานำเข้า
298.8 points323.1 pointsรายเดือน
🇯🇴
ราคาส่งออก
227 points222.1 pointsรายเดือน
🇯🇴
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.2 %0.2 %รายเดือน

ในประเทศจอร์แดน หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคได้แก่ อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (27 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด) และที่อยู่อาศัย (24 เปอร์เซ็นต์) นอกจากนี้ดัชนียังประกอบด้วย: การขนส่ง (16 เปอร์เซ็นต์); เครื่องใช้ภายในบ้านและอุปกรณ์ (5 เปอร์เซ็นต์); สินค้าและบริการอื่นๆ (5 เปอร์เซ็นต์); เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และบุหรี่ (4 เปอร์เซ็นต์); การศึกษา (4 เปอร์เซ็นต์); เสื้อผ้าและรองเท้า (4 เปอร์เซ็นต์); สุขภาพ (4 เปอร์เซ็นต์); การสื่อสาร (3 เปอร์เซ็นต์); การบันเทิงและวัฒนธรรม (3 เปอร์เซ็นต์); และร้านอาหารและโรงแรม (2 เปอร์เซ็นต์).

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ