ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ซิมบับเว เงินเฟ้ออาหาร
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของเงินเฟ้ออาหารในซิมบับเวคือ100.7% เงินเฟ้ออาหารในซิมบับเวเพิ่มขึ้นเป็น100.7%เมื่อวันที่1/3/2567 หลังจากเคยเป็น84.4%เมื่อวันที่1/2/2567 ตั้งแต่1/1/2546ถึง1/4/2567 GDP เฉลี่ยในซิมบับเวอยู่ที่1.53 ล้าน% ค่า GDP สูงสุดตลอดกาลถูกทำสถิติเมื่อวันที่1/7/2551ที่353.13 ล้าน% ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่1/12/2552ที่-15.1%
เงินเฟ้ออาหาร ·
แม็กซ์
เงินเฟ้อด้านอาหาร | |
---|---|
1/1/2546 | 227 % |
1/2/2546 | 234.1 % |
1/3/2546 | 247.9 % |
1/4/2546 | 294.4 % |
1/5/2546 | 334.6 % |
1/6/2546 | 434 % |
1/7/2546 | 480.8 % |
1/8/2546 | 487.3 % |
1/9/2546 | 419 % |
1/10/2546 | 491.2 % |
1/11/2546 | 555.3 % |
1/12/2546 | 635.6 % |
1/1/2547 | 665.7 % |
1/2/2547 | 689.4 % |
1/3/2547 | 655.9 % |
1/4/2547 | 563.5 % |
1/5/2547 | 481.8 % |
1/6/2547 | 430.6 % |
1/7/2547 | 378.4 % |
1/8/2547 | 320.4 % |
1/9/2547 | 264.8 % |
1/10/2547 | 210.8 % |
1/11/2547 | 143.1 % |
1/12/2547 | 121.1 % |
1/1/2548 | 110.7 % |
1/2/2548 | 101.7 % |
1/3/2548 | 104.9 % |
1/4/2548 | 112.5 % |
1/5/2548 | 118.7 % |
1/6/2548 | 152.4 % |
1/7/2548 | 226 % |
1/8/2548 | 252.5 % |
1/9/2548 | 308.2 % |
1/10/2548 | 407.5 % |
1/11/2548 | 572.2 % |
1/12/2548 | 717.1 % |
1/1/2549 | 785.4 % |
1/2/2549 | 824.7 % |
1/3/2549 | 911.1 % |
1/4/2549 | 1,101.8 % |
1/5/2549 | 1,220.5 % |
1/6/2549 | 1,069.9 % |
1/7/2549 | 986.6 % |
1/8/2549 | 1,116.3 % |
1/9/2549 | 1,114.2 % |
1/10/2549 | 1,126.1 % |
1/11/2549 | 1,056.6 % |
1/12/2549 | 1,195.2 % |
1/1/2550 | 1,455.9 % |
1/2/2550 | 1,825.3 % |
1/3/2550 | 2,333.7 % |
1/4/2550 | 3,909.2 % |
1/5/2550 | 5,511.8 % |
1/6/2550 | 8,795 % |
1/7/2550 | 8,624.1 % |
1/8/2550 | 7,908.1 % |
1/9/2550 | 7,759 % |
1/10/2550 | 17,338.4 % |
1/11/2550 | 27,310.6 % |
1/12/2550 | 79,412 % |
1/1/2551 | 105,428 % |
1/2/2551 | 217,168.51 % |
1/3/2551 | 385,407.91 % |
1/4/2551 | 527,065.99 % |
1/5/2551 | 1.58 ล้าน % |
1/6/2551 | 10.55 ล้าน % |
1/7/2551 | 353.13 ล้าน % |
1/3/2553 | 1.11 % |
1/4/2553 | 5.14 % |
1/5/2553 | 6.53 % |
1/6/2553 | 7.39 % |
1/7/2553 | 7.18 % |
1/8/2553 | 7.18 % |
1/9/2553 | 8.45 % |
1/10/2553 | 8.41 % |
1/11/2553 | 9.77 % |
1/12/2553 | 7.38 % |
1/1/2554 | 6.87 % |
1/2/2554 | 5.24 % |
1/3/2554 | 3.47 % |
1/4/2554 | 3.08 % |
1/5/2554 | 2.34 % |
1/6/2554 | 3.08 % |
1/7/2554 | 3.44 % |
1/8/2554 | 3.44 % |
1/9/2554 | 3.99 % |
1/10/2554 | 3.79 % |
1/11/2554 | 3.74 % |
1/12/2554 | 5.79 % |
1/1/2555 | 4.82 % |
1/2/2555 | 4.98 % |
1/3/2555 | 5.12 % |
1/4/2555 | 4.75 % |
1/5/2555 | 4.58 % |
1/6/2555 | 4.75 % |
1/7/2555 | 4.38 % |
1/8/2555 | 4.2 % |
1/9/2555 | 4.88 % |
1/10/2555 | 5.04 % |
1/11/2555 | 3.95 % |
1/12/2555 | 3.76 % |
1/1/2556 | 3.75 % |
1/2/2556 | 4.75 % |
1/3/2556 | 4.2 % |
1/4/2556 | 3.52 % |
1/5/2556 | 3.54 % |
1/6/2556 | 2.85 % |
1/7/2556 | 1.68 % |
1/8/2556 | 1.01 % |
1/2/2560 | 1.26 % |
1/3/2560 | 1.26 % |
1/4/2560 | 1.26 % |
1/5/2560 | 1.81 % |
1/6/2560 | 1.82 % |
1/7/2560 | 2.01 % |
1/8/2560 | 1.84 % |
1/9/2560 | 2.57 % |
1/10/2560 | 4.4 % |
1/11/2560 | 5.65 % |
1/12/2560 | 6.72 % |
1/1/2561 | 6.12 % |
1/2/2561 | 4.43 % |
1/3/2561 | 4.62 % |
1/4/2561 | 4.99 % |
1/5/2561 | 4.99 % |
1/6/2561 | 5.01 % |
1/7/2561 | 6.28 % |
1/8/2561 | 7.58 % |
1/9/2561 | 7.89 % |
1/10/2561 | 26.84 % |
1/11/2561 | 42.76 % |
1/12/2561 | 53.57 % |
1/1/2562 | 63.73 % |
1/2/2562 | 69.78 % |
1/3/2562 | 78.44 % |
1/4/2562 | 92.36 % |
1/5/2562 | 126.32 % |
1/6/2562 | 252.13 % |
1/7/2562 | 318.75 % |
1/8/2562 | 393.12 % |
1/9/2562 | 483.55 % |
1/10/2562 | 620.89 % |
1/11/2562 | 671.86 % |
1/12/2562 | 719.23 % |
1/1/2563 | 685.4 % |
1/2/2563 | 710.3 % |
1/3/2563 | 807.3 % |
1/4/2563 | 980.4 % |
1/5/2563 | 953.5 % |
1/6/2563 | 44.7 % |
1/7/2563 | 55 % |
1/8/2563 | 42.9 % |
1/9/2563 | 65.7 % |
1/10/2563 | 19 % |
1/11/2563 | 19 % |
1/12/2563 | 14.8 % |
1/1/2564 | 17.4 % |
1/2/2564 | 29.8 % |
1/3/2564 | 35.7 % |
1/4/2564 | 22.8 % |
1/5/2564 | 22.5 % |
1/6/2564 | 28.6 % |
1/7/2564 | 15 % |
1/8/2564 | 18.1 % |
1/9/2564 | 21.1 % |
1/10/2564 | 24.8 % |
1/11/2564 | 24.3 % |
1/12/2564 | 22 % |
1/1/2565 | 21.6 % |
1/2/2565 | 23.2 % |
1/3/2565 | 26.3 % |
1/4/2565 | 34.8 % |
1/5/2565 | 47.2 % |
1/6/2565 | 68.7 % |
1/7/2565 | 89 % |
1/8/2565 | 96.9 % |
1/9/2565 | 86.2 % |
1/10/2565 | 83.7 % |
1/11/2565 | 78.4 % |
1/12/2565 | 77.7 % |
1/1/2566 | 71.9 % |
1/2/2566 | 58.7 % |
1/3/2566 | 53 % |
1/4/2566 | 45.9 % |
1/5/2566 | 37.6 % |
1/6/2566 | 38.7 % |
1/7/2566 | 26 % |
1/8/2566 | 17.9 % |
1/9/2566 | 23.1 % |
1/10/2566 | 23.5 % |
1/11/2566 | 29.2 % |
1/12/2566 | 38.3 % |
1/1/2567 | 60.3 % |
1/2/2567 | 84.4 % |
1/3/2567 | 100.7 % |
เงินเฟ้ออาหาร ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 100.7 % |
1/2/2567 | 84.4 % |
1/1/2567 | 60.3 % |
1/12/2566 | 38.3 % |
1/11/2566 | 29.2 % |
1/10/2566 | 23.5 % |
1/9/2566 | 23.1 % |
1/8/2566 | 17.9 % |
1/7/2566 | 26 % |
1/6/2566 | 38.7 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ เงินเฟ้ออาหาร
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇿🇼 CPI Transport | 100.1 points | 99.27 points | รายเดือน |
🇿🇼 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 97.62 points | 97.58 points | รายเดือน |
🇿🇼 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 100.63 points | 100.54 points | รายเดือน |
🇿🇼 อัตราเงินเฟ้อ | 33.6 % | 49.7 % | รายเดือน |
🇿🇼 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 0 % | -2.4 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา
- 🇩🇿แอลจีเรีย
- 🇦🇴แองโกลา
- 🇧🇯เบนิน
- 🇧🇼บอตสวานา
- 🇧🇫บูร์กินาฟาโซ
- 🇧🇮บุรุนดี
- 🇨🇲กาเมอรูน
- 🇨🇻คาบูเวิร์เด
- 🇨🇫สาธารณรัฐแอฟริกากลาง
- 🇹🇩ชาด
- 🇰🇲โคมอรอส
- 🇨🇬คองโก
- 🇿🇦แอฟริกาใต้
- 🇩🇯จิบูตี
- 🇪🇬อียิปต์
- 🇬🇶อิเควทอเรียลกินี
- 🇪🇷เอริเทรีย
- 🇪🇹เอธิโอเปีย
- 🇬🇦กาบอง
- 🇬🇲แกมเบีย
- 🇬🇭กานา
- 🇬🇳กินี
- 🇬🇼กินี-บิสเซา
- 🇨🇮ไอวอรีโคสต์
- 🇰🇪เคนยา
- 🇱🇸เลโซโท
- 🇱🇷ไลบีเรีย
- 🇱🇾ลิเบีย
- 🇲🇬มาดากัสการ์
- 🇲🇼มาลาวี
- 🇲🇱มาลี
- 🇲🇷มอริเตเนีย
- 🇲🇺มอริเชียส
- 🇲🇦โมร็อกโก
- 🇲🇿โมซัมบิก
- 🇳🇦นามิเบีย
- 🇳🇪ไนเจอร์
- 🇳🇬ไนจีเรีย
- 🇷🇼รวันดา
- 🇸🇹เซาตูเมและปรินซิปี
- 🇸🇳เซเนกัล
- 🇸🇨เซเชล
- 🇸🇱เซียร์ราลีโอน
- 🇸🇴โซมาเลีย
- ซูดานใต้
- 🇸🇩ซูดาน
- 🇸🇿สวาซิแลนด์
- 🇹🇿แทนซาเนีย
- 🇹🇬โตโก
- 🇹🇳ตูนิเซีย
- 🇺🇬ยูกันดา
- 🇿🇲แซมเบีย
คืออะไร เงินเฟ้ออาหาร
ฟู้ดอินเฟลชัน หรืออัตราเงินเฟ้อในภาคอาหาร เป็นประเด็นที่มีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomics) โดยเฉพาะในเว็บไซต์แบบมืออาชีพอย่าง Eulerpool ซึ่งเรามุ่งเน้นการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ถูกต้องและทันสมัย ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจและวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ในบทความนี้ เราจะแนะนำและอธิบายถึงฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ฟู้ดอินเฟลชัน หมายถึงการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในภาคอาหารเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) การขาดแคลนวัตถุดิบ ภัยธรรมชาติ และการปรับตัวของกำลังการผลิต อุปสงค์และอุปทานในตลาด เป็นที่รู้กันดีว่าภาคอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักในการวัดฟู้ดอินเฟลชัน ดังนั้น อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในหมวดอาหารจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อระดับราคาสินค้าและบริการทั้งหมดในสังคม หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ติดตามและรายงานฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยคือตารางดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์ โดยอีกส่วนหนึ่งของข้อมูลนั้นยังมาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Statistical Office) ซึ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลและทำการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การวัดอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจะใช้สถิติจากหลายหมวดหมู่ ยกตัวอย่างเช่น ราคาข้าวและเมล็ดพืช ราคาผักและผลไม้ และราคาผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นต้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ภัยธรรมชาติที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ปัญหาการขนส่งสินค้า การเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบที่นำเข้า และการปรับตัวของระบบซับพลายเชน (Supply Chain) ในภาคอาหาร ยกตัวอย่างเช่น ปีที่ผ่านมา ราคาข้าวที่เป็นสินค้าที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย ได้เพิ่มขึ้นกว่า 10% เนื่องจากปัญหาการเก็บเกี่ยวที่ไม่สมบูรณ์และการลดลงของพื้นที่เพาะปลูก ขณะเดียวกัน ราคาผักและผลไม้ก็เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7-8% เนื่องจากภาวะภัยแล้งและอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ปัญหาฟู้ดอินเฟลชันมีผลกระทบต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต ฝ่ายผู้บริโภคมักจะพบกับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าในภาคอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องปรับการใช้ชีวิตและการตัดสินใจในการจับจ่ายใช้สอย ขณะเดียวกัน ฝ่ายผู้ผลิตก็ต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งอาจะทำให้พวกเขาต้องหาวิธีการลดต้นทุนหรือปรับตัวในการผลิตเพื่อความอยู่รอด ความสำคัญของการติดตามและวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจึงไม่สามารถมองข้ามได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ในการติดตามฟู้ดอินเฟลชัน หน่วยงานต่างๆ และภาคธุรกิจมักใช้เครื่องมือและดัชนีต่างๆ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดทั่วไปที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในดัชนีนี้ มีการแบ่งแยกข้อมูลเป็นหมวดหมู่อย่างละเอียด เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ยารักษาโรค เสื้อผ้า และเครื่องพักอาศัย ซึ่งหมวดอาหารก็จะมีการรายงานแยกย่อยเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นความแปรปรวนของราคาที่ชัดเจนขึ้น การเข้าใจฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายการเงินและการคลังของประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับเงินเฟ้อ โดยการปรับนโยบายดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การทราบข้อมูลเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจึงเป็นส่วนสำคัญในการทำให้การดำเนินนโยบายมีประสิทธิภาพ สุดท้ายนี้ ความรู้เกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การทราบถึงสาเหตุและผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารสามารถช่วยให้คุณสามารถรับมือและวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยเป็นหัวข้อที่ต้องการความสนใจและการวิเคราะห์อย่างละเอียด ด้วยความสำคัญที่มีผลกระทบต่อทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจะช่วยให้คุณสามารถประเมินสถานการณ์และเตรียมตัวในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ดีขึ้น ทาง Eulerpool เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เป็นที่น้ำหนึงใจเดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ