ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร เกาะ การใช้จ่ายของรัฐบาล
ราคา
ในปัจจุบันค่าของการใช้จ่ายของรัฐบาลในเกาะคือ177.784 ล้านล้านISK การใช้จ่ายของรัฐบาลในเกาะเพิ่มขึ้นเป็น177.784 ล้านล้านISKเมื่อ1/12/2566หลังจากที่มันคือ170.948 ล้านล้านISKเมื่อ1/9/2566 จาก1/3/2540ถึง1/3/2567 GDP เฉลี่ยในเกาะคือ133.64 ล้านล้านISK มูลค่าสูงสุดที่เคยอยู่ในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อ1/12/2566ที่มีมูลค่า177.78 ล้านล้านISK ในขณะที่ค่าต่ำสุดเคยถูกบันทึกไว้เมื่อ1/3/2540ที่มีมูลค่า85.85 ล้านล้านISK
การใช้จ่ายของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รัฐบาลใช้จ่าย | |
---|---|
1/3/2540 | 85.85 ล้านล้าน ISK |
1/6/2540 | 88.83 ล้านล้าน ISK |
1/9/2540 | 90.37 ล้านล้าน ISK |
1/12/2540 | 94.93 ล้านล้าน ISK |
1/3/2541 | 92.32 ล้านล้าน ISK |
1/6/2541 | 93.3 ล้านล้าน ISK |
1/9/2541 | 94.87 ล้านล้าน ISK |
1/12/2541 | 97.28 ล้านล้าน ISK |
1/3/2542 | 95.6 ล้านล้าน ISK |
1/6/2542 | 97.64 ล้านล้าน ISK |
1/9/2542 | 99.61 ล้านล้าน ISK |
1/12/2542 | 104.02 ล้านล้าน ISK |
1/3/2543 | 99.17 ล้านล้าน ISK |
1/6/2543 | 102 ล้านล้าน ISK |
1/9/2543 | 108.83 ล้านล้าน ISK |
1/12/2543 | 108.59 ล้านล้าน ISK |
1/3/2544 | 108.2 ล้านล้าน ISK |
1/6/2544 | 109.4 ล้านล้าน ISK |
1/9/2544 | 110.51 ล้านล้าน ISK |
1/12/2544 | 112.89 ล้านล้าน ISK |
1/3/2545 | 112.16 ล้านล้าน ISK |
1/6/2545 | 114.18 ล้านล้าน ISK |
1/9/2545 | 117.24 ล้านล้าน ISK |
1/12/2545 | 120.37 ล้านล้าน ISK |
1/3/2546 | 116.12 ล้านล้าน ISK |
1/6/2546 | 117.47 ล้านล้าน ISK |
1/9/2546 | 119.22 ล้านล้าน ISK |
1/12/2546 | 120.16 ล้านล้าน ISK |
1/3/2547 | 118.88 ล้านล้าน ISK |
1/6/2547 | 121.1 ล้านล้าน ISK |
1/9/2547 | 122.83 ล้านล้าน ISK |
1/12/2547 | 121.35 ล้านล้าน ISK |
1/3/2548 | 123.26 ล้านล้าน ISK |
1/6/2548 | 127.08 ล้านล้าน ISK |
1/9/2548 | 129.27 ล้านล้าน ISK |
1/12/2548 | 128.37 ล้านล้าน ISK |
1/3/2549 | 130.92 ล้านล้าน ISK |
1/6/2549 | 132.33 ล้านล้าน ISK |
1/9/2549 | 135.67 ล้านล้าน ISK |
1/12/2549 | 135.14 ล้านล้าน ISK |
1/3/2550 | 138.3 ล้านล้าน ISK |
1/6/2550 | 145.83 ล้านล้าน ISK |
1/9/2550 | 129.98 ล้านล้าน ISK |
1/12/2550 | 141.06 ล้านล้าน ISK |
1/3/2551 | 144.88 ล้านล้าน ISK |
1/6/2551 | 147.66 ล้านล้าน ISK |
1/9/2551 | 137.42 ล้านล้าน ISK |
1/12/2551 | 155.13 ล้านล้าน ISK |
1/3/2552 | 140.27 ล้านล้าน ISK |
1/6/2552 | 146.58 ล้านล้าน ISK |
1/9/2552 | 137.59 ล้านล้าน ISK |
1/12/2552 | 142.88 ล้านล้าน ISK |
1/3/2553 | 133.78 ล้านล้าน ISK |
1/6/2553 | 137.97 ล้านล้าน ISK |
1/9/2553 | 135.63 ล้านล้าน ISK |
1/12/2553 | 140.51 ล้านล้าน ISK |
1/3/2554 | 134.28 ล้านล้าน ISK |
1/6/2554 | 138.46 ล้านล้าน ISK |
1/9/2554 | 135.41 ล้านล้าน ISK |
1/12/2554 | 139.1 ล้านล้าน ISK |
1/3/2555 | 129.5 ล้านล้าน ISK |
1/6/2555 | 135.72 ล้านล้าน ISK |
1/9/2555 | 134.69 ล้านล้าน ISK |
1/12/2555 | 138.5 ล้านล้าน ISK |
1/3/2556 | 133.21 ล้านล้าน ISK |
1/6/2556 | 138.24 ล้านล้าน ISK |
1/9/2556 | 134.23 ล้านล้าน ISK |
1/12/2556 | 137.53 ล้านล้าน ISK |
1/3/2557 | 133.09 ล้านล้าน ISK |
1/6/2557 | 136.91 ล้านล้าน ISK |
1/9/2557 | 133.66 ล้านล้าน ISK |
1/12/2557 | 138.17 ล้านล้าน ISK |
1/3/2558 | 131.83 ล้านล้าน ISK |
1/6/2558 | 136.4 ล้านล้าน ISK |
1/9/2558 | 132.51 ล้านล้าน ISK |
1/12/2558 | 140.63 ล้านล้าน ISK |
1/3/2559 | 132.78 ล้านล้าน ISK |
1/6/2559 | 137.26 ล้านล้าน ISK |
1/9/2559 | 135.22 ล้านล้าน ISK |
1/12/2559 | 140.82 ล้านล้าน ISK |
1/3/2560 | 136.76 ล้านล้าน ISK |
1/6/2560 | 142.36 ล้านล้าน ISK |
1/9/2560 | 138.12 ล้านล้าน ISK |
1/12/2560 | 144.81 ล้านล้าน ISK |
1/3/2561 | 142.08 ล้านล้าน ISK |
1/6/2561 | 147.92 ล้านล้าน ISK |
1/9/2561 | 145.12 ล้านล้าน ISK |
1/12/2561 | 153.62 ล้านล้าน ISK |
1/3/2562 | 147.82 ล้านล้าน ISK |
1/6/2562 | 154.16 ล้านล้าน ISK |
1/9/2562 | 151.19 ล้านล้าน ISK |
1/12/2562 | 158.53 ล้านล้าน ISK |
1/3/2563 | 158.25 ล้านล้าน ISK |
1/6/2563 | 161.6 ล้านล้าน ISK |
1/9/2563 | 158.39 ล้านล้าน ISK |
1/12/2563 | 165.2 ล้านล้าน ISK |
1/3/2564 | 160.23 ล้านล้าน ISK |
1/6/2564 | 164.93 ล้านล้าน ISK |
1/9/2564 | 163.75 ล้านล้าน ISK |
1/12/2564 | 169.33 ล้านล้าน ISK |
1/3/2565 | 164.45 ล้านล้าน ISK |
1/6/2565 | 168.61 ล้านล้าน ISK |
1/9/2565 | 167.49 ล้านล้าน ISK |
1/12/2565 | 172.85 ล้านล้าน ISK |
1/3/2566 | 167.78 ล้านล้าน ISK |
1/6/2566 | 171.68 ล้านล้าน ISK |
1/9/2566 | 170.95 ล้านล้าน ISK |
1/12/2566 | 177.78 ล้านล้าน ISK |
การใช้จ่ายของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 177.784 ล้านล้าน ISK |
1/9/2566 | 170.948 ล้านล้าน ISK |
1/6/2566 | 171.683 ล้านล้าน ISK |
1/3/2566 | 167.777 ล้านล้าน ISK |
1/12/2565 | 172.85 ล้านล้าน ISK |
1/9/2565 | 167.485 ล้านล้าน ISK |
1/6/2565 | 168.605 ล้านล้าน ISK |
1/3/2565 | 164.453 ล้านล้าน ISK |
1/12/2564 | 169.331 ล้านล้าน ISK |
1/9/2564 | 163.752 ล้านล้าน ISK |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การใช้จ่ายของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇮🇸 ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลต่อ GDP | 45.1 % of GDP | 46.5 % of GDP | ประจำปี |
🇮🇸 คำขอลี้ภัย | 165 persons | 180 persons | รายเดือน |
🇮🇸 งบประมาณของรัฐ | -2 % of GDP | -4 % of GDP | ประจำปี |
🇮🇸 ดัชนีการทุจริต | 72 Points | 74 Points | ประจำปี |
🇮🇸 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | 700 ล้าน ISK | 5.9 ล้านล้าน ISK | ควอร์เตอร์ |
🇮🇸 รัฐบาลใช้จ่าย | 530.2 ล้านล้าน ISK | 469.8 ล้านล้าน ISK | ควอร์เตอร์ |
🇮🇸 รายได้ของรัฐ | 473.3 ล้านล้าน ISK | 536.2 ล้านล้าน ISK | ควอร์เตอร์ |
🇮🇸 หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | 68.9 % of GDP | 75.3 % of GDP | ประจำปี |
🇮🇸 อันดับคอร์รัปชั่น | 19 | 14 | ประจำปี |
การใช้จ่ายของรัฐบาลหมายถึงการใช้จ่ายภาครัฐสำหรับสินค้าและบริการและเป็นส่วนสำคัญของ GDP นโยบายการใช้จ่ายของรัฐบาลเช่นการตั้งเป้าหมายงบประมาณ การปรับภาษี การเพิ่มการใช้จ่ายสาธารณะ และการทำงานสาธารณะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การใช้จ่ายของรัฐบาล
การใช้จ่ายของรัฐบาล: ภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่เตรียมความรู้และข้อมูลการวิเคราะห์ที่แม่นยำสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกระดับ ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจที่ซับซ้อน สิ่งที่สำคัญมากคือการมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่ผ่านมา การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจและควบคุมสภาวะเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ การใช้จ่ายของรัฐบาล หมายถึง เงินที่รัฐบาลทำการใช้ในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสาธารณูปโภค การสนับสนุนสาธารณสุข การศึกษา การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังหรือการใช้เงินทุนสำรอง หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายของรัฐบาลคือรายได้ของรัฐบาล ซึ่งหลักๆ มาจากการเก็บภาษี การขายสินทรัพย์รัฐบาล และการกู้ยืมเงิน เมื่อรัฐบาลมีรายได้มาก รัฐบาลสามารถใช้จ่ายมากขึ้น เช่นกัน เมื่อมีสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การกู้ยืมเงินก็เป็นวิธีหนึ่งที่รัฐบาลใช้เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายในภาคส่วนต่างๆ ในภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค การใช้จ่ายของรัฐบาลมีผลกระทบที่กว้างขวางและซับซ้อนในหลายด้าน ด้านหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการผลิต (productivity) ของประเทศ การใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน ทางด่วน สะพาน หรือสนามบิน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและลดต้นทุน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้จ่ายในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมยังเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนในทุนมนุษย์ ทำให้ประชากรมีความสามารถมากขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการผลิตของภาคแรงงานในอนาคต การเพิ่มการลงทุนในด้านสาธารณสุขก็จะเป็นการลดต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากผลสุขภาพของประชากรดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายที่มากเกินไปยังทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน หากรัฐบาลใช้จ่ายเกินกว่าปริมาณที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณ (budget deficits) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและระดับหนี้สาธารณะ อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลคือ การใช้จ่ายของรัฐบาลยังส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ เมื่อรัฐบาลใช้จ่ายมากขึ้น ความต้องการสินค้าหรือบริการต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาอาจปรับตัวสูงขึ้น มีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ การควบคุมและจัดการการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการควบคุมเงินเฟ้อ นโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการใช้จ่าย การบริหารนโยบายการคลังที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ รัฐบาลสามารถเพิ่มหรือลดภาษี ปรับเปลี่ยนระดับของการใช้จ่ายในการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อปรับปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจตามความจำเป็นในสถานการณ์ที่ต่างกัน องค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หรือ ธนาคารโลก (World Bank) มักมีคำแนะนำในด้านการใช้จ่ายของรัฐบาลและนโยบายการคลัง เพื่อให้ประเทศต่างๆ มีการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในยุคปัจจุบัน การใช้จ่ายของรัฐบาลไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือการให้บริการสาธารณะเพียงอย่างเดียว การวิจัยและพัฒนาในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อการนวัตกรรมยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ ความตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อมยังเป็นเรื่องที่รัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญ การลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดหรือการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (green economy) เป็นแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลหลายประเทศสนใจทำ แม้ว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การมีการใช้จ่ายอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้ารัฐบาลใช้จ่ายเงินไม่ดีพอ การเงินของประเทศอาจเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติ การศึกษาและความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยและผลกระทบของการใช้จ่ายของรัฐบาลจะทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในสรุป การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจมหภาค มีผลกระทบทั้งในด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพการผลิต ระดับชีวิตของประชาชน ตลอดจนความคุมค่าของเงินเฟ้อ การมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็นในการวิเคราะห์และวางแผน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความรู้และเครื่องมือในการประเมินและติดตามการใช้จ่ายของรัฐบาลอย่างมืออาชีพ