ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร รัสเซีย ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ราคา
ค่าปัจจุบันของ ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน รัสเซีย คือ 129.4 คะแนน ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน รัสเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 129.4 คะแนน เมื่อ 1/12/2566 หลังจากที่เป็น 125.95 คะแนน เมื่อ 1/9/2566 จาก 1/3/2546 ถึง 1/3/2567 ค่าเฉลี่ยของ GDP ใน รัสเซีย คือ 97.41 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลคือวันที่ 1/3/2565 ที่ 162.14 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกไว้เมื่อ 1/3/2546 ที่ 43.41 คะแนน
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ·
แม็กซ์
ตัวคูณ GDP | |
---|---|
1/3/2546 | 43.41 points |
1/6/2546 | 43.98 points |
1/9/2546 | 46.5 points |
1/12/2546 | 46.02 points |
1/3/2547 | 49.92 points |
1/6/2547 | 52.13 points |
1/9/2547 | 55.28 points |
1/12/2547 | 58.62 points |
1/3/2548 | 59.96 points |
1/6/2548 | 62.87 points |
1/9/2548 | 66.38 points |
1/12/2548 | 68.49 points |
1/3/2549 | 72.61 points |
1/6/2549 | 72.95 points |
1/9/2549 | 76.38 points |
1/12/2549 | 75.56 points |
1/3/2550 | 78.64 points |
1/6/2550 | 81.92 points |
1/9/2550 | 86.39 points |
1/12/2550 | 90.63 points |
1/3/2551 | 94.31 points |
1/6/2551 | 100.07 points |
1/9/2551 | 105.26 points |
1/12/2551 | 99.55 points |
1/3/2552 | 97.51 points |
1/6/2552 | 101.7 points |
1/9/2552 | 103.9 points |
1/12/2552 | 104.09 points |
1/3/2553 | 108.41 points |
1/6/2553 | 112.14 points |
1/9/2553 | 113.9 points |
1/12/2553 | 121.34 points |
1/3/2554 | 70.63 points |
1/6/2554 | 73.22 points |
1/9/2554 | 75.06 points |
1/12/2554 | 74.76 points |
1/3/2555 | 77.89 points |
1/6/2555 | 79.51 points |
1/9/2555 | 81.6 points |
1/12/2555 | 81.03 points |
1/3/2556 | 83.04 points |
1/6/2556 | 83.26 points |
1/9/2556 | 86.23 points |
1/12/2556 | 84.64 points |
1/3/2557 | 87.86 points |
1/6/2557 | 90.07 points |
1/9/2557 | 91.92 points |
1/12/2557 | 92.31 points |
1/3/2558 | 95.19 points |
1/6/2558 | 96.39 points |
1/9/2558 | 99.18 points |
1/12/2558 | 97.84 points |
1/3/2559 | 97.54 points |
1/6/2559 | 99.49 points |
1/9/2559 | 101.16 points |
1/12/2559 | 101.38 points |
1/3/2560 | 104.95 points |
1/6/2560 | 104.18 points |
1/9/2560 | 105.13 points |
1/12/2560 | 106.92 points |
1/3/2561 | 111.71 points |
1/6/2561 | 115.53 points |
1/9/2561 | 117.45 points |
1/12/2561 | 118.11 points |
1/3/2562 | 120.65 points |
1/6/2562 | 121.56 points |
1/9/2562 | 119.12 points |
1/12/2562 | 117.75 points |
1/3/2563 | 120.08 points |
1/6/2563 | 116.77 points |
1/9/2563 | 120.64 points |
1/12/2563 | 123.55 points |
1/3/2564 | 131.35 points |
1/6/2564 | 137.99 points |
1/9/2564 | 142.99 points |
1/12/2564 | 146.76 points |
1/3/2565 | 162.14 points |
1/6/2565 | 161.38 points |
1/9/2565 | 159.73 points |
1/12/2565 | 113.6 points |
1/3/2566 | 118.16 points |
1/6/2566 | 120.36 points |
1/9/2566 | 125.95 points |
1/12/2566 | 129.4 points |
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 129.4 คะแนน |
1/9/2566 | 125.95 คะแนน |
1/6/2566 | 120.36 คะแนน |
1/3/2566 | 118.16 คะแนน |
1/12/2565 | 113.6 คะแนน |
1/9/2565 | 159.73 คะแนน |
1/6/2565 | 161.38 คะแนน |
1/3/2565 | 162.14 คะแนน |
1/12/2564 | 146.76 คะแนน |
1/9/2564 | 142.99 คะแนน |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇷🇺 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | 16.2 % | 18.4 % | รายเดือน |
🇷🇺 ความคาดหวังเงินเฟ้อ | 13.4 % | 12.5 % | รายเดือน |
🇷🇺 เงินเฟ้อด้านอาหาร | 9.1 % | 9.7 % | รายเดือน |
🇷🇺 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 255 points | 254 points | รายเดือน |
🇷🇺 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน | 100.4 points | 100.6 points | รายเดือน |
🇷🇺 ต้นทุนการผลิต | 316 points | 315.1 points | รายเดือน |
🇷🇺 อัตราเงินเฟ้อ | 8.3 % | 7.8 % | รายเดือน |
🇷🇺 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 0.5 % | 0.2 % | รายเดือน |
🇷🇺 อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน | 1.6 % | 1.8 % | รายเดือน |
🇷🇺 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | 8.73 % | 8.64 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร ตัวคูณจีดีพี (GDP)
GDP Deflator (ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดที่ถูกใช้ในวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้วัดเชิงตัวเลขที่ช่วยให้เราสามารถประเมินแนวโน้มของราคาและราคาเงินเฟ้อได้ โดยการแยกปัจจัยที่เป็นปริมาณการผลิตออกจากปัจจัยที่เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ และวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของทุกสินค้าภายในประเทศเรื่องนี้มีความหมายอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากสามารถช่วยให้ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงนักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในภาคการศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณหนึ่งของเงินเฟ้อ เนื่องจากหากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น GDP Deflator นั้นไม่เหมือนกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เนื่องจากมันไม่จำกัดแค่รายการของสินค้าหรือบริการที่ถูกกำหนดในตะกร้าสินค้า แต่จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าทุกประเภทที่ถูกผลิตภายในประเทศดังนั้น มันจึงให้ภาพที่ครอบคลุมมากกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาในภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในภาพรวม การคำนวน GDP Deflator ทำนั้นเรียบง่ายในทางทฤษฎี โดยเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของการคำนวณนี้แสดงผ่านสมการ GDP Deflator = (nGDP / rGDP) * 100 ซึ่ง nGDP (Nominal GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเรียลมูลค่าปัจจุบันที่ยังไม่ได้ ปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อ ส่วน rGDP (Real GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ถูกปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อสมการนี้ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ความสำคัญของ GDP Deflator นั้นไม่สามารถประมาทได้ แน่นอนเราสามารถนำดัชนีนี้มาใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวและระยะสั้น ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยทั่วไปดัชนีนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบระดับราคาของแต่ละช่วงเวลาสร้างความชัดเจนในการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามีแนวโน้มและสถานการณ์ที่เป็นอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน รวมไปถึงนักลงทุน จะใช้ GDP Deflator เพื่อวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดได้ดียิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาวอาจจะมองหาสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้เนื่องจากมันสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงขึ้นหรือมีความเสถียรและชัดเจนขึ้น แต่ในทางกลับกันหาก GDP Deflator ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบทางลบในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ นอกจากนี้การวิเคราะห์ GDP Deflator ยังช่วยให้สามารถประเมินความสามารถในการบริโภคของประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้สามารถสื่อถึงว่าประชาชนอาจจะมีความสามารถในการบริโภคน้อยลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของความต้องการสินค้าบางประเภท สิ่งนี้ยังมีผลกระทบต่อการวางแผนการผลิตและการบริหารจัดการของธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ตามไปด้วย ในทำนองเดียวกัน GDP Deflator ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ จะต้องพิจารณาถึงดัชนีนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายในแต่ละระดับมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจดัชนี GDP Deflator และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจและความระมัดระวังในการประมวลผล เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นระบบที่มีความซับซ้อนการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและครบถ้วนมีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนของสังคม เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ