ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇪🇸

สเปน อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

3.6 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.3 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+8.70 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน สเปน คือ 3.6 %. อัตราเงินเฟ้อ ใน สเปน เพิ่มขึ้นเป็น 3.6 % เมื่อ 1/5/2567 หลังจากที่เคยเป็น 3.3 % เมื่อ 1/4/2567. จาก 1/3/2498 ถึง 1/6/2567, GDP เฉลี่ยใน สเปน คือ 6.41 %. ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/8/2520 ที่ 28.43 % ขณะที่ค่าต่ำสุดเกิดขึ้นเมื่อ 1/7/2552 ที่ -1.37 %.

แหล่งที่มา: National Statistics Institute (INE)

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/5/25673.6 %
1/4/25673.3 %
1/3/25673.2 %
1/2/25672.8 %
1/1/25673.4 %
1/12/25663.1 %
1/11/25663.2 %
1/10/25663.5 %
1/9/25663.5 %
1/8/25662.6 %
1
2
3
4
5
...
79

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇪🇸
CPI Transport
110.622 points112.565 pointsรายเดือน
🇪🇸
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
-4.6 %-6.7 %รายเดือน
🇪🇸
เงินเฟ้อด้านอาหาร
3.1 %4.2 %รายเดือน
🇪🇸
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
115.776 points115.47 pointsรายเดือน
🇪🇸
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว
123.94 points123.67 pointsรายเดือน
🇪🇸
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
106.042 points106.758 pointsรายเดือน
🇪🇸
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
114.947 points115.37 pointsรายเดือน
🇪🇸
ต้นทุนการผลิต
124.413 points127.4 pointsรายเดือน
🇪🇸
ราคานำเข้า
119.8 points118.7 pointsรายเดือน
🇪🇸
ราคาส่งออก
117.3 points117 pointsรายเดือน
🇪🇸
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.6 %-0.6 %รายเดือน
🇪🇸
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY
3.5 %3.8 %รายเดือน
🇪🇸
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน
0.4 %-0.1 %รายเดือน
🇪🇸
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
0.8 %-0.3 %รายเดือน
🇪🇸
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
2.5 %2.4 %รายเดือน

ในประเทศสเปน หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคคือ: อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (23% ของน้ำหนักทั้งหมด), ที่อยู่อาศัย, น้ำ, ไฟฟ้า, ก๊าซและเชื้อเพลิงอื่น ๆ (14%), ร้านอาหารและโรงแรม (13%) และการขนส่ง (13%) ดัชนียังรวมถึง: การพักผ่อนและวัฒนธรรม (6%), สินค้าและบริการเบ็ดเตล็ด (6%), เสื้อผ้าและรองเท้า (6%), เครื่องเรือน อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านและการบำรุงรักษาประจำ (6%), สุขภาพ (4%), การสื่อสาร (4%), เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ (3%), และการศึกษา (2%)

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ