ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร บรูไน หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ราคา
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปัจจุบันใน บรูไน มีมูลค่า 2.1 % of GDP หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน บรูไน ลดลงเป็น 2.1 % of GDP เมื่อ 1/1/2565 หลังจากที่เคยเป็น 2.5 % of GDP เมื่อ 1/1/2564 จาก 1/1/2528 ถึง 1/1/2566 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เฉลี่ยใน บรูไน อยู่ที่ 0.97 % of GDP ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/1/2557 ด้วยมูลค่า 3.2 % of GDP ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/1/2528 ด้วยมูลค่า 0 % of GDP
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ·
แม็กซ์
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | |
---|---|
1/1/2549 | 0.59 % of GDP |
1/1/2550 | 0.68 % of GDP |
1/1/2551 | 0.94 % of GDP |
1/1/2552 | 1.11 % of GDP |
1/1/2553 | 1.1 % of GDP |
1/1/2554 | 2.13 % of GDP |
1/1/2555 | 2.1 % of GDP |
1/1/2556 | 2.2 % of GDP |
1/1/2557 | 3.2 % of GDP |
1/1/2558 | 3 % of GDP |
1/1/2559 | 3 % of GDP |
1/1/2560 | 2.8 % of GDP |
1/1/2561 | 2.6 % of GDP |
1/1/2562 | 2.6 % of GDP |
1/1/2563 | 2.9 % of GDP |
1/1/2564 | 2.5 % of GDP |
1/1/2565 | 2.1 % of GDP |
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/1/2565 | 2.1 % of GDP |
1/1/2564 | 2.5 % of GDP |
1/1/2563 | 2.9 % of GDP |
1/1/2562 | 2.6 % of GDP |
1/1/2561 | 2.6 % of GDP |
1/1/2560 | 2.8 % of GDP |
1/1/2559 | 3 % of GDP |
1/1/2558 | 3 % of GDP |
1/1/2557 | 3.2 % of GDP |
1/1/2556 | 2.2 % of GDP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇧🇳 การใช้จ่ายทางทหาร | 448.9 ล้าน USD | 435.9 ล้าน USD | ประจำปี |
🇧🇳 งบประมาณของรัฐ | -5.4 % of GDP | -19.6 % of GDP | ประจำปี |
🇧🇳 รัฐบาลใช้จ่าย | 1.162 ล้านล้าน BND | 1.233 ล้านล้าน BND | ควอร์เตอร์ |
โดยทั่วไป หนี้สินของรัฐบาลเมื่อเทียบกับร้อยละของ GDP จะถูกใช้โดยนักลงทุนเพื่อประเมินความสามารถของประเทศในการชำระหนี้ในอนาคต ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมและอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
หนี้รัฐบาลต่อ GDP เป็นตัวบ่งชี้สำคัญที่ช่วยให้เรามีความเข้าใจในสภาพคล่องทางการเงินและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างชัดเจน หนี้รัฐบาลต่อ GDP หมายถึงอัตราส่วนของหนี้สาธารณะที่ประเทศถือไว้เทียบกับผลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยทั่วไปแล้วค่าที่ได้จากการคำนวณตัวบ่งชี้นี้จะแสดงออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งสามารถใช้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ประเทศนั้นๆ จะประสบปัญหาทางการเงินหรือความเฉื่อยทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากหนี้รัฐบาลต่อ GDP มีค่าเพิ่มขึ้น หมายถึงรัฐบาลต้องการกว่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในเวลาเดียวกันผลผลิตในทางเศรษฐกิจไม่สามารถตามทัน เช่นนี้อาจนำไปสู่ภาวะวิกฤติจากหนี้ เพิ่มความเสี่ยงที่รัฐบาลจะต้องเผชิญกับปัญหาการชำระหนี้ไม่ได้ การให้ความสำคัญกับตัวเลขหนี้ต่อ GDP จึงเป็นเรื่องสำคัญไม่เพียงแต่สำหรับผู้ที่อยู่ในวงการเศรษฐกิจ แต่ยังรวมไปถึงประชาชนทั่วไปที่รับผลกระทบจากนโยบายทางการเงินของรัฐบาล การเปรียบเทียบหนี้รัฐบาลต่อ GDP ระหว่างประเทศยังเป็นวิธีการที่น่าสนใจในการวิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงินของเศรษฐกิจโลก ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือพิจารณาว่าสถานะทางการเงินของประเทศหนึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าประเทศอื่นๆ หรือไม่ ตัวอย่างของประเทศที่มีหนี้รัฐบาลต่อ GDP สูง เช่น ญี่ปุ่น หรือ กรีซ มีความหน่วยแน่ใจที่ว่าแนวทางจับการของรัฐบาลจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อทิศทางเศรษฐกิจ แต่ในทางกลับกัน การที่หลายนโยบายการคลังของประเทศเหล่านี้อยู่ในระดับคงจะเดิมที่สมดุล ความเชื่อถือในตลาดการเงินยังคงสูง การวิเคราะห์หนี้รัฐบาลต่อ GDP ยังให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการคลังของรัฐบาลในอนาคต ถ้าประเทศหนึ่งมีหนี้รัฐบาลต่อ GDP ในระดับสูงและยังไม่มีทิศทางที่จะลดลง เป็นไปได้ว่ารัฐบาลของประเทศนั้นจะต้องมีการดำเนินนโยบายการคลังที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มภาษี หรือการลดค่าใช้จ่ายของรัฐในบางด้าน เพื่อลดความเสี่ยงจากหนี้ที่มากขึ้นนี้ นอกจากการดูค่าอัตราส่วนหนี้รัฐบาลต่อ GDP แล้ว การวิเคราะห์แนวโน้มระยะยาวยังมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยมักจะดูข้อมูลย้อนหลังกว่า 10-20 ปี เพื่อให้เข้าใจถึงทิศทางการชำระหนี้และการใช้จ่ายของรัฐบาล รวมไปถึงการประเมินการกู้หนี้ใหม่ของประเทศหนึ่งๆ การดูแนวโน้มนี้ยังช่วยให้เราสามารถรู้ได้ว่าประเทศหนึ่งมีความสามารถในการชำระหนี้ในระยะยาวอยู่ในระดับที่ยอมรับได้หรือไม่ การเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนนี้อาจสะท้อนถึงการใช้จ่ายส่วนเกินของรัฐบาล ซึ่งสามารถกระทำในหลายรูปแบบ เช่น การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หรืออาจเป็นการเน้นย้ำการให้บริการทางสังคม เช่น การรักษาพยาบาล การศึกษาหรือการป้องกันประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถบ่งชี้ระดับความเสี่ยงของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก เป็นต้น หนี้รัฐบาลต่อ GDP ยังมีความสำคัญต่อการวิเคราะห์ภาวะความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว และเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับนักลงทุนและนักวิจัยที่สนใจสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว ประเทศที่มีหนี้รัฐบาลต่อ GDP ในระดับต่ำหรือคงที่ มีแนวโน้มที่จะมีความเสี่ยงต่ำกว่าประเทศที่หนี้รัฐบาลต่อ GDP เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับนโยบายการเงินและการคลัง การดูแลไม่ให้หนี้รัฐบาลเพิ่มขึ้นเกินอัตราที่สามารถบริหารจัดการได้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะอัตราส่วนหนี้รัฐบาลต่อ GDP ที่สูงเกินไปอาจทำให้รัฐบาลเผชิญกับปัญหาในการกู้หนี้ใหม่ หรือการชำระหนี้เก่าที่อาจไปกระทบถึงเสถียรภาพทางการเงินของประเทศตามมา เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลที่เสนอตัวบ่งชี้หนี้รัฐบาลต่อ GDP พร้อมข้อมูลที่สามารถใช้งานได้ง่าย ด้วยการอัพเดทข้อมูลที่ทันสมัยและการนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่มีความละเอียดและแม่นยำ ทั้งนี้ เรามีความตั้งใจที่จะแนะนำให้ผู้ใช้มีความเข้าใจในเรื่องของการเงินและเศรษฐกิจในระดับที่ลึกซึ้งและมีข้อมูลที่แน่ชัดสำหรับการตัดสินใจต่างๆ ในสุดท้าย ค่าอัตราส่วนหนี้รัฐบาลต่อ GDP เป็นตัวบ่งชี้ที่มีความสำคัญไม่เพียงแต่สำหรับนักเศรษฐศาสตร์และนักวิจัยทางเศรษฐกิจ แต่ยังหมายถึงผลกระทบที่เป็น้อนดีต่อประชาชนทั่วไป การเข้าใจในความหมายและการวิเคราะห์ตัวเลขนี้จะช่วยให้เรามีภาพรวมที่ชัดเจนและสามารถตระหนักถึงความสำคัญของเสถียรภาพทางการเงินในเศรษฐกิจของประเทศ.