ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร บราซิล กระแสเงินทุน
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินทุนในบราซิลคือ1.313 ล้านล้านUSD กระแสเงินทุนในบราซิลลดลงเหลือ1.313 ล้านล้านUSDเมื่อวันที่1/5/2566 หลังจากที่เคยเป็น2.187 ล้านล้านUSDเมื่อวันที่1/3/2566 ตั้งแต่1/1/2538ถึง1/4/2567 GDP เฉลี่ยในบราซิลอยู่ที่-2.91 ล้านล้านUSD โดยทำสถิติสูงสุดเมื่อ1/7/2549กับ3.12 ล้านล้านUSD ขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/1/2556กับ-14.57 ล้านล้านUSD
กระแสเงินทุน ·
แม็กซ์
กระแสเงินทุน | |
---|---|
1/8/2545 | 507.1 ล้าน USD |
1/9/2545 | 1.54 ล้านล้าน USD |
1/11/2545 | 650.9 ล้าน USD |
1/1/2546 | 249.1 ล้าน USD |
1/3/2546 | 148.6 ล้าน USD |
1/5/2546 | 763.5 ล้าน USD |
1/6/2546 | 559.2 ล้าน USD |
1/7/2546 | 943.5 ล้าน USD |
1/8/2546 | 1.27 ล้านล้าน USD |
1/9/2546 | 1.33 ล้านล้าน USD |
1/10/2546 | 302.7 ล้าน USD |
1/12/2546 | 290.5 ล้าน USD |
1/1/2547 | 668 ล้าน USD |
1/2/2547 | 96.5 ล้าน USD |
1/3/2547 | 858.9 ล้าน USD |
1/5/2547 | 1.33 ล้านล้าน USD |
1/6/2547 | 2.12 ล้านล้าน USD |
1/7/2547 | 1.68 ล้านล้าน USD |
1/8/2547 | 1.13 ล้านล้าน USD |
1/9/2547 | 1.5 ล้านล้าน USD |
1/10/2547 | 1.14 ล้านล้าน USD |
1/11/2547 | 217.9 ล้าน USD |
1/12/2547 | 1.26 ล้านล้าน USD |
1/1/2548 | 813.5 ล้าน USD |
1/2/2548 | 469.9 ล้าน USD |
1/3/2548 | 1.84 ล้านล้าน USD |
1/4/2548 | 898.2 ล้าน USD |
1/5/2548 | 969.3 ล้าน USD |
1/6/2548 | 1.24 ล้านล้าน USD |
1/7/2548 | 2.53 ล้านล้าน USD |
1/8/2548 | 1.18 ล้านล้าน USD |
1/9/2548 | 2.47 ล้านล้าน USD |
1/10/2548 | 665.1 ล้าน USD |
1/11/2548 | 1.54 ล้านล้าน USD |
1/12/2548 | 769 ล้าน USD |
1/2/2549 | 701.7 ล้าน USD |
1/3/2549 | 1.51 ล้านล้าน USD |
1/4/2549 | 181.5 ล้าน USD |
1/5/2549 | 431.5 ล้าน USD |
1/6/2549 | 347.9 ล้าน USD |
1/7/2549 | 3.12 ล้านล้าน USD |
1/8/2549 | 2.25 ล้านล้าน USD |
1/9/2549 | 2.25 ล้านล้าน USD |
1/10/2549 | 1.88 ล้านล้าน USD |
1/11/2549 | 1.82 ล้านล้าน USD |
1/12/2549 | 1.36 ล้านล้าน USD |
1/4/2550 | 2.49 ล้านล้าน USD |
1/6/2550 | 610.3 ล้าน USD |
1/8/2550 | 605.3 ล้าน USD |
1/9/2550 | 1.97 ล้านล้าน USD |
1/10/2550 | 70.3 ล้าน USD |
1/5/2551 | 175.9 ล้าน USD |
1/10/2551 | 879.5 ล้าน USD |
1/11/2551 | 2.39 ล้านล้าน USD |
1/12/2551 | 1.39 ล้านล้าน USD |
1/2/2552 | 9.2 ล้าน USD |
1/5/2552 | 32.9 ล้าน USD |
1/12/2558 | 1.72 ล้านล้าน USD |
1/5/2559 | 2.33 ล้านล้าน USD |
1/2/2560 | 636.3 ล้าน USD |
1/5/2560 | 1.81 ล้านล้าน USD |
1/6/2560 | 18.9 ล้าน USD |
1/4/2563 | 3.11 ล้านล้าน USD |
1/5/2563 | 2.48 ล้านล้าน USD |
1/6/2563 | 2.95 ล้านล้าน USD |
1/8/2563 | 1.66 ล้านล้าน USD |
1/9/2563 | 492.4 ล้าน USD |
1/4/2564 | 2.91 ล้านล้าน USD |
1/5/2564 | 1.94 ล้านล้าน USD |
1/6/2564 | 1.3 ล้านล้าน USD |
1/4/2565 | 1.67 ล้านล้าน USD |
1/11/2565 | 509.6 ล้าน USD |
1/3/2566 | 2.19 ล้านล้าน USD |
1/5/2566 | 1.31 ล้านล้าน USD |
กระแสเงินทุน ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/5/2566 | 1.313 ล้านล้าน USD |
1/3/2566 | 2.187 ล้านล้าน USD |
1/11/2565 | 509.6 ล้าน USD |
1/4/2565 | 1.673 ล้านล้าน USD |
1/6/2564 | 1.302 ล้านล้าน USD |
1/5/2564 | 1.941 ล้านล้าน USD |
1/4/2564 | 2.911 ล้านล้าน USD |
1/9/2563 | 492.4 ล้าน USD |
1/8/2563 | 1.664 ล้านล้าน USD |
1/6/2563 | 2.952 ล้านล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ กระแสเงินทุน
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇧🇷 การขายอาวุธ | 54 ล้าน SIPRI TIV | 8 ล้าน SIPRI TIV | ประจำปี |
🇧🇷 การผลิตน้ำมันดิบ | 3,194 BBL/D/1K | 3,356 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇧🇷 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 6.1 ล้านล้าน USD | 7.3 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇧🇷 การโอนเงิน | 355.8 ล้าน USD | 396.8 ล้าน USD | รายเดือน |
🇧🇷 เงื่อนไขการซื้อขาย | 129 points | 128 points | รายเดือน |
🇧🇷 ดัชนีการก่อการร้าย | 1.988 Points | 0.599 Points | ประจำปี |
🇧🇷 ทองคำสำรอง | 129.65 Tonnes | 129.65 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇧🇷 นำเข้า | 23.426 ล้านล้าน USD | 24.251 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇧🇷 ยอดการค้า | 8.53 ล้านล้าน USD | 9.04 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇧🇷 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -6.526 ล้านล้าน USD | -6.899 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇧🇷 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 3.63 ล้าน | 746,000 | ประจำปี |
🇧🇷 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -1.42 % of GDP | -2.5 % of GDP | ประจำปี |
🇧🇷 ส่งออก | 28.789 ล้านล้าน USD | 29.079 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇧🇷 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 2.9 % of GDP | 3.2 % of GDP | ประจำปี |
🇧🇷 หนี้สินต่างประเทศ | 741.135 ล้านล้าน USD | 738.588 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
ในประเทศบราซิล กระแสเงินทุนสุทธิถูกวัดโดยใช้ดุลบัญชีทุนและการเงินของดุลการชำระเงิน
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร กระแสเงินทุน
กระแสเงินทุนเป็นหมวดหมู่สำคัญที่มีบทบาทอยู่ในเศรษฐกิจมหภาค นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนให้ความสำคัญเพราะกระแสเงินทุนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในแต่ละประเทศ การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนสามารถช่วยให้รัฐบาลและผู้นำทางเศรษฐกิจวางแผนและดำเนินนโยบายที่เหมาะสมเพื่อค้าและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ การศึกษากระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้หลายประเภท ซึ่งหลักๆ จะเป็นเงินทุนขาเข้าและเงินทุนขาออก เงินทุนขาเข้าหมายถึงเงินที่ไหลเข้ามาในประเทศจากต่างประเทศ อาจจะมาในรูปแบบการลงทุนโดยตรง การลงทุนในหลักทรัพย์ หรือการให้สินเชื่อ การไหลเข้าของเงินทุนขาเข้านี้สามารถช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้น เพิ่มทุน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เงินทุนขาออกหมายถึงเงินที่ไหลออกจากประเทศไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่มีเงินทุนขาออกมากเกินไป อาจทำให้ค่าเงินของประเทศอ่อนค่าลง และอาจทำให้เกิดปัญหาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นลดน้อยลง ปัจจัยที่มีผลต่อกระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้เป็นหลายหมวดหมู่ อาทิเช่น ปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ เสถียรภาพทางการเมือง นโยบายการเงินและการคลัง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพ ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศได้แก่ เศรษฐกิจโลก, การเคลื่อนไหวของตลาดทุน, อัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ กระแสเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ซึ่งมักจะเป็นทุนระยะสั้นนั้นสามารถสร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจได้มากกว่าทุนระยะยาวที่มักจะมีเสถียรภาพกว่า เมื่อกระแสเงินทุนหมุนเวียนเข้าสู่ประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มักจะเป็นที่ต้องการเพราะเป็นการลงทุนเพื่อการผลิตหรือการขยายธุรกิจที่มีความยั่งยืน ในทางกลับกัน การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ การเก็งกำไรในค่าเงิน สามารถสร้างความเสี่ยงและความผันผวนให้กับระบบการเงินของประเทศ ในยุคปัจจุบันที่ตลาดการเงินมีการเชื่อมต่อกันอย่างเข้มข้น กระแสเงินทุนข้ามประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร การเข้าใจและติดตามกระแสเงินทุนอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และรัฐบาล ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการบริหารจัดการกระแสเงินทุน ประเด็นนี้สำคัญมากโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก การทำความเข้าใจและประสานงานกันระหว่างประเทศสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกรูปแบบหนึ่งของการไหลของกระแสเงินทุนที่น่าสนใจคือระบบเงินทุนไหลเข้าและออกในระดับรัฐและองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การออกพันธบัตรโดยรัฐหรือองค์กรข้ามชาติ การศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มของการรับจ่ายเงินในระดับนี้ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ละเอียดมากขึ้น นอกจากการศึกษาผ่านตัวเลขและสถิติ การตีความและวิเคราะห์กระแสเงินทุนในเชิงข้อความบอกเล่าสามารถลดความซับซ้อนของข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์สามารถเข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ บ่อยครั้งที่กระแสเงินทุนมีความสัมพันธ์กับตลาดทุนและตลาดเงิน ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ย่อมมีผลกระทบต่อตลาดอีกด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศใดประเทศหนึ่ง ย่อมทำให้มีการเคลื่อนย้ายของเงินทุนทั้งขาเข้าและขาออกในประเทศนั้น ตัวอย่างเช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาอาจจะสร้างแรงดึงดูดให้กับเงินทุนไหลออกจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าไปยังสหรัฐ ในเว็บไซต์ eulerpool ของเรา เราให้ความสำคัญกับการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนอย่างเป็นระบบ และเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจกระแสเงินทุนได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันเสมือนจริง ทั้งนี้ ความสามารถในการตามติดและวิเคราะห์กระแสเงินทุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ หรือนักวางแผนทางนโยบาย การเข้าใจกระแสเงินทุนและการสามารถใช้ข้อมูลนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจในระยะยาว