ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร อาร์เจนตินา หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ราคา
ค่า ปัจจุบันของ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน อาร์เจนตินา คือ 4 % of GDP หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน อาร์เจนตินา เพิ่มขึ้นเป็น 4 % of GDP เมื่อ 1/12/2566 หลังจากที่เป็น 3.9 % of GDP เมื่อ 1/9/2566 จาก 1/3/2537 ถึง 1/3/2567, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศโดยเฉลี่ยใน อาร์เจนตินา คือ 4.91 % of GDP จุดสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/6/2561 ด้วย 7.3 % of GDP ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/3/2547 ด้วย 2.5 % of GDP
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ·
แม็กซ์
หนี้สินของครัวเรือนต่อ GDP | |
---|---|
1/3/2537 | 3.6 % of GDP |
1/6/2537 | 3.8 % of GDP |
1/9/2537 | 4 % of GDP |
1/12/2537 | 4 % of GDP |
1/3/2538 | 4.2 % of GDP |
1/6/2538 | 4 % of GDP |
1/9/2538 | 3.9 % of GDP |
1/12/2538 | 4 % of GDP |
1/3/2539 | 4.1 % of GDP |
1/6/2539 | 4.1 % of GDP |
1/9/2539 | 4.1 % of GDP |
1/12/2539 | 4.3 % of GDP |
1/3/2540 | 4.4 % of GDP |
1/6/2540 | 4.6 % of GDP |
1/9/2540 | 4.6 % of GDP |
1/12/2540 | 5 % of GDP |
1/3/2541 | 5.3 % of GDP |
1/6/2541 | 5.5 % of GDP |
1/9/2541 | 5.9 % of GDP |
1/12/2541 | 6.1 % of GDP |
1/3/2542 | 6.1 % of GDP |
1/6/2542 | 6.2 % of GDP |
1/9/2542 | 6.3 % of GDP |
1/12/2542 | 6.5 % of GDP |
1/3/2543 | 6.5 % of GDP |
1/6/2543 | 6.6 % of GDP |
1/9/2543 | 6.6 % of GDP |
1/12/2543 | 6.6 % of GDP |
1/3/2544 | 6.7 % of GDP |
1/6/2544 | 6.7 % of GDP |
1/9/2544 | 6.5 % of GDP |
1/12/2544 | 6.1 % of GDP |
1/3/2545 | 5.4 % of GDP |
1/6/2545 | 4.5 % of GDP |
1/9/2545 | 3.9 % of GDP |
1/12/2545 | 3.4 % of GDP |
1/3/2546 | 2.9 % of GDP |
1/6/2546 | 2.7 % of GDP |
1/9/2546 | 2.6 % of GDP |
1/12/2546 | 2.6 % of GDP |
1/3/2547 | 2.5 % of GDP |
1/6/2547 | 2.5 % of GDP |
1/9/2547 | 2.6 % of GDP |
1/12/2547 | 2.7 % of GDP |
1/3/2548 | 2.7 % of GDP |
1/6/2548 | 2.8 % of GDP |
1/9/2548 | 2.9 % of GDP |
1/12/2548 | 3.1 % of GDP |
1/3/2549 | 3.2 % of GDP |
1/6/2549 | 3.4 % of GDP |
1/9/2549 | 3.5 % of GDP |
1/12/2549 | 3.8 % of GDP |
1/3/2550 | 4 % of GDP |
1/6/2550 | 4.2 % of GDP |
1/9/2550 | 4.5 % of GDP |
1/12/2550 | 4.7 % of GDP |
1/3/2551 | 4.7 % of GDP |
1/6/2551 | 4.8 % of GDP |
1/9/2551 | 4.7 % of GDP |
1/12/2551 | 4.9 % of GDP |
1/3/2552 | 4.8 % of GDP |
1/6/2552 | 4.8 % of GDP |
1/9/2552 | 4.7 % of GDP |
1/12/2552 | 4.9 % of GDP |
1/3/2553 | 4.8 % of GDP |
1/6/2553 | 4.7 % of GDP |
1/9/2553 | 4.7 % of GDP |
1/12/2553 | 4.8 % of GDP |
1/3/2554 | 4.8 % of GDP |
1/6/2554 | 5 % of GDP |
1/9/2554 | 5.1 % of GDP |
1/12/2554 | 5.4 % of GDP |
1/3/2555 | 5.4 % of GDP |
1/6/2555 | 5.5 % of GDP |
1/9/2555 | 5.6 % of GDP |
1/12/2555 | 5.9 % of GDP |
1/3/2556 | 5.9 % of GDP |
1/6/2556 | 5.9 % of GDP |
1/9/2556 | 5.9 % of GDP |
1/12/2556 | 6.2 % of GDP |
1/3/2557 | 5.9 % of GDP |
1/6/2557 | 5.6 % of GDP |
1/9/2557 | 5.5 % of GDP |
1/12/2557 | 5.7 % of GDP |
1/3/2558 | 5.7 % of GDP |
1/6/2558 | 5.8 % of GDP |
1/9/2558 | 5.9 % of GDP |
1/12/2558 | 6.4 % of GDP |
1/3/2559 | 6 % of GDP |
1/6/2559 | 5.9 % of GDP |
1/9/2559 | 5.7 % of GDP |
1/12/2559 | 6 % of GDP |
1/3/2560 | 6 % of GDP |
1/6/2560 | 6.1 % of GDP |
1/9/2560 | 6.4 % of GDP |
1/12/2560 | 6.9 % of GDP |
1/3/2561 | 7.2 % of GDP |
1/6/2561 | 7.3 % of GDP |
1/9/2561 | 7.1 % of GDP |
1/12/2561 | 6.6 % of GDP |
1/3/2562 | 6.1 % of GDP |
1/6/2562 | 5.6 % of GDP |
1/9/2562 | 5.4 % of GDP |
1/12/2562 | 5.4 % of GDP |
1/3/2563 | 5 % of GDP |
1/6/2563 | 5 % of GDP |
1/9/2563 | 5.2 % of GDP |
1/12/2563 | 5.6 % of GDP |
1/3/2564 | 5.2 % of GDP |
1/6/2564 | 4.7 % of GDP |
1/9/2564 | 4.5 % of GDP |
1/12/2564 | 4.5 % of GDP |
1/3/2565 | 4.3 % of GDP |
1/6/2565 | 4.4 % of GDP |
1/9/2565 | 4.2 % of GDP |
1/12/2565 | 4.1 % of GDP |
1/3/2566 | 3.9 % of GDP |
1/6/2566 | 4 % of GDP |
1/9/2566 | 3.9 % of GDP |
1/12/2566 | 4 % of GDP |
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 4 % of GDP |
1/9/2566 | 3.9 % of GDP |
1/6/2566 | 4 % of GDP |
1/3/2566 | 3.9 % of GDP |
1/12/2565 | 4.1 % of GDP |
1/9/2565 | 4.2 % of GDP |
1/6/2565 | 4.4 % of GDP |
1/3/2565 | 4.3 % of GDP |
1/12/2564 | 4.5 % of GDP |
1/9/2564 | 4.5 % of GDP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇦🇷 การใช้จ่ายของผู้บริโภค | 521.188 ล้านล้าน ARS | 510.224 ล้านล้าน ARS | ควอร์เตอร์ |
🇦🇷 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค | 37.23 points | 38.3 points | รายเดือน |
🇦🇷 ยอดขายปลีกประจำปี | 204.4 % | 186.7 % | รายเดือน |
🇦🇷 ราคาน้ำมันเบนซิน | 1.01 USD/Liter | 0.99 USD/Liter | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP (Households Debt to GDP) เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งใช้ในการวิเคราะห์ระดับหนี้สินของครัวเรือนในแต่ละประเทศเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP หนี้สินครัวเรือนหมายถึงการติดหนี้ทั้งหลายของครัวเรือนเช่นการกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน การกู้ยืมเพื่อการบริโภค และบัตรเครดิต เปรียบเทียบกับผลผลิตทั้งหมดในเชิงเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งๆ ในภาพรวม การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนเมื่อเทียบกับ GDP อาจเป็นสัญญาณของหลายสิ่งหลายอย่างทั้งดีและไม่ดี สำหรับประเด็นดี การมีหนี้สินในระดับที่เหมาะสมสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจด้วยการสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าทุน เช่น บ้านและรถยนต์ หรือการบริโภคในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตาม การมีหนี้สินครัวเรือนสูงเมื่อเทียบกับ GDP อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโดยรวม ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนอาจลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินและการบริโภคสาธารณะ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เนื่องจากครัวเรือนมีภาระหนี้สินที่สูงเกินไป การวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ประการแรกคือระดับรายได้ของครัวเรือน หากรายได้ของครัวเรือนสูง การมีหนี้สินที่สูงก็อาจไม่เป็นปัญหาเท่าไร ประการที่สองคืออัตราดอกเบี้ย การกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำอาจทำให้ภาระหนี้สินของครัวเรือนดูไม่สูงเท่าที่คิด แต่หากอัตราดอกเบี้ยมีการปรับขึ้นภาระการชำระหนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยด้านความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงานและความเสถียรของตลาดแรงงาน หากตลาดแรงงานมีเสถียรภาพสูงและอัตราการว่างงานต่ำ ครัวเรือนจะมีความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้น ซึ่งทำให้หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ไม่เป็นปัญหามากนัก ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจชะลอตัวหรือมีความไม่แน่นอนสูง ครัวเรือนอาจพบว่าการชำระหนี้เป็นภาระหนักขึ้น ภายในบริบทของประเทศไทย ข้อมูลเรื่องหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนในอดีตแสดงให้เห็นถึงความต้องการการบริโภคและการกู้ยืมเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ทุน เช่นที่อยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงหากครัวเรือนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด หนี้สินครัวเรือนที่สูงอาจทำให้ครัวเรือนลดทอนการบริโภค ซึ่งอาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องมีมาตรการติดตามและควบคุมระดับหนี้สินครัวเรือนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ การดำเนินนโยบายทางการเงิน เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ได้เพื่อลดภาระการชำระหนี้ของครัวเรือน และส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจคือการวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนในเชิงภูมิภาค การเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ในแต่ละภูมิภาคสามารถเปิดเผยถึงแนวโน้มและปัจจัยเฉพาะที่มีผลต่อการกู้ยืม เช่น ค่าครองชีพและมูลค่าทรัพย์สินในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกัน ในยุคดิจิทัล การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึกกลายเป็นเรื่องที่สะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น เว็บไซต์เช่น eulerpool ซึ่งเชี่ยวชาญในการให้ข้อมูลทางแมโครเศรษฐกิจ สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ การที่ข้อมูลนี้สามารถถูกวิเคราะห์และนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายจะช่วยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจสามารถทำการตัดสินใจที่มีพื้นฐานจากข้อมูลที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ การมีความรู้และการเข้าใจในแนวโน้มของหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการเงินและการลงทุนในระดับบุคคล การทำความเข้าใจถึงระดับหนี้สินของครัวเรือนในประเทศจะช่วยให้บุคคลสามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น โดยสรุป หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP เป็นดัชนีที่มีผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย การติดตามระดับหนี้สินครัวเรือน การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบ และการใช้นโยบายทางการเงินที่เหมาะสมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาเสถียรภาพและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและทันสมัยเช่นข้อมูลที่นำเสนอโดย eulerpool จะเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ