ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ชิลี ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ราคา
ค่าปัจจุบันของ ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน ชิลี คือ 147.23 คะแนน ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน ชิลี เพิ่มขึ้นเป็น 147.23 คะแนน เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่เป็น 139.8 คะแนน เมื่อ 1/12/2566 จาก 1/3/2539 ถึง 1/6/2567 ค่าเฉลี่ยของ GDP ใน ชิลี คือ 76.76 คะแนน ค่าสูงสุดตลอดกาลคือวันที่ 1/3/2567 ที่ 147.23 คะแนน ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกไว้เมื่อ 1/9/2539 ที่ 39.02 คะแนน
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ·
แม็กซ์
ตัวคูณ GDP | |
---|---|
1/3/2539 | 39.98 points |
1/6/2539 | 39.41 points |
1/9/2539 | 39.02 points |
1/12/2539 | 40.26 points |
1/3/2540 | 41.86 points |
1/6/2540 | 40.59 points |
1/9/2540 | 40.3 points |
1/12/2540 | 41.24 points |
1/3/2541 | 41.92 points |
1/6/2541 | 40.82 points |
1/9/2541 | 41.04 points |
1/12/2541 | 41.5 points |
1/3/2542 | 42.01 points |
1/6/2542 | 41.34 points |
1/9/2542 | 42.04 points |
1/12/2542 | 43.42 points |
1/3/2543 | 44.11 points |
1/6/2543 | 43.19 points |
1/9/2543 | 44.09 points |
1/12/2543 | 45.16 points |
1/3/2544 | 45.28 points |
1/6/2544 | 45.31 points |
1/9/2544 | 46.32 points |
1/12/2544 | 47.22 points |
1/3/2545 | 47.57 points |
1/6/2545 | 46.47 points |
1/9/2545 | 47.53 points |
1/12/2545 | 48.68 points |
1/3/2546 | 49.42 points |
1/6/2546 | 48.88 points |
1/9/2546 | 49.38 points |
1/12/2546 | 50.75 points |
1/3/2547 | 52.13 points |
1/6/2547 | 52.31 points |
1/9/2547 | 53.58 points |
1/12/2547 | 54.32 points |
1/3/2548 | 56.02 points |
1/6/2548 | 55.74 points |
1/9/2548 | 57.15 points |
1/12/2548 | 58.53 points |
1/3/2549 | 62.41 points |
1/6/2549 | 64.5 points |
1/9/2549 | 64.96 points |
1/12/2549 | 63.79 points |
1/3/2550 | 67.42 points |
1/6/2550 | 67.2 points |
1/9/2550 | 66.82 points |
1/12/2550 | 67.23 points |
1/3/2551 | 69.74 points |
1/6/2551 | 67.69 points |
1/9/2551 | 65.61 points |
1/12/2551 | 66.45 points |
1/3/2552 | 68.87 points |
1/6/2552 | 68.44 points |
1/9/2552 | 69.1 points |
1/12/2552 | 72.55 points |
1/3/2553 | 74.64 points |
1/6/2553 | 73.41 points |
1/9/2553 | 76.64 points |
1/12/2553 | 78.92 points |
1/3/2554 | 79.98 points |
1/6/2554 | 77.24 points |
1/9/2554 | 77.37 points |
1/12/2554 | 79.17 points |
1/3/2555 | 80.04 points |
1/6/2555 | 77.65 points |
1/9/2555 | 78.02 points |
1/12/2555 | 80.41 points |
1/3/2556 | 80.93 points |
1/6/2556 | 79.35 points |
1/9/2556 | 80.45 points |
1/12/2556 | 82.51 points |
1/3/2557 | 85.12 points |
1/6/2557 | 84.11 points |
1/9/2557 | 85.2 points |
1/12/2557 | 87.71 points |
1/3/2558 | 90.52 points |
1/6/2558 | 88.37 points |
1/9/2558 | 89.39 points |
1/12/2558 | 90.89 points |
1/3/2559 | 94.21 points |
1/6/2559 | 91.77 points |
1/9/2559 | 93.69 points |
1/12/2559 | 95.85 points |
1/3/2560 | 97.85 points |
1/6/2560 | 97 points |
1/9/2560 | 98.71 points |
1/12/2560 | 100.06 points |
1/3/2561 | 101.02 points |
1/6/2561 | 98.59 points |
1/9/2561 | 99.64 points |
1/12/2561 | 100.72 points |
1/3/2562 | 103.04 points |
1/6/2562 | 100.49 points |
1/9/2562 | 101.75 points |
1/12/2562 | 104.95 points |
1/3/2563 | 108.76 points |
1/6/2563 | 112.01 points |
1/9/2563 | 112.36 points |
1/12/2563 | 116.58 points |
1/3/2564 | 119.12 points |
1/6/2564 | 117.33 points |
1/9/2564 | 120.57 points |
1/12/2564 | 123.59 points |
1/3/2565 | 127.24 points |
1/6/2565 | 125.45 points |
1/9/2565 | 131.16 points |
1/12/2565 | 135.02 points |
1/3/2566 | 139.5 points |
1/6/2566 | 136.28 points |
1/9/2566 | 137.69 points |
1/12/2566 | 139.8 points |
1/3/2567 | 147.23 points |
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 147.23 คะแนน |
1/12/2566 | 139.8 คะแนน |
1/9/2566 | 137.69 คะแนน |
1/6/2566 | 136.28 คะแนน |
1/3/2566 | 139.5 คะแนน |
1/12/2565 | 135.02 คะแนน |
1/9/2565 | 131.16 คะแนน |
1/6/2565 | 125.45 คะแนน |
1/3/2565 | 127.24 คะแนน |
1/12/2564 | 123.59 คะแนน |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇨🇱 CPI Transport | 101.75 points | 102.04 points | รายเดือน |
🇨🇱 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | 18.5 % | 12.6 % | รายเดือน |
🇨🇱 เงินเฟ้อด้านอาหาร | 3.6 % | 5.2 % | รายเดือน |
🇨🇱 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 104.54 points | 104.45 points | รายเดือน |
🇨🇱 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน | 102.69 points | 102.38 points | รายเดือน |
🇨🇱 ต้นทุนการผลิต | 171.21 points | 169.25 points | รายเดือน |
🇨🇱 ราคานำเข้า | 108.722 points | 111.599 points | ควอร์เตอร์ |
🇨🇱 ราคาส่งออก | 132.3 points | 135.4 points | ควอร์เตอร์ |
🇨🇱 อัตราเงินเฟ้อ | 4.1 % | 4 % | รายเดือน |
🇨🇱 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 0.7 % | -0.1 % | รายเดือน |
🇨🇱 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | 3.22 % | 3.3 % | รายเดือน |
🇨🇱 อัตราเงินเฟ้อหลัก MoM | 0.3 % | 0.3 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร ตัวคูณจีดีพี (GDP)
GDP Deflator (ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดที่ถูกใช้ในวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้วัดเชิงตัวเลขที่ช่วยให้เราสามารถประเมินแนวโน้มของราคาและราคาเงินเฟ้อได้ โดยการแยกปัจจัยที่เป็นปริมาณการผลิตออกจากปัจจัยที่เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ และวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของทุกสินค้าภายในประเทศเรื่องนี้มีความหมายอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากสามารถช่วยให้ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงนักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในภาคการศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณหนึ่งของเงินเฟ้อ เนื่องจากหากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น GDP Deflator นั้นไม่เหมือนกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เนื่องจากมันไม่จำกัดแค่รายการของสินค้าหรือบริการที่ถูกกำหนดในตะกร้าสินค้า แต่จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าทุกประเภทที่ถูกผลิตภายในประเทศดังนั้น มันจึงให้ภาพที่ครอบคลุมมากกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาในภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในภาพรวม การคำนวน GDP Deflator ทำนั้นเรียบง่ายในทางทฤษฎี โดยเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของการคำนวณนี้แสดงผ่านสมการ GDP Deflator = (nGDP / rGDP) * 100 ซึ่ง nGDP (Nominal GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเรียลมูลค่าปัจจุบันที่ยังไม่ได้ ปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อ ส่วน rGDP (Real GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ถูกปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อสมการนี้ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ความสำคัญของ GDP Deflator นั้นไม่สามารถประมาทได้ แน่นอนเราสามารถนำดัชนีนี้มาใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวและระยะสั้น ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยทั่วไปดัชนีนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบระดับราคาของแต่ละช่วงเวลาสร้างความชัดเจนในการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามีแนวโน้มและสถานการณ์ที่เป็นอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน รวมไปถึงนักลงทุน จะใช้ GDP Deflator เพื่อวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดได้ดียิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาวอาจจะมองหาสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้เนื่องจากมันสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงขึ้นหรือมีความเสถียรและชัดเจนขึ้น แต่ในทางกลับกันหาก GDP Deflator ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบทางลบในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ นอกจากนี้การวิเคราะห์ GDP Deflator ยังช่วยให้สามารถประเมินความสามารถในการบริโภคของประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้สามารถสื่อถึงว่าประชาชนอาจจะมีความสามารถในการบริโภคน้อยลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของความต้องการสินค้าบางประเภท สิ่งนี้ยังมีผลกระทบต่อการวางแผนการผลิตและการบริหารจัดการของธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ตามไปด้วย ในทำนองเดียวกัน GDP Deflator ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ จะต้องพิจารณาถึงดัชนีนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายในแต่ละระดับมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจดัชนี GDP Deflator และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจและความระมัดระวังในการประมวลผล เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นระบบที่มีความซับซ้อนการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและครบถ้วนมีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนของสังคม เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ