ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร โมซัมบิก เงินเฟ้ออาหาร
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของเงินเฟ้ออาหารในโมซัมบิกคือ5.28% เงินเฟ้ออาหารในโมซัมบิกเพิ่มขึ้นเป็น5.28%เมื่อวันที่1/4/2567 หลังจากเคยเป็น4.94%เมื่อวันที่1/3/2567 ตั้งแต่1/1/2551ถึง1/5/2567 GDP เฉลี่ยในโมซัมบิกอยู่ที่10.4% ค่า GDP สูงสุดตลอดกาลถูกทำสถิติเมื่อวันที่1/9/2559ที่40.33% ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่1/1/2561ที่-4.36%
เงินเฟ้ออาหาร ·
แม็กซ์
เงินเฟ้อด้านอาหาร | |
---|---|
1/1/2551 | 16.8 % |
1/2/2551 | 18 % |
1/3/2551 | 18.2 % |
1/4/2551 | 18 % |
1/5/2551 | 17.4 % |
1/6/2551 | 18.6 % |
1/7/2551 | 20.5 % |
1/8/2551 | 20.3 % |
1/9/2551 | 21.4 % |
1/10/2551 | 20.7 % |
1/11/2551 | 19.9 % |
1/12/2551 | 16.5 % |
1/1/2552 | 15.9 % |
1/2/2552 | 12.4 % |
1/3/2552 | 11.7 % |
1/4/2552 | 10.3 % |
1/5/2552 | 7.9 % |
1/6/2552 | 6.7 % |
1/7/2552 | 5.5 % |
1/8/2552 | 3.8 % |
1/9/2552 | 3 % |
1/10/2552 | 2.4 % |
1/11/2552 | 2.4 % |
1/12/2552 | 3.5 % |
1/1/2553 | 5.4 % |
1/2/2553 | 8.5 % |
1/3/2553 | 9.4 % |
1/4/2553 | 11.3 % |
1/5/2553 | 16 % |
1/6/2553 | 18.6 % |
1/7/2553 | 18.9 % |
1/8/2553 | 18.8 % |
1/9/2553 | 18.7 % |
1/10/2553 | 18.5 % |
1/11/2553 | 18.9 % |
1/12/2553 | 21.7 % |
1/1/2554 | 20 % |
1/2/2554 | 18.4 % |
1/3/2554 | 16.7 % |
1/4/2554 | 15.5 % |
1/5/2554 | 13.9 % |
1/6/2554 | 11.5 % |
1/7/2554 | 11.3 % |
1/8/2554 | 12.5 % |
1/9/2554 | 11.7 % |
1/10/2554 | 11.3 % |
1/11/2554 | 9.9 % |
1/12/2554 | 7.1 % |
1/1/2555 | 4.9 % |
1/2/2555 | 3 % |
1/3/2555 | 4.1 % |
1/4/2555 | 3.6 % |
1/5/2555 | 2.6 % |
1/6/2555 | 2.7 % |
1/7/2555 | 2.6 % |
1/8/2555 | 2 % |
1/9/2555 | 2.5 % |
1/10/2555 | 3.1 % |
1/11/2555 | 3.9 % |
1/12/2555 | 2.5 % |
1/1/2556 | 4.3 % |
1/2/2556 | 6.5 % |
1/3/2556 | 6.2 % |
1/4/2556 | 6.6 % |
1/5/2556 | 6.5 % |
1/6/2556 | 6.1 % |
1/7/2556 | 5.3 % |
1/8/2556 | 4.8 % |
1/9/2556 | 5 % |
1/10/2556 | 4.8 % |
1/11/2556 | 4.3 % |
1/12/2556 | 3.8 % |
1/1/2557 | 3.4 % |
1/2/2557 | 2.2 % |
1/3/2557 | 3.7 % |
1/4/2557 | 4.1 % |
1/5/2557 | 4.5 % |
1/6/2557 | 4.6 % |
1/7/2557 | 5.3 % |
1/8/2557 | 4.5 % |
1/9/2557 | 3.7 % |
1/10/2557 | 3.6 % |
1/11/2557 | 3.2 % |
1/12/2557 | 3.2 % |
1/1/2558 | 5.1 % |
1/2/2558 | 7.4 % |
1/3/2558 | 5.5 % |
1/4/2558 | 2.6 % |
1/5/2558 | 1.1 % |
1/6/2558 | 1 % |
1/7/2558 | 0.6 % |
1/8/2558 | 2.2 % |
1/9/2558 | 3.1 % |
1/10/2558 | 7.1 % |
1/11/2558 | 9.5 % |
1/12/2558 | 17.5 % |
1/1/2559 | 18 % |
1/2/2559 | 19.4 % |
1/3/2559 | 22.1 % |
1/4/2559 | 30.1 % |
1/5/2559 | 31.9 % |
1/6/2559 | 34.1 % |
1/7/2559 | 35.84 % |
1/8/2559 | 36.65 % |
1/9/2559 | 40.33 % |
1/10/2559 | 38.97 % |
1/11/2559 | 38.72 % |
1/12/2559 | 34.55 % |
1/1/2560 | 31.42 % |
1/2/2560 | 29.02 % |
1/3/2560 | 26.36 % |
1/4/2560 | 23.24 % |
1/5/2560 | 21.31 % |
1/6/2560 | 17.36 % |
1/7/2560 | 14.15 % |
1/8/2560 | 11.6 % |
1/9/2560 | 7.97 % |
1/10/2560 | 4.1 % |
1/11/2560 | 0.35 % |
1/6/2561 | 0.29 % |
1/7/2561 | 1.46 % |
1/8/2561 | 2.91 % |
1/9/2561 | 2.64 % |
1/10/2561 | 2.61 % |
1/11/2561 | 2.35 % |
1/12/2561 | 1.82 % |
1/1/2562 | 2.61 % |
1/2/2562 | 3.23 % |
1/3/2562 | 4.04 % |
1/4/2562 | 3.79 % |
1/5/2562 | 3.03 % |
1/6/2562 | 3.3 % |
1/7/2562 | 1.63 % |
1/8/2562 | 1.5 % |
1/9/2562 | 2.94 % |
1/10/2562 | 4.27 % |
1/11/2562 | 5.81 % |
1/12/2562 | 8.41 % |
1/1/2563 | 8.68 % |
1/2/2563 | 7.7 % |
1/3/2563 | 6.37 % |
1/4/2563 | 6.77 % |
1/5/2563 | 7.14 % |
1/6/2563 | 6.98 % |
1/7/2563 | 9.11 % |
1/8/2563 | 9.66 % |
1/9/2563 | 9.03 % |
1/10/2563 | 8.62 % |
1/11/2563 | 8.6 % |
1/12/2563 | 8.71 % |
1/1/2564 | 9.57 % |
1/2/2564 | 12.75 % |
1/3/2564 | 14.13 % |
1/4/2564 | 13.4 % |
1/5/2564 | 11.96 % |
1/6/2564 | 11.82 % |
1/7/2564 | 11.01 % |
1/8/2564 | 10.67 % |
1/9/2564 | 11.5 % |
1/10/2564 | 12.01 % |
1/11/2564 | 10.82 % |
1/12/2564 | 10.44 % |
1/1/2565 | 10.97 % |
1/2/2565 | 8.29 % |
1/3/2565 | 7.87 % |
1/4/2565 | 10.89 % |
1/5/2565 | 14.63 % |
1/6/2565 | 17.05 % |
1/7/2565 | 18.97 % |
1/8/2565 | 18.94 % |
1/9/2565 | 18.28 % |
1/10/2565 | 16.49 % |
1/11/2565 | 17 % |
1/12/2565 | 16.32 % |
1/1/2566 | 14.22 % |
1/2/2566 | 14.86 % |
1/3/2566 | 15.94 % |
1/4/2566 | 15.06 % |
1/5/2566 | 12.53 % |
1/6/2566 | 10.67 % |
1/7/2566 | 9.21 % |
1/8/2566 | 8.44 % |
1/9/2566 | 7.61 % |
1/10/2566 | 7.87 % |
1/11/2566 | 7.83 % |
1/12/2566 | 6.16 % |
1/1/2567 | 7.05 % |
1/2/2567 | 6.89 % |
1/3/2567 | 4.94 % |
1/4/2567 | 5.28 % |
เงินเฟ้ออาหาร ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/4/2567 | 5.28 % |
1/3/2567 | 4.94 % |
1/2/2567 | 6.89 % |
1/1/2567 | 7.05 % |
1/12/2566 | 6.16 % |
1/11/2566 | 7.83 % |
1/10/2566 | 7.87 % |
1/9/2566 | 7.61 % |
1/8/2566 | 8.44 % |
1/7/2566 | 9.21 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ เงินเฟ้ออาหาร
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇲🇿 CPI Transport | 100.96 points | 101.02 points | รายเดือน |
🇲🇿 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 102.95 points | 103.34 points | รายเดือน |
🇲🇿 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 101.7 points | 101.33 points | รายเดือน |
🇲🇿 ต้นทุนการผลิต | 141.1 points | 139.2 points | รายเดือน |
🇲🇿 อัตราเงินเฟ้อ | 3.07 % | 3.3 % | รายเดือน |
🇲🇿 อัตราเงินเฟ้อ MoM | -0.38 % | 0.4 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา
- 🇩🇿แอลจีเรีย
- 🇦🇴แองโกลา
- 🇧🇯เบนิน
- 🇧🇼บอตสวานา
- 🇧🇫บูร์กินาฟาโซ
- 🇧🇮บุรุนดี
- 🇨🇲กาเมอรูน
- 🇨🇻คาบูเวิร์เด
- 🇨🇫สาธารณรัฐแอฟริกากลาง
- 🇹🇩ชาด
- 🇰🇲โคมอรอส
- 🇨🇬คองโก
- 🇿🇦แอฟริกาใต้
- 🇩🇯จิบูตี
- 🇪🇬อียิปต์
- 🇬🇶อิเควทอเรียลกินี
- 🇪🇷เอริเทรีย
- 🇪🇹เอธิโอเปีย
- 🇬🇦กาบอง
- 🇬🇲แกมเบีย
- 🇬🇭กานา
- 🇬🇳กินี
- 🇬🇼กินี-บิสเซา
- 🇨🇮ไอวอรีโคสต์
- 🇰🇪เคนยา
- 🇱🇸เลโซโท
- 🇱🇷ไลบีเรีย
- 🇱🇾ลิเบีย
- 🇲🇬มาดากัสการ์
- 🇲🇼มาลาวี
- 🇲🇱มาลี
- 🇲🇷มอริเตเนีย
- 🇲🇺มอริเชียส
- 🇲🇦โมร็อกโก
- 🇳🇦นามิเบีย
- 🇳🇪ไนเจอร์
- 🇳🇬ไนจีเรีย
- 🇷🇼รวันดา
- 🇸🇹เซาตูเมและปรินซิปี
- 🇸🇳เซเนกัล
- 🇸🇨เซเชล
- 🇸🇱เซียร์ราลีโอน
- 🇸🇴โซมาเลีย
- ซูดานใต้
- 🇸🇩ซูดาน
- 🇸🇿สวาซิแลนด์
- 🇹🇿แทนซาเนีย
- 🇹🇬โตโก
- 🇹🇳ตูนิเซีย
- 🇺🇬ยูกันดา
- 🇿🇲แซมเบีย
- 🇿🇼ซิมบับเว
คืออะไร เงินเฟ้ออาหาร
ฟู้ดอินเฟลชัน หรืออัตราเงินเฟ้อในภาคอาหาร เป็นประเด็นที่มีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomics) โดยเฉพาะในเว็บไซต์แบบมืออาชีพอย่าง Eulerpool ซึ่งเรามุ่งเน้นการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ถูกต้องและทันสมัย ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจและวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ในบทความนี้ เราจะแนะนำและอธิบายถึงฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ฟู้ดอินเฟลชัน หมายถึงการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในภาคอาหารเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) การขาดแคลนวัตถุดิบ ภัยธรรมชาติ และการปรับตัวของกำลังการผลิต อุปสงค์และอุปทานในตลาด เป็นที่รู้กันดีว่าภาคอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักในการวัดฟู้ดอินเฟลชัน ดังนั้น อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในหมวดอาหารจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อระดับราคาสินค้าและบริการทั้งหมดในสังคม หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ติดตามและรายงานฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยคือตารางดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์ โดยอีกส่วนหนึ่งของข้อมูลนั้นยังมาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Statistical Office) ซึ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลและทำการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การวัดอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจะใช้สถิติจากหลายหมวดหมู่ ยกตัวอย่างเช่น ราคาข้าวและเมล็ดพืช ราคาผักและผลไม้ และราคาผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นต้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ภัยธรรมชาติที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ปัญหาการขนส่งสินค้า การเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบที่นำเข้า และการปรับตัวของระบบซับพลายเชน (Supply Chain) ในภาคอาหาร ยกตัวอย่างเช่น ปีที่ผ่านมา ราคาข้าวที่เป็นสินค้าที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย ได้เพิ่มขึ้นกว่า 10% เนื่องจากปัญหาการเก็บเกี่ยวที่ไม่สมบูรณ์และการลดลงของพื้นที่เพาะปลูก ขณะเดียวกัน ราคาผักและผลไม้ก็เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7-8% เนื่องจากภาวะภัยแล้งและอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ปัญหาฟู้ดอินเฟลชันมีผลกระทบต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต ฝ่ายผู้บริโภคมักจะพบกับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าในภาคอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องปรับการใช้ชีวิตและการตัดสินใจในการจับจ่ายใช้สอย ขณะเดียวกัน ฝ่ายผู้ผลิตก็ต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งอาจะทำให้พวกเขาต้องหาวิธีการลดต้นทุนหรือปรับตัวในการผลิตเพื่อความอยู่รอด ความสำคัญของการติดตามและวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจึงไม่สามารถมองข้ามได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ในการติดตามฟู้ดอินเฟลชัน หน่วยงานต่างๆ และภาคธุรกิจมักใช้เครื่องมือและดัชนีต่างๆ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดทั่วไปที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในดัชนีนี้ มีการแบ่งแยกข้อมูลเป็นหมวดหมู่อย่างละเอียด เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ยารักษาโรค เสื้อผ้า และเครื่องพักอาศัย ซึ่งหมวดอาหารก็จะมีการรายงานแยกย่อยเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นความแปรปรวนของราคาที่ชัดเจนขึ้น การเข้าใจฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายการเงินและการคลังของประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับเงินเฟ้อ โดยการปรับนโยบายดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การทราบข้อมูลเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจึงเป็นส่วนสำคัญในการทำให้การดำเนินนโยบายมีประสิทธิภาพ สุดท้ายนี้ ความรู้เกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การทราบถึงสาเหตุและผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารสามารถช่วยให้คุณสามารถรับมือและวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยเป็นหัวข้อที่ต้องการความสนใจและการวิเคราะห์อย่างละเอียด ด้วยความสำคัญที่มีผลกระทบต่อทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจะช่วยให้คุณสามารถประเมินสถานการณ์และเตรียมตัวในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ดีขึ้น ทาง Eulerpool เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เป็นที่น้ำหนึงใจเดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ