ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇦🇹

ออสเตรีย อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

3.4 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-0.1 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-2.90 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน ออสเตรีย คือ 3.4 % อัตราเงินเฟ้อ ใน ออสเตรีย ลดลงถึง 3.4 % เมื่อ 1/5/2567 หลังจากที่เคยเป็น 3.5 % เมื่อ 1/4/2567 จาก 1/1/2501 ถึง 1/6/2567 GDP เฉลี่ยใน ออสเตรีย อยู่ที่ 3.33 % สถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่เมื่อ 1/1/2566 ที่ 11.2 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดจดบันทึกไว้เมื่อ 1/3/2502 ที่ -3 %

แหล่งที่มา: Statistics Austria

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/5/25673.4 %
1/4/25673.5 %
1/3/25674.1 %
1/2/25674.1 %
1/1/25674.6 %
1/12/25665.6 %
1/11/25665.3 %
1/10/25665.4 %
1/9/25666 %
1/8/25667.4 %
1
2
3
4
5
...
79

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇦🇹
CPI Transport
125.1 points127.2 pointsรายเดือน
🇦🇹
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
-3.5 %-4.8 %รายเดือน
🇦🇹
เงินเฟ้อด้านอาหาร
2.17 %1.36 %รายเดือน
🇦🇹
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
123.9 points123.8 pointsรายเดือน
🇦🇹
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว
134.4 points134.3 pointsรายเดือน
🇦🇹
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
132.7 points132.5 pointsรายเดือน
🇦🇹
ต้นทุนการผลิต
116.9 points117.1 pointsรายเดือน
🇦🇹
ตัวคูณ GDP
128.63 points126.51 pointsควอร์เตอร์
🇦🇹
ราคาขายส่ง
130 points131 pointsรายเดือน
🇦🇹
อัตราการเปลี่ยนแปลงราคาขายส่งเดือนต่อเดือน
-0.8 %0.5 %รายเดือน
🇦🇹
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.3 %-0.08 %รายเดือน
🇦🇹
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY
2.9 %3.1 %รายเดือน
🇦🇹
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน
0.4 %0.3 %รายเดือน
🇦🇹
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
-0.2 %0.2 %รายเดือน
🇦🇹
อัตราเงินเฟ้อรายปีของราคาขายส่ง
-3.1 %-1.2 %รายเดือน

ในออสเตรีย หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคคือที่อยู่อาศัยและค่าสาธารณูปโภค (คิดเป็น 19 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด) การคมนาคมขนส่งคิดเป็น 14 เปอร์เซ็นต์; ร้านอาหารและโรงแรม 13 เปอร์เซ็นต์; การพักผ่อนและวัฒนธรรม 11 เปอร์เซ็นต์; อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ 11 เปอร์เซ็นต์ และ สินค้าและบริการเบ็ดเตล็ด 9 เปอร์เซ็นต์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ; เสื้อผ้าและรองเท้า; สินค้าในครัวเรือน; สุขภาพ; การสื่อสาร และการศึกษา คิดเป็นส่วนที่เหลือ 23 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ