ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇳🇱

เนเธอร์แลนด์ อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

2.7 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน เนเธอร์แลนด์ คือ 2.7 % อัตราเงินเฟ้อ ใน เนเธอร์แลนด์ ลดลงถึง 2.7 % เมื่อ 1/5/2567 หลังจากที่เคยเป็น 2.7 % เมื่อ 1/4/2567 จาก 1/1/2514 ถึง 1/6/2567 GDP เฉลี่ยใน เนเธอร์แลนด์ อยู่ที่ 3.3 % สถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่เมื่อ 1/9/2565 ที่ 14.5 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดจดบันทึกไว้เมื่อ 1/2/2530 ที่ -1.3 %

แหล่งที่มา: Statistics Netherlands

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/5/25672.7 %
1/4/25672.7 %
1/3/25673.1 %
1/2/25672.8 %
1/1/25673.2 %
1/12/25661.2 %
1/11/25661.6 %
1/9/25660.2 %
1/8/25663 %
1/7/25664.6 %
1
2
3
4
5
...
62

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇳🇱
CPI Transport
131.45 points135.48 pointsรายเดือน
🇳🇱
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
0.4 %0 %รายเดือน
🇳🇱
เงินเฟ้อค่าเช่า
5.4 %5.4 %รายเดือน
🇳🇱
เงินเฟ้อด้านอาหาร
2.2 %1.7 %รายเดือน
🇳🇱
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
131.61 points132.24 pointsรายเดือน
🇳🇱
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว
131.85 points131.47 pointsรายเดือน
🇳🇱
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
134.09 points134.05 pointsรายเดือน
🇳🇱
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
125.66 points126.19 pointsรายเดือน
🇳🇱
ต้นทุนการผลิต
119.7 points119.8 pointsรายเดือน
🇳🇱
ตัวคูณ GDP
135.31 points134.59 pointsควอร์เตอร์
🇳🇱
ราคานำเข้า
120.4 points118.2 pointsรายเดือน
🇳🇱
ราคาส่งออก
118.6 points118.6 pointsรายเดือน
🇳🇱
อัตราเงินเฟ้อ MoM
-0.5 %0.3 %รายเดือน
🇳🇱
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY
3.4 %2.7 %รายเดือน
🇳🇱
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน
0.3 %1.1 %รายเดือน
🇳🇱
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
3.9 %3.8 %รายเดือน

ในประเทศเนเธอร์แลนด์ หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคได้แก่ ที่อยู่อาศัย น้ำ ไฟฟ้าและแก๊ส (24.5 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวม); การขนส่ง (11.6 เปอร์เซ็นต์) และ อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (11.3 เปอร์เซ็นต์) นอกจากนี้ดัชนียังรวมถึง การสันทนาการและวัฒนธรรม (10.3 เปอร์เซ็นต์); เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ในครัวเรือน (6 เปอร์เซ็นต์); เสื้อผ้าและรองเท้า (4.9 เปอร์เซ็นต์); โรงแรมและร้านอาหาร (4.2 เปอร์เซ็นต์); การสื่อสาร (3.3 เปอร์เซ็นต์) และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ (3.1 เปอร์เซ็นต์) สุขภาพ การศึกษา และสินค้าและบริการอื่นๆคิดเป็นน้ำหนักรวมที่เหลืออีก 20.8 เปอร์เซ็นต์

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ