ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ชิลี หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ราคา
ค่า ปัจจุบันของ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน ชิลี คือ 46.3 % of GDP หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน ชิลี เพิ่มขึ้นเป็น 46.3 % of GDP เมื่อ 1/12/2566 หลังจากที่เป็น 45.9 % of GDP เมื่อ 1/9/2566 จาก 1/12/2545 ถึง 1/3/2567, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศโดยเฉลี่ยใน ชิลี คือ 36.7 % of GDP จุดสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/9/2563 ด้วย 48.8 % of GDP ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/12/2545 ด้วย 22.6 % of GDP
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ·
แม็กซ์
หนี้สินของครัวเรือนต่อ GDP | |
---|---|
1/12/2545 | 22.6 % of GDP |
1/3/2546 | 22.9 % of GDP |
1/6/2546 | 23 % of GDP |
1/9/2546 | 23.1 % of GDP |
1/12/2546 | 23.5 % of GDP |
1/3/2547 | 24.4 % of GDP |
1/6/2547 | 24.6 % of GDP |
1/9/2547 | 24.9 % of GDP |
1/12/2547 | 25.2 % of GDP |
1/3/2548 | 25.1 % of GDP |
1/6/2548 | 25.3 % of GDP |
1/9/2548 | 25.8 % of GDP |
1/12/2548 | 26.3 % of GDP |
1/3/2549 | 26.3 % of GDP |
1/6/2549 | 26 % of GDP |
1/9/2549 | 26.3 % of GDP |
1/12/2549 | 26.4 % of GDP |
1/3/2550 | 26.7 % of GDP |
1/6/2550 | 27.3 % of GDP |
1/9/2550 | 28.2 % of GDP |
1/12/2550 | 29 % of GDP |
1/3/2551 | 29.5 % of GDP |
1/6/2551 | 30.5 % of GDP |
1/9/2551 | 31.7 % of GDP |
1/12/2551 | 32.7 % of GDP |
1/3/2552 | 33 % of GDP |
1/6/2552 | 33.4 % of GDP |
1/9/2552 | 33.7 % of GDP |
1/12/2552 | 34 % of GDP |
1/3/2553 | 33.6 % of GDP |
1/6/2553 | 33.3 % of GDP |
1/9/2553 | 32.8 % of GDP |
1/12/2553 | 32.6 % of GDP |
1/3/2554 | 32.3 % of GDP |
1/6/2554 | 32.5 % of GDP |
1/9/2554 | 33 % of GDP |
1/12/2554 | 33.8 % of GDP |
1/3/2555 | 34.3 % of GDP |
1/6/2555 | 34.6 % of GDP |
1/9/2555 | 34.7 % of GDP |
1/12/2555 | 35.3 % of GDP |
1/3/2556 | 35.7 % of GDP |
1/6/2556 | 36.1 % of GDP |
1/9/2556 | 36.6 % of GDP |
1/12/2556 | 37.3 % of GDP |
1/3/2557 | 37.8 % of GDP |
1/6/2557 | 38.4 % of GDP |
1/9/2557 | 38.6 % of GDP |
1/12/2557 | 39.4 % of GDP |
1/3/2558 | 39.4 % of GDP |
1/6/2558 | 39.8 % of GDP |
1/9/2558 | 40.3 % of GDP |
1/12/2558 | 41.3 % of GDP |
1/3/2559 | 41.5 % of GDP |
1/6/2559 | 41.9 % of GDP |
1/9/2559 | 42 % of GDP |
1/12/2559 | 42.4 % of GDP |
1/3/2560 | 43 % of GDP |
1/6/2560 | 43.3 % of GDP |
1/9/2560 | 43.4 % of GDP |
1/12/2560 | 43.8 % of GDP |
1/3/2561 | 43.9 % of GDP |
1/6/2561 | 44.3 % of GDP |
1/9/2561 | 44.9 % of GDP |
1/12/2561 | 45.9 % of GDP |
1/3/2562 | 46.3 % of GDP |
1/6/2562 | 47.1 % of GDP |
1/9/2562 | 47.6 % of GDP |
1/12/2562 | 48.1 % of GDP |
1/3/2563 | 48.3 % of GDP |
1/6/2563 | 48.7 % of GDP |
1/9/2563 | 48.8 % of GDP |
1/12/2563 | 48.4 % of GDP |
1/3/2564 | 48.1 % of GDP |
1/6/2564 | 46.6 % of GDP |
1/9/2564 | 45.2 % of GDP |
1/12/2564 | 44.9 % of GDP |
1/3/2565 | 44.7 % of GDP |
1/6/2565 | 45.3 % of GDP |
1/9/2565 | 45.6 % of GDP |
1/12/2565 | 46.3 % of GDP |
1/3/2566 | 46.2 % of GDP |
1/6/2566 | 46 % of GDP |
1/9/2566 | 45.9 % of GDP |
1/12/2566 | 46.3 % of GDP |
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 46.3 % of GDP |
1/9/2566 | 45.9 % of GDP |
1/6/2566 | 46 % of GDP |
1/3/2566 | 46.2 % of GDP |
1/12/2565 | 46.3 % of GDP |
1/9/2565 | 45.6 % of GDP |
1/6/2565 | 45.3 % of GDP |
1/3/2565 | 44.7 % of GDP |
1/12/2564 | 44.9 % of GDP |
1/9/2564 | 45.2 % of GDP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇨🇱 การใช้จ่ายของผู้บริโภค | 31.907 ชีวภาพ. CLP | 31.626 ชีวภาพ. CLP | ควอร์เตอร์ |
🇨🇱 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค | 30.4 points | 31.4 points | รายเดือน |
🇨🇱 เครดิตของภาคเอกชน | 227.112 ชีวภาพ. CLP | 227.567 ชีวภาพ. CLP | รายเดือน |
🇨🇱 ยอดขายปลีกเดือนต่อเดือnego | 0.4 % | 0.8 % | รายเดือน |
🇨🇱 ยอดขายปลีกประจำปี | 7.9 % | 1.2 % | รายเดือน |
🇨🇱 ราคาน้ำมันเบนซิน | 1.57 USD/Liter | 1.42 USD/Liter | รายเดือน |
🇨🇱 สินเชื่อบุคคล | 29.414 ชีวภาพ. CLP | 29.402 ชีวภาพ. CLP | รายเดือน |
🇨🇱 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร | 9.66 % | 10.06 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP (Households Debt to GDP) เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งใช้ในการวิเคราะห์ระดับหนี้สินของครัวเรือนในแต่ละประเทศเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP หนี้สินครัวเรือนหมายถึงการติดหนี้ทั้งหลายของครัวเรือนเช่นการกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน การกู้ยืมเพื่อการบริโภค และบัตรเครดิต เปรียบเทียบกับผลผลิตทั้งหมดในเชิงเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งๆ ในภาพรวม การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนเมื่อเทียบกับ GDP อาจเป็นสัญญาณของหลายสิ่งหลายอย่างทั้งดีและไม่ดี สำหรับประเด็นดี การมีหนี้สินในระดับที่เหมาะสมสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจด้วยการสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าทุน เช่น บ้านและรถยนต์ หรือการบริโภคในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตาม การมีหนี้สินครัวเรือนสูงเมื่อเทียบกับ GDP อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโดยรวม ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนอาจลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินและการบริโภคสาธารณะ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เนื่องจากครัวเรือนมีภาระหนี้สินที่สูงเกินไป การวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ประการแรกคือระดับรายได้ของครัวเรือน หากรายได้ของครัวเรือนสูง การมีหนี้สินที่สูงก็อาจไม่เป็นปัญหาเท่าไร ประการที่สองคืออัตราดอกเบี้ย การกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำอาจทำให้ภาระหนี้สินของครัวเรือนดูไม่สูงเท่าที่คิด แต่หากอัตราดอกเบี้ยมีการปรับขึ้นภาระการชำระหนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยด้านความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงานและความเสถียรของตลาดแรงงาน หากตลาดแรงงานมีเสถียรภาพสูงและอัตราการว่างงานต่ำ ครัวเรือนจะมีความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้น ซึ่งทำให้หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ไม่เป็นปัญหามากนัก ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจชะลอตัวหรือมีความไม่แน่นอนสูง ครัวเรือนอาจพบว่าการชำระหนี้เป็นภาระหนักขึ้น ภายในบริบทของประเทศไทย ข้อมูลเรื่องหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนในอดีตแสดงให้เห็นถึงความต้องการการบริโภคและการกู้ยืมเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ทุน เช่นที่อยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงหากครัวเรือนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด หนี้สินครัวเรือนที่สูงอาจทำให้ครัวเรือนลดทอนการบริโภค ซึ่งอาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องมีมาตรการติดตามและควบคุมระดับหนี้สินครัวเรือนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ การดำเนินนโยบายทางการเงิน เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ได้เพื่อลดภาระการชำระหนี้ของครัวเรือน และส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจคือการวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนในเชิงภูมิภาค การเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ในแต่ละภูมิภาคสามารถเปิดเผยถึงแนวโน้มและปัจจัยเฉพาะที่มีผลต่อการกู้ยืม เช่น ค่าครองชีพและมูลค่าทรัพย์สินในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกัน ในยุคดิจิทัล การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึกกลายเป็นเรื่องที่สะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น เว็บไซต์เช่น eulerpool ซึ่งเชี่ยวชาญในการให้ข้อมูลทางแมโครเศรษฐกิจ สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ การที่ข้อมูลนี้สามารถถูกวิเคราะห์และนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายจะช่วยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจสามารถทำการตัดสินใจที่มีพื้นฐานจากข้อมูลที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ การมีความรู้และการเข้าใจในแนวโน้มของหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการเงินและการลงทุนในระดับบุคคล การทำความเข้าใจถึงระดับหนี้สินของครัวเรือนในประเทศจะช่วยให้บุคคลสามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น โดยสรุป หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP เป็นดัชนีที่มีผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย การติดตามระดับหนี้สินครัวเรือน การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบ และการใช้นโยบายทางการเงินที่เหมาะสมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาเสถียรภาพและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและทันสมัยเช่นข้อมูลที่นำเสนอโดย eulerpool จะเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ