ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ประเทศจีน เงินเฟ้ออาหาร
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของเงินเฟ้ออาหารในประเทศจีนคือ1% เงินเฟ้ออาหารในประเทศจีนเพิ่มขึ้นเป็น1%เมื่อวันที่1/5/2566 หลังจากเคยเป็น0.4%เมื่อวันที่1/4/2566 ตั้งแต่1/1/2536ถึง1/7/2567 GDP เฉลี่ยในประเทศจีนอยู่ที่5.38% ค่า GDP สูงสุดตลอดกาลถูกทำสถิติเมื่อวันที่1/10/2537ที่40.2% ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่1/1/2567ที่-5.9%
เงินเฟ้ออาหาร ·
แม็กซ์
เงินเฟ้อด้านอาหาร | |
---|---|
1/1/2536 | 8.3 % |
1/2/2536 | 10.2 % |
1/3/2536 | 9.7 % |
1/4/2536 | 10.8 % |
1/5/2536 | 9.8 % |
1/6/2536 | 11.4 % |
1/7/2536 | 13.4 % |
1/8/2536 | 15.1 % |
1/9/2536 | 15.7 % |
1/10/2536 | 15 % |
1/11/2536 | 15.9 % |
1/12/2536 | 17.5 % |
1/1/2537 | 23.8 % |
1/2/2537 | 28.4 % |
1/3/2537 | 27 % |
1/4/2537 | 25.6 % |
1/5/2537 | 25.3 % |
1/6/2537 | 28.5 % |
1/7/2537 | 32.1 % |
1/8/2537 | 36.5 % |
1/9/2537 | 39.2 % |
1/10/2537 | 40.2 % |
1/11/2537 | 39.7 % |
1/12/2537 | 35.5 % |
1/1/2538 | 35.7 % |
1/2/2538 | 32.1 % |
1/3/2538 | 30.6 % |
1/4/2538 | 30 % |
1/5/2538 | 29.2 % |
1/6/2538 | 25.3 % |
1/7/2538 | 22.2 % |
1/8/2538 | 17.9 % |
1/9/2538 | 16.1 % |
1/10/2538 | 13.9 % |
1/11/2538 | 12 % |
1/12/2538 | 10.1 % |
1/1/2539 | 8.2 % |
1/2/2539 | 9.3 % |
1/3/2539 | 10 % |
1/4/2539 | 10 % |
1/5/2539 | 8.5 % |
1/6/2539 | 7.9 % |
1/7/2539 | 7.8 % |
1/8/2539 | 7.6 % |
1/9/2539 | 5.9 % |
1/10/2539 | 5.7 % |
1/11/2539 | 5.4 % |
1/12/2539 | 5 % |
1/1/2540 | 3.7 % |
1/2/2540 | 3.5 % |
1/3/2540 | 1.2 % |
1/4/2540 | 0.1 % |
1/5/2540 | 0.1 % |
1/4/2544 | 1.3 % |
1/5/2544 | 1.7 % |
1/6/2544 | 1 % |
1/7/2544 | 1.5 % |
1/8/2544 | 0.2 % |
1/9/2544 | 0.3 % |
1/10/2544 | 0.8 % |
1/2/2545 | 0.6 % |
1/12/2545 | 0.5 % |
1/1/2546 | 2.4 % |
1/2/2546 | 1.8 % |
1/3/2546 | 3.2 % |
1/4/2546 | 3.2 % |
1/5/2546 | 1.9 % |
1/6/2546 | 0.4 % |
1/7/2546 | 1 % |
1/8/2546 | 2.2 % |
1/9/2546 | 3.2 % |
1/10/2546 | 5.1 % |
1/11/2546 | 8.1 % |
1/12/2546 | 8.6 % |
1/1/2547 | 8 % |
1/2/2547 | 5.6 % |
1/3/2547 | 7.9 % |
1/4/2547 | 10.2 % |
1/5/2547 | 11.8 % |
1/6/2547 | 14 % |
1/7/2547 | 14.6 % |
1/8/2547 | 13.9 % |
1/9/2547 | 13 % |
1/10/2547 | 10 % |
1/11/2547 | 5.9 % |
1/12/2547 | 4.9 % |
1/1/2548 | 4 % |
1/2/2548 | 8.8 % |
1/3/2548 | 5.6 % |
1/4/2548 | 3.1 % |
1/5/2548 | 2.8 % |
1/6/2548 | 2.1 % |
1/7/2548 | 2.3 % |
1/8/2548 | 0.9 % |
1/9/2548 | 0.3 % |
1/10/2548 | 1.3 % |
1/11/2548 | 1.6 % |
1/12/2548 | 2.2 % |
1/1/2549 | 3.6 % |
1/2/2549 | 1.2 % |
1/3/2549 | 0.8 % |
1/4/2549 | 1.8 % |
1/5/2549 | 1.9 % |
1/6/2549 | 2.1 % |
1/7/2549 | 0.6 % |
1/8/2549 | 1.4 % |
1/9/2549 | 2.4 % |
1/10/2549 | 2.2 % |
1/11/2549 | 3.7 % |
1/12/2549 | 6.3 % |
1/1/2550 | 5 % |
1/2/2550 | 6 % |
1/3/2550 | 7.7 % |
1/4/2550 | 7.1 % |
1/5/2550 | 8.3 % |
1/6/2550 | 11.3 % |
1/7/2550 | 15.4 % |
1/8/2550 | 18.2 % |
1/9/2550 | 16.9 % |
1/10/2550 | 17.6 % |
1/11/2550 | 18.2 % |
1/12/2550 | 16.7 % |
1/1/2551 | 18.2 % |
1/2/2551 | 23.3 % |
1/3/2551 | 21.4 % |
1/4/2551 | 22.1 % |
1/5/2551 | 19.9 % |
1/6/2551 | 17.3 % |
1/7/2551 | 14.4 % |
1/8/2551 | 10.3 % |
1/9/2551 | 9.7 % |
1/10/2551 | 8.5 % |
1/11/2551 | 5.9 % |
1/12/2551 | 4.2 % |
1/1/2552 | 4.2 % |
1/8/2552 | 0.5 % |
1/9/2552 | 1.5 % |
1/10/2552 | 1.6 % |
1/11/2552 | 3.2 % |
1/12/2552 | 5.3 % |
1/1/2553 | 3.7 % |
1/2/2553 | 6.2 % |
1/3/2553 | 5.2 % |
1/4/2553 | 5.9 % |
1/5/2553 | 6.1 % |
1/6/2553 | 5.7 % |
1/7/2553 | 6.8 % |
1/8/2553 | 7.5 % |
1/9/2553 | 8 % |
1/10/2553 | 10.1 % |
1/11/2553 | 11.7 % |
1/12/2553 | 9.6 % |
1/1/2554 | 10.3 % |
1/2/2554 | 11 % |
1/3/2554 | 11.7 % |
1/4/2554 | 11.5 % |
1/5/2554 | 11.7 % |
1/6/2554 | 14.4 % |
1/7/2554 | 14.8 % |
1/8/2554 | 13.4 % |
1/9/2554 | 13.4 % |
1/10/2554 | 11.9 % |
1/11/2554 | 8.8 % |
1/12/2554 | 9.1 % |
1/1/2555 | 10.5 % |
1/2/2555 | 6.2 % |
1/3/2555 | 7.5 % |
1/4/2555 | 7 % |
1/5/2555 | 6.4 % |
1/6/2555 | 3.8 % |
1/7/2555 | 2.4 % |
1/8/2555 | 3.4 % |
1/9/2555 | 2.5 % |
1/10/2555 | 1.8 % |
1/11/2555 | 2.96 % |
1/12/2555 | 4.25 % |
1/1/2556 | 2.88 % |
1/2/2556 | 5.99 % |
1/3/2556 | 2.68 % |
1/4/2556 | 4 % |
1/5/2556 | 3.23 % |
1/6/2556 | 4.93 % |
1/7/2556 | 5.02 % |
1/8/2556 | 4.73 % |
1/9/2556 | 6.1 % |
1/10/2556 | 6.55 % |
1/11/2556 | 5.9 % |
1/12/2556 | 4.1 % |
1/1/2557 | 3.7 % |
1/2/2557 | 2.7 % |
1/3/2557 | 4.1 % |
1/4/2557 | 2.3 % |
1/5/2557 | 4.1 % |
1/6/2557 | 3.7 % |
1/7/2557 | 3.6 % |
1/8/2557 | 3 % |
1/9/2557 | 2.3 % |
1/10/2557 | 2.5 % |
1/11/2557 | 2.3 % |
1/12/2557 | 2.9 % |
1/1/2558 | 1.1 % |
1/2/2558 | 2.4 % |
1/3/2558 | 2.3 % |
1/4/2558 | 2.7 % |
1/5/2558 | 1.6 % |
1/6/2558 | 1.9 % |
1/7/2558 | 2.7 % |
1/8/2558 | 3.7 % |
1/9/2558 | 2.7 % |
1/10/2558 | 1.9 % |
1/11/2558 | 2.3 % |
1/12/2558 | 2.7 % |
1/1/2559 | 4.1 % |
1/2/2559 | 7.3 % |
1/3/2559 | 7.6 % |
1/4/2559 | 7.4 % |
1/5/2559 | 5.9 % |
1/6/2559 | 4.6 % |
1/7/2559 | 3.3 % |
1/8/2559 | 1.3 % |
1/9/2559 | 3.2 % |
1/10/2559 | 3.7 % |
1/11/2559 | 4 % |
1/12/2559 | 2.4 % |
1/1/2560 | 2.7 % |
1/2/2561 | 4.4 % |
1/3/2561 | 2.1 % |
1/4/2561 | 0.7 % |
1/5/2561 | 0.1 % |
1/6/2561 | 0.3 % |
1/7/2561 | 0.5 % |
1/8/2561 | 1.7 % |
1/9/2561 | 3.6 % |
1/10/2561 | 3.3 % |
1/11/2561 | 2.5 % |
1/12/2561 | 2.5 % |
1/1/2562 | 1.9 % |
1/2/2562 | 0.7 % |
1/3/2562 | 4.1 % |
1/4/2562 | 6.1 % |
1/5/2562 | 7.7 % |
1/6/2562 | 8.3 % |
1/7/2562 | 9.1 % |
1/8/2562 | 10 % |
1/9/2562 | 11.2 % |
1/10/2562 | 15.5 % |
1/11/2562 | 19.1 % |
1/12/2562 | 17.4 % |
1/1/2563 | 20.6 % |
1/2/2563 | 21.9 % |
1/3/2563 | 18.3 % |
1/4/2563 | 14.8 % |
1/5/2563 | 10.6 % |
1/6/2563 | 11.1 % |
1/7/2563 | 13.2 % |
1/8/2563 | 11.2 % |
1/9/2563 | 7.9 % |
1/10/2563 | 2.2 % |
1/12/2563 | 1.2 % |
1/1/2564 | 1.6 % |
1/5/2564 | 0.3 % |
1/11/2564 | 1.6 % |
1/4/2565 | 1.9 % |
1/5/2565 | 2.3 % |
1/6/2565 | 2.9 % |
1/7/2565 | 6.3 % |
1/8/2565 | 6.1 % |
1/9/2565 | 8.8 % |
1/10/2565 | 7 % |
1/11/2565 | 3.7 % |
1/12/2565 | 4.8 % |
1/1/2566 | 6.2 % |
1/2/2566 | 2.6 % |
1/3/2566 | 2.4 % |
1/4/2566 | 0.4 % |
1/5/2566 | 1 % |
เงินเฟ้ออาหาร ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/5/2566 | 1 % |
1/4/2566 | 0.4 % |
1/3/2566 | 2.4 % |
1/2/2566 | 2.6 % |
1/1/2566 | 6.2 % |
1/12/2565 | 4.8 % |
1/11/2565 | 3.7 % |
1/10/2565 | 7 % |
1/9/2565 | 8.8 % |
1/8/2565 | 6.1 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ เงินเฟ้ออาหาร
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇨🇳 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | -1.4 % | -2.5 % | รายเดือน |
🇨🇳 เงินเฟ้อค่าเช่า | -0.3 % | -0.1 % | รายเดือน |
🇨🇳 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 102.9 points | 103 points | รายเดือน |
🇨🇳 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน | 100.3 points | 100.1 points | รายเดือน |
🇨🇳 ต้นทุนการผลิต | 107.5 points | 107.3 points | รายเดือน |
🇨🇳 ตัวคูณ GDP | 736.699 points | 723.774 points | ประจำปี |
🇨🇳 ราคานำเข้า | 102.7 points | 102.4 points | รายเดือน |
🇨🇳 ราคาส่งออก | 95.1 points | 93.7 points | รายเดือน |
🇨🇳 อัตราเงินเฟ้อ | 0.3 % | 0.3 % | รายเดือน |
🇨🇳 อัตราเงินเฟ้อ MoM | -0.3 % | 0 % | รายเดือน |
🇨🇳 อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน | -0.1 % | -0.7 % | รายเดือน |
🇨🇳 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | 0.2 % | 0.1 % | รายเดือน |
🇨🇳 อัตราเงินเฟ้อหลัก MoM | 0.3 % | -0.1 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร เงินเฟ้ออาหาร
ฟู้ดอินเฟลชัน หรืออัตราเงินเฟ้อในภาคอาหาร เป็นประเด็นที่มีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomics) โดยเฉพาะในเว็บไซต์แบบมืออาชีพอย่าง Eulerpool ซึ่งเรามุ่งเน้นการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ถูกต้องและทันสมัย ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจและวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ในบทความนี้ เราจะแนะนำและอธิบายถึงฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ฟู้ดอินเฟลชัน หมายถึงการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในภาคอาหารเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) การขาดแคลนวัตถุดิบ ภัยธรรมชาติ และการปรับตัวของกำลังการผลิต อุปสงค์และอุปทานในตลาด เป็นที่รู้กันดีว่าภาคอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักในการวัดฟู้ดอินเฟลชัน ดังนั้น อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในหมวดอาหารจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อระดับราคาสินค้าและบริการทั้งหมดในสังคม หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ติดตามและรายงานฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยคือตารางดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์ โดยอีกส่วนหนึ่งของข้อมูลนั้นยังมาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Statistical Office) ซึ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลและทำการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การวัดอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจะใช้สถิติจากหลายหมวดหมู่ ยกตัวอย่างเช่น ราคาข้าวและเมล็ดพืช ราคาผักและผลไม้ และราคาผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นต้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ภัยธรรมชาติที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ปัญหาการขนส่งสินค้า การเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบที่นำเข้า และการปรับตัวของระบบซับพลายเชน (Supply Chain) ในภาคอาหาร ยกตัวอย่างเช่น ปีที่ผ่านมา ราคาข้าวที่เป็นสินค้าที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย ได้เพิ่มขึ้นกว่า 10% เนื่องจากปัญหาการเก็บเกี่ยวที่ไม่สมบูรณ์และการลดลงของพื้นที่เพาะปลูก ขณะเดียวกัน ราคาผักและผลไม้ก็เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7-8% เนื่องจากภาวะภัยแล้งและอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ปัญหาฟู้ดอินเฟลชันมีผลกระทบต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต ฝ่ายผู้บริโภคมักจะพบกับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าในภาคอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องปรับการใช้ชีวิตและการตัดสินใจในการจับจ่ายใช้สอย ขณะเดียวกัน ฝ่ายผู้ผลิตก็ต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งอาจะทำให้พวกเขาต้องหาวิธีการลดต้นทุนหรือปรับตัวในการผลิตเพื่อความอยู่รอด ความสำคัญของการติดตามและวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจึงไม่สามารถมองข้ามได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ในการติดตามฟู้ดอินเฟลชัน หน่วยงานต่างๆ และภาคธุรกิจมักใช้เครื่องมือและดัชนีต่างๆ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดทั่วไปที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในดัชนีนี้ มีการแบ่งแยกข้อมูลเป็นหมวดหมู่อย่างละเอียด เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ยารักษาโรค เสื้อผ้า และเครื่องพักอาศัย ซึ่งหมวดอาหารก็จะมีการรายงานแยกย่อยเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นความแปรปรวนของราคาที่ชัดเจนขึ้น การเข้าใจฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายการเงินและการคลังของประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับเงินเฟ้อ โดยการปรับนโยบายดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การทราบข้อมูลเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจึงเป็นส่วนสำคัญในการทำให้การดำเนินนโยบายมีประสิทธิภาพ สุดท้ายนี้ ความรู้เกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การทราบถึงสาเหตุและผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารสามารถช่วยให้คุณสามารถรับมือและวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยเป็นหัวข้อที่ต้องการความสนใจและการวิเคราะห์อย่างละเอียด ด้วยความสำคัญที่มีผลกระทบต่อทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจะช่วยให้คุณสามารถประเมินสถานการณ์และเตรียมตัวในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ดีขึ้น ทาง Eulerpool เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เป็นที่น้ำหนึงใจเดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ